บริจาคเพื่อการศึกษาและกีฬา ลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่า

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานเปิดงานเสวนาพิเศษในหัวข้อ “รวมพลังกำลัง 2 เพื่อการศึกษาและกีฬา” ณ ห้องพระอุเทน 1 กรมสรรพากร ซึ่งมีผู้เสวนาประกอบด้วย ดร.สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และนายสุรพันธ์ ภาษิตนิรันดร์ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ จำกัด (มหาชน) โดยมีผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมฟังกว่า 500 คน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “รัฐบาล มีนโยบายส่งเสริมการศึกษาและการกีฬา และมีมาตรการภาษีให้สิทธิประโยชน์พิเศษแก่เอกชนที่ช่วยเหลือสังคมโดยการบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษาและการกีฬา ให้ใช้สิทธิได้ 2 เท่าของเงินที่บริจาค ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2555 เห็นชอบกับมาตรการนี้แล้ว สิทธิประโยชน์พิเศษนี้ จะมีผลกับการบริจาค ในช่วงปี 2556 – 2558 และจะได้มีการทบทวนผลของมาตรการต่อไป” ดร. สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “โดยทั่วไปผู้ที่บริจาคเพื่อการศึกษาสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าอยู่แล้ว แต่จะมีเงื่อนไขว่าจะต้องบริจาคเพื่อสร้างอาคาร จัดหาอุปกรณ์การศึกษา จัดหาครูอาจารย์หรือเป็นทุนนักเรียนเท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงการบริจาคในกรณีอื่นๆ เช่น การบริจาคเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่ครู ส่วนการบริจาคเพื่อการกีฬานั้น เดิมหักได้เท่าเดียว ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้เสนอให้ใช้สิทธิได้ 2 เท่า และตัดเงื่อนไขด้านวัตถุประสงค์การบริจาคออก เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นและกระตุ้นให้มีการบริจาคมากขึ้น โดยบุคคลธรรมดาสามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของเงินที่บริจาค แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้สุทธิ ส่วนบริษัทจะสามารถบริจาคเงินหรือทรัพย์สินก็ได้ และตัดรายจ่ายได้ 2 เท่า แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิ”-นท-

ข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง+สุรพันธ์ ภาษิตนิรันดร์วันนี้

ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่ม SM ลดอัตราดอกเบี้ย - ลดเงินงวด นานสูงสุด 1 ปี

ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 31 ธันวาคม 2568 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขานรับนโยบายนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) ให้กลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามปกติ เพื่อรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวด นานสูงสุด 1 ปี ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์

ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภั... สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมเปิดงาน MONEY EXPO 2025 BANGKOK — ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25...

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐม... "รมว.คลัง" เยี่ยมชมบูธกรุงไทย "ALIVE อิสระทางการเงินที่ยั่งยืน" ในงาน Money Expo 2025 — นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ...

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐม... ธนาคารกรุงไทย ร่วมฉลองครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง เคียงข้างไทยในทุกก้าวสำคัญ — นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียร...

ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิ... ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิจ ปี 2567 "ระดับดีเด่น" มากสุดเป็นประวัติการณ์ — ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิจ ปี 2567 "ระดับดีเด่น"...

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐม... 19 ปีแห่งความภูมิใจ ปตท. คว้า 6 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น มุ่งดำเนินธุรกิจยั่งยืนอย่างสมดุล — นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค...

นายภูวนารถ ณ สงขลา บรรณาธิการบริหาร สำนัก... บางกอกทูเดย์จัดเสวนา "2568 สัญญาณอันตรายรัฐบาล ในสายตากูรูการเมือง" — นายภูวนารถ ณ สงขลา บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ เป็นประธานจัดงานฉลองครบรอบ...