คลังกระตุ้นการออมเพื่อการเกษียณ ให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ กรณีลาออกแต่คงเงินออมจนถึง 55 ปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

กระทรวงการคลัง เพิ่มสิทธิลูกจ้างที่ออกจากงานก่อน 55 ปีแต่ยังคงเงินสะสมและผลประโยชน์ในกองทุนจนถึงอายุ 55 ปี ให้ยกเว้นการคำนวณภาษีเงินได้ รวมทั้งขยายเวลามาตรการช่วยเหลือนักลงทุน ผู้ประกอบการและประชาชน ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนถึง 31 ธันวาคม 2557 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเห็นชอบในการแก้ไขหลักเกณฑ์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้สิทธิยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้ไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคล สำหรับลูกจ้างที่ออกจากงานก่อนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ แต่ยังคงเงินสะสมและผลประโยชน์ทั้งจำนวนไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจนถึงอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ โดยสิทธิดังกล่าวจะครอบคลุมในกรณีลูกจ้างเสียชีวิตหรือทุพพลภาพด้วย จากเดิมลูกจ้างจะได้รับสิทธิในการยกเว้นภาษีเงินได้ของเงินสะสมและผลประโยชน์จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เฉพาะกรณีเกษียณอายุตามข้อบังคับของกองทุน เสียชีวิต หรือออกจากงานเพราะทุพพลภาพเท่านั้น “การแก้ไขกฎเกณฑ์ โดยให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ของเงินสะสมและผลประโยชน์จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างที่ออกจากงานก่อนอายุ 55 ปี แต่ฝากเงินสะสมและผลประโยชน์ให้กองทุนฯ บริหารต่อ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกจ้างออมเงินระยะยาวเพื่อไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณอายุ ซึ่งสิทธิประโยชน์ดังกล่าวเป็นแนวทางเดียวกับที่สมาชิกกองทุนเพื่อการเกษียณโดยทั่วไปได้สิทธิอยู่ในปัจจุบัน” นายกิตติรัตน์กล่าว นอกจากนี้สำนักนโยบายภาษี สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้พิจารณาขยายเวลามาตรการช่วยเหลือเกี่ยวกับนักลงทุน ผู้ประกอบการ และประชาชนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ประกอบด้วย จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอ ในจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา) ออกไปอีก 2 ปี จากเดิมที่สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 เป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ ถือเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ดังกล่าว สำหรับมาตรการช่วยเหลือนักลงทุน ผู้ประกอบการและประชาชนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนใต้ ที่มีการขยายเวลา ได้แก่ 1. มาตรการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่จัดเก็บจากกำไรสุทธิ ในปี 2555 ที่ร้อยละ 23 และในปี 2556 ที่ร้อยละ 20 เหลือเพียงร้อยละ 3 2. มาตรการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้สามารถนำเงินพึงประเมินมาตรา 40(7) และ (8) มาคำนวณในอัตราร้อยละ 0.1 ของยอดเงินพึงประเมิน โดยสามารถเลือกที่จะไม่นำเงินได้นั้นไปรวมคำนวณภาษีปลายปี และในส่วนของเงินได้ที่ได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ให้ลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เหลือร้อยละ 0.1 ด้วยเช่นกัน 3. ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นการค้าหรือหากำไรในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 0.1 4. มาตรการลดค่าธรรมเนียม จดทะเบียนสิทธินิติกรรม การจดทะเบียนการโอนและการจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 ของราคาประเมินในกรณีการโอน และเหลือร้อยละ 1 ของราคาประเมินแต่ไม่เกิน 200,000 บาท กรณีการจำนองอสังหาริมทรัพย์ 5. มาตรการชดเชยส่วนต่างเบี้ยประกัน โดยการสนับสนุนส่วนต่างของเบี้ยประกันภัยทรัพย์สินคุ้มครองภัยก่อการร้ายในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ระหว่างร้อยละ 0.3 – 2 6. มาตรการสินเชื่อผ่อนปรน ให้ธนาคารออมสินสนับสนุนวงเงินสินเชื่อจำนวน 25,000 ล้านบาท เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจกู้ในอัตราผลตอบแทนร้อยละ 0.01 และปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการในอัตราผลตอบแทนร้อยละ 1.5 7. มาตรการพักชำระหนี้เกษตรกร ให้มีการพักชำระหนี้ลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)พักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปีโดยในปีแรกรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระดอกเบี้ยวงเงินต้นไม่เกิน 200,000 บาท ในอัตรา MRR และในปี 2 และ 3 สำหรับดอกเบี้ยในส่วนเงินต้นที่เกิน 200,000 บาท เกษตรกรต้องรับภาระเอง 8. มาตรการลดค่าธรรมเนียมกึ่งหนึ่งเกี่ยวกับการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสาร และค่าธรรมเนียมอื่นๆ 9. มาตรการสนับสนุนจากกองทุนประกันสังคม เพื่อใช้เป็นสินเชื่อผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคมในวงเงิน 1,000 ล้านบาท โดยให้ผู้ประกอบการกู้เงินในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี และ ผู้ประกันตนกู้ในอัตราร้อยละ 6 ต่อปี 10. มาตรการส่งเสริมการลงทุนเป็นกรณีพิเศษใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 3 ปี แต่ไม่เกินร้อยละ 100 ของมูลค่าการลงทุน สำหรับโครงการใหม่จะได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020-นท-

ข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง+กองทุนสำรองเลี้ยงชีพวันนี้

FWD ประกันชีวิต รับรางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการพัฒนาดีเด่น จาก คปภ.

บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ FWD ประกันชีวิต รับรางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการพัฒนาดีเด่น ประจำปี 2567 จากนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งให้เกียรติเป็นประธาน ในงานพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร ประจำปี 2568 (Prime Minister's Insurance Awards 2025) ภายใต้แนวคิด INSURENEXT Driving the Future of Insurance with Digital Innovation & Sustainability "ขับเคลื่อนอนาคตประกันภัย ด้วยนวัตกรรมดิจิทัลและความยั่งยืน" จัด

ธนาคารกรุงไทยร่วมสนับสนุนการจัดการแข่งขัน... กรุงไทยสนับสนุนการแข่งขันมวยสากลชิงแชมป์เอเชีย 2025 โชว์ศักยภาพนักกีฬาไทยสู่เวทีโลก — ธนาคารกรุงไทยร่วมสนับสนุนการจัดการแข่งขัน มวยสากลชิงชนะเลิศแห่งเอเชี...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยผลการดำเนิ... ธอส. โชว์ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 ปล่อยสินเชื่อใหม่แล้วกว่า 107,000 ล้านบาท — ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 ปล่อยสินเช...

รมว. คลัง แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ก.ล.ต.

นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้แก่ นายอนันต์ แก้วกำเนิด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน นายชาญชัย ชัยประสิทธิ์...

ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภั... สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมเปิดงาน MONEY EXPO 2025 BANGKOK — ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25...