ผู้ใช้บริการดีเซอร์จำนวน 2 ล้านราย - เงินลงทุนจำนวน 130 ล้านเหรียญสหรัฐ ดีเซอร์ประกาศการรวมทุนใหม่กับบริษัท แอคเซส อินดัสทรี่ เพื่อเร่งความเร็วในการรุกตลาดไปทั่วโลก

ดีเซอร์ ผู้ให้บริการเพลงออนไลน์ชั้นนำของโลก ประกาศความสำเร็จในการระดมทุนใหม่ๆ ให้กับบริษัทได้แล้วถึง 130 ล้านเหรียญสหรัฐ การลงทุนครั้งนี้จะมีผลให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและทำให้บริษัท แอคเซส อินดัสทรี่ กลายเป็นผู้ลงทุนที่มีความสำคัญอย่างมากของดีเซอร์ เนื่องจากเป็นเจ้าแรกที่เปิดตัวบริการเพลงออนไลน์ ดีเซอร์จึงมีเพลงให้เลือกฟังกว่า 20 ล้านเพลง และมีผู้ใช้บริการอย่างสม่ำเสมอเดือนละ 7 ล้านราย ซึ่งพวกเขาได้สร้างรายการเพลง (Playlist) ไว้กว่า 100 ล้านรายการ ดีเซอร์จะจัดงานแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ขึ้นเป็นพิเศษที่สตูดิโอแอบบี้โร้ด (Abbey Road Studios) กลางกรุงลอนดอน เวลา 9.00 น. ในวันพุธที่ 10 ตุลาคม นี้ โดยมีความตั้งใจที่จะเปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ในอนาคตด้านงานดนตรีและพูดถึงการที่เงินทุนใหม่ๆที่เพิ่งได้รับมานี้จะช่วยสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้อย่างไร เริ่มตั้งแต่การเปิดตัวทางภูมิศาสตร์ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ มร. เอเซล ดูเช่ซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีเซอร์ เผยว่า “1 ปีที่แล้ว เราเปิดตัวดีเซอร์ไปทั่วโลก ตอนนี้ดีเซอร์กระจายตัวอยู่ทุกทวีป และมีผู้ใช้บริการแบบเสียค่าบริการสมาชิกจำนวน 2 ล้านรายด้วยกัน ถ้าเปรียบเหมือนการเล่นกีฬารักบี้ เรารุกมาได้หลายหลาภายในเวลาแค่ 1 ปี และด้วยเงินลงทุนจำนวน 130 ล้านเหรียญสหรัฐนี้ เราจะปรับเปลี่ยนความพยายาม เราปลาบปลื้มกับการสนับสนุนที่ได้รับจากผู้ลงทุนจากบริษัท แอคเซส อันดัสทรี่เป็นอย่างมาก พวกเขามีภูมิความรู้และเชี่ยวชาญในเชิงของพื้นที่สื่อ และมีจิตวิญญาณของการเป็นนักลงทุนที่เหมือนกับพวกเรา เมื่อมีหุ้นส่วนที่ดีเช่นนี้ ประกอบกับการเติบโตทางธุรกิจที่เราได้พิสูจน์ให้เห็น และภาพรวมของผลกำไรประกอบการที่ผ่านมา จึงสามารถพูดได้ว่าดีเซอร์ได้เดินมาถูกทางแล้วที่จะมุ่งสู่หนทางแห่งการเป็นผู้ให้บริการเพลงออนไลน์ชั้นนำไปทั่วทุกมุมโลก และจะได้ส่วนแบ่งทางการตลาด 5 เปอร์เซ็นต์จากตลาดดนตรีภายในปี 2559” มร. เลน บลาวาทนิค ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งบริษัท แอคเซส อันดัสทรี่ กล่าวว่า “บริษัท แอคเซส อันดัสทรี่ มีความปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ร่วมลงทุนกับดีเซอร์ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ให้บริการเพลงออนไลน์ที่มีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จสูงมาก” ดีเซอร์เริ่มสร้างผลกำไรประกอบการมาตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับกลยุทธ์ 2 ทาง ในการเข้าถึงผู้ใช้บริการทั่วโลก ทั้งแบบทางตรงคือจากความร่วมมือผ่านเฟสบุค และแบบทางอ้อมคือการร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมท้องถิ่น เช่น