บลจ. แอสเซท พลัส จะเปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่กองทุน ASP-ACFIXED1 ลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ไทย วันที่ 12 ธันวาคม 2555 นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--บลจ. แอสเซท พลัส

บลจ.แอสเซท พลัส เตรียมเปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 1 (ASP-ACFIXED1) ลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ไทย อายุประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 2.95% ต่อปี* เปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ 12 ธันวาคม 2555 นี้ นางสาวฤดี ปติอารยกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส กล่าวว่า เศรษฐกิจปี 56 ยังมีโอกาสเผชิญกับการชะลอตัวลง หลังจากเศรษฐกิจปี 55 ได้กระเตื้องขึ้นจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นภายหลังเผชิญเหตุการณ์มหาอุทกภัย ซึ่งจะเห็นได้จากผลประกอบการไตรมาส3/55 ของบริษัทจดทะเบียนบางบริษัทเริ่มมีกำไรลดลง อีกทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจในต่างประเทศทั้งสหรัฐ ยุโรป รวมถึง ญี่ปุ่น ยังคงมีความผันผวนและมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยสหรัฐฯยังรอความชัดเจนหลังหมดเรื่องของมาตรการหน้าผาทางการคลัง(Fiscal Cliff) ในขณะที่ยุโรปมีความกังวลจากปัญหาหนี้ของสเปน ซึ่งรัฐบาลต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อลดตัวเลขหนี้สาธารณะในประเทศลง สำหรับประเทศญี่ปุ่นมีแนวโน้มเศรษฐกิจจะต้องเผชิญกับภาวะขาลงจากความไม่แน่นอนของปัจจัยเศรษฐกิจในต่างประเทศ และผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษี รวมทั้งความเป็นไปได้ที่ทางรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นจะเลื่อนการใช้มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศออกไป อย่างไรก็ดี จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ประเมินว่าส่วนหนึ่งจะเป็นผลดีต่อภาวะการลงทุนในตราสารหนี้ เพราะอาจมีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาในตลาดตราสารหนี้มากขึ้น สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ย คาดว่าในปีหน้าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งจากระดับปัจจุบัน 2.75% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากประเมินว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนต.ค.ที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจเท่าที่ควร เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไปมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลงน้อยกว่าการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของทาง กนง. นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการขายและการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยช่วงขาลงโดยทั่วไปผู้ลงทุนควรลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว แต่เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยังมีความผันผวน ดังนั้น สำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงจากความผันผวนและต้องการการลงทุนที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก บริษัทฯ จึงแนะนำให้ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะเวลาสั้น 3 - 6 เดือน ซึ่งในวันที่ 12 ธันวาคม บริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 1 (ASP-ACFIXED1) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ในประเทศที่เสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้จะพิจารณาลงทุนในตั๋วแลกเงิน เงินฝาก และพันธบัตรรัฐบาล อายุประมาณ 3 เดือน โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 2.95%* ต่อปี*” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว-กภ-

ข่าวผลประกอบการไตรมาส+ฤดี ปติอารยกุลวันนี้

เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ย้ำฐานะบริษัทแข็งแกร่งแม้เผชิญภาวะตลาดผันผวน ครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 134 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุกครึ่งปีหลัง

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยืนยันสถานะการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง และไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม แม้ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 จะสะท้อนผลกระทบจากภาวะตลาดทุนที่ผันผวนและชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำว่าบริษัทฯสามารถรักษากำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกได้ที่ระดับ 134 ล้านบาท และยังคงได้รับเครดิตเรตติ้งระดับ AA เช่นเดิม สะท้อนความมั่นคงและศักยภาพในการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า"ใน

เคาะจ่ายปันผลครึ่งปี 0.35 บาท/หุ้น พร้อมป... ไทยยูเนี่ยนจัดเต็ม โชว์ GPM สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 19.7% ดัน EPS เติบโต 18% ไตรมาส 2 — เคาะจ่ายปันผลครึ่งปี 0.35 บาท/หุ้น พร้อมประกาศผนึกกำลังสองบิ๊กคอ...

จีเอ็มเอ็ม มิวสิค (GMM Music) เผยผลประกอบ... GMM Music โตแกร่งสวนกระแสเศรษฐกิจ โชว์ผลงานไตรมาส 1 ปี 68 รายได้โตพุ่งทะยานเกือบ 20% — จีเอ็มเอ็ม มิวสิค (GMM Music) เผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2568 แข็...

นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้า... "MEDEZE" ย้ำบทบาทผู้นำธนาคารสเต็มเซลล์ไทย โชว์กำไร Q1/68 พุ่ง — นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ "...