ช่อง 3 ปรับข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ อัดแน่นด้วยเนื้อหา เต็มอิ่มตลอด 2 ชั่วโมงครึ่ง เริ่ม พฤหัสที่ 1 พฤศจิกายน นี้

02 Nov 2012

กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--ไทยทีวีสีช่อง 3

ไทยทีวีสีช่อง 3 ปรับช่วงเวลา “ข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์” เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมที่ติดตามข่าวสารของสถานีฯ มาอย่างต่อเนื่องกับ 3 ผู้ประกาศแถวหน้า กรุณา บัวคำศรี – ขวัญชนก เจริญพะกุไพศาล – มินดา นิตยวรรธนะ ที่มาพร้อมกับไฮไลท์เด่นๆของประเด็นข่าว ก่อนเข้าสู่เนื้อหาที่เข้มข้นของแต่ละช่วง พบ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” โฉมใหม่เริ่มวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน ศกนี้ เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา11.05 น. – 13.30 น.

สำหรับข่าว “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” โฉมใหม่ นี้ “นายสำราญ ฉัตรโท” รองกรรมการผู้จัดการ ได้เปิดเผยว่า “ สำหรับการปรับช่วงเวลาข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์นี้ เราต้องการให้คนดูข่าวแล้วมีความต่อเนื่อง ตลอดช่วงเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยการบริหารจัดการข่าว ให้มีอิมแพ็คมากยิ่งขึ้นโดยจะเริ่มตั้งแต่รายการ ตู้ปณ.ข่าว 3 ต่อด้วย Special Report จอโลกเศรษฐกิจ เอเชียคอนเน็ค ทีวี 360 องศา ข่าวต่างประเทศ ข่าวกีฬา ต่อด้วย โต๊ะข่าวบันเทิง และปิดท้ายที่ เก็บตก ตัวรายการแต่ละรายการจะเป็นเสมือนคอลัมน์คอลัมน์หนึ่ง ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ฉะนั้นมันก็จะเป็นแพ็คใหญ่ที่จะทำให้เป็นภาพของข่าวช่อง 3 อาจเรียกได้ว่าเป็นอัพเดทไทยแลนด์ แต่ก็ยังใช้ชื่อเที่ยงวันทันเหตุการณ์ และในอนาคต รายการข่าวจะขึ้นซับไตเติ้ลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ตอนนี้ก็เริ่มแล้วบางช่วงเวลาอาทิเช่น รายการจอโลกเศรษฐกิจ โดย คุณบัญชา ชุมชัยเวทย์ และ เอเชียคอนเน็ค โดย คุณชิบ จิตนิยม ทั้งนี้เพื่อให้คนในภูมิภาคอาเซี่ยนได้รับรู้ได้เข้าใจ และในขณะเดียวกัน ทางสถานีอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ทำสกู๊ปข่าวเป็นภาษาอังกฤษส่งให้กับสถานีโทรทัศน์ในภูมิภาคอาเซี่ยนที่เราได้เซ็นสัญญา MOU ไว้ด้วย”

และนอกจากการปรับช่วงเวลาข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์แล้ว อีกรายการที่ไม่ควรพลาดคือ การรายผลการเลือกตั้งประธาธิบดีสหรัฐอเมริกา “เกาะติดเลือกตั้งทำเนียบขาว 2012” ซึ่งฝ่ายข่าว ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้เตรียมพร้อมสำหรับการนำเสนอ ไว้อย่างรอบด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการรายงานข่าว การวิเคราะห์เจาะลึก พร้อมเทคนิคการนำเสนอ เพื่อให้ผู้ชมได้รับรู้ได้เข้าใจ มิใช่แค่ผลแพ้ชนะการเลือกตั้ง แต่จะได้เห็นถึงภาพรวมและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังจากการเสร็จสิ้นการเลือกตั้งในครั้งนี้

-กภ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net