บริษัทออเร้นจ์ บริษัทดอยทช์ เทเลคอม บริษัทเทเลนอร์ บริษัทมิลลิคอม และบริษัทเบลกาคอม การคงอยู่ของดีเซอร์ยังเป็นผลมาจากกลวิธีที่มุ่งเน้นการทำให้ตลาดเติบโตขึ้นมากกว่าที่จะเน้นกลุ่มลูกค้าในสหรัฐอเมริกาที่ซึ่งความเข้มข้นของการแข่งขันทำให้ค่าใช้จ่ายของลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสิ่งสุดท้าย ต้นแบบของรายได้ที่เป็นผลกำไรของดีเซอร์คือผลลัพธ์ของการทำงานที่ยาวนานและใช้ความอดทนสูงกับทั้งทางค่ายเพลงและตัวศิลปินในการสร้างสรรค์ข้อเสนอต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเน้นย้ำถึงเป้าหมายของพวกเขาในแง่ของการถูกแนะนำโดยบทความจากบรรณาธิการและการขยายตัวสู่ตลาดใหม่ๆ มร. เอเซล ดูเช่ซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีเซอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราไม่เชื่อในเรื่องของการพนันในอนาคตของดนตรี เพราะฉะนั้น ทั้งการกอบกู้และการเจริญเติบโตในอนาคตของธุรกิจดนตรีต้องอาศัยบริษัทอย่างดีเซอร์ในการพัฒนาตัวแบบของธุรกิจระยะยาวที่สร้างกำไรได้เพื่อนำส่งให้ถึงผู้มีบทบาททั้งหลายในอุตสาหกรรมนี้ ตั้งแต่ผู้ประพันธ์เพลง ศิลปิน ไปจนถึงผู้ให้บริการเพลงออนไลน์ ที่สำคัญกว่านั้น อุตสาหกรรมนี้ต้องการผู้ให้บริการเพลงออนไลน์ที่สามารถรับรองความเป็นเอกเทศของตนเองในอนาคตได้ ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ที่สร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นได้เป็นอันดับแรก เพื่อใช้ในการแข่งขันเพื่อนำบริการเพลงออนไลน์ไปสู่สากลโลก นี่คือเหตุผลสำคัญที่บริษัท แอคเซส อินดัสทรี่ ถูกรับเลือกให้เข้ามาร่วมลงทุนกับดีเซอร์” เกี่ยวกับดีเซอร์ (Deezer) ดีเซอร์ เป็นผู้นำตลาดด้านมิวสิคสตรีมมิ่งของโลก ด้วยจำนวนผู้ใช้งาน 23 ล้านคนจาก 88 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ดีเซอร์ยังมีผู้ลงทะเบียนใช้งาน 1.5 ล้านคน แฟนเพจบน Facebook มากกว่า 800,000 คนและผู้ติดตามทาง Twitter ถึง 350,000 คน ดีเซอร์เปิดประสบการณ์โลกแห่งดนตรีพาคุณฟังเพลงใหม่แกะกล่องทุกวัน พร้อมการเล่นเพลงในระบบสตรีมมิ่งและดาวน์โหลดเพลงจากแคตตาล็อกที่มีถึงกว่า 18 ล้านแทร็กได้แบบไม่จำกัด การบริการเพลงของดีเซอร์อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานโดยไม่ต้องพึ่งพาการดาวน์โหลดจากซอฟต์แวร์และสามารถใช้งานบนคอมพิวเตอร์พีซี แมค สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เชื่อมต่อหลากหลายรุ่น ในเดือนกันยายน 2554 ดีเซอร์ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับ Facebook เพื่อขยายฐานธุรกิจผ่านเครือข่ายสังคมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ดีเซอร์เริ่มขยายธุรกิจสู่ทั่วโลก (ยกเว้นญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา) ในวันที่ 8 ธันวาคม 2554 ร่วมเปิดประสบการณ์ดนตรีกับดีเซอร์ www.deezer.com m.deezer.com Facebook.com/deezer Twitter: DeezerWorld -กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวประชาสัมพันธ์
• ข่าวการลงทุน
• ข่าวดีเซอร์
• ข่าวเปิดตัว
• ข่าวออนไลน์