TNDT ยังโชว์ผลงานโค้งสามยอดเยี่ยม เล็งเพิ่มธุรกิจใหม่เสริมความแข็งแกร่งในระยะยาว

TNDT ยังโชว์ผลงานขับเคลื่อนธุรกิจได้ดี Q3/55 ปั๊มกำไรโตต่อเนื่องมาอยู่ที่ 24.36 ลบ. จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 20.98 ลบ. หนุนกำไรสะสมงวด 9 เดือนมาอยู่ที่ 54.18 ลบ. จากช่วงเดียวกันของปี 2554 ที่ทำได้ 50.28 ลบ. " ชมเดือน ศตวุฒิ" เผย เป็นผลจากมีงานเข้ามือต่อเนื่อง คุยธุรกิจหลักเติบโตมั่นคง เตรียมเล็งขยายฐานธุรกิจเพิ่มเพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้ที่เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ด้าน บล.เกียรตินาคิน เห็นพ้องปรับมูลค่าเหมาะสมเป็น 7.10 บาท นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing - NDT) เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจบริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรม ความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลายว่า ยังมีทิศทางเติบโตได้ดี ทั้งจากกลุ่มลูกค้าเดิมที่ใช้บริการมาอย่างต่อเนื่องและการขยายฐานไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เข้าร่วมประมูลงานอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนให้มูลค่างานในมือ (Backlog) เติบโตขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน จึงส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2555 ที่ผ่านมาเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในปี 2555 ผลประกอบการของบริษัทฯ ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ที่คาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่ทำได้ 305.51 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 76.16 ล้านบาท “มั่นใจว่าปีนี้ TNDT ยังคงทำผลงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งจะเห็นได้ว่าในธุรกิจให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเพื่อลดความเสี่ยงธุรกิจที่เรามีธุรกิจหลักเพียงธุรกิจเดียว แม้จะเติบโตในอัตราที่มั่นคงอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่ก็คงต้องหาธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีโอกาสสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวเข้ามาดำเนินการเพิ่มด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ ทั้งการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนเพิ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้ และมั่นใจว่าการขยายฐานธุรกิจในครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ รับมือกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ใน ปี 2558 ได้เป็นอย่างดี” นางสาวชมเดือนกล่าว ทั้งนี้ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) แจ้งผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาสที่ 3/2555 (กรกฎาคม-กันยายน) ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 93.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 85.04 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวม 68.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายรวม 63.97 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 24.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3/2554 ที่ทำได้ 20.98 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือน (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 246.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 219.99 ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายรวม 192.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายประจำงวด 169.46 ล้านบาท ขึงส่งผลให้ในงวด 9 เดือนของปี 2555 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 54.17 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.54 บาท เทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 50.28 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.50 บาท ด้านบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า TNDT รายงานกำไรประจำงวดไตรมาสที่3/2555 ออกมาดีกว่าที่คาด และยังคาดว่าผลประกอบการของ TNDT จะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องตาม ความต้องการบริการ NDT ที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ TNDT ยังมีโอกาสเติบโตจากการเข้าสู่ตลาดใหม่ประเทศลาว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างตรวจสอบสถานะทางการเงินของคู่ค้า ดังนั้น บล.เกียรตินาคิน จึงยังแนะนำ “ซื้อ” ประเมินมูลค่าเหมาะสม 7.10 บาท ถึงแม้ว่ายังคงคาดผลประกอบการปี 2555 จะทรงตัวจากปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามความต้องการงานทดสอบทางวิศวกรรมที่อยู่ในระดับสูง แต่ผลจากการปรับขึ้นค่าแรงจึงคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลงเล็กน้อยประมาณ 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 74 ล้านบาท ข้อมูลบริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT ผู้ประกอบธุรกิจการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing - NDT) ซึ่งเป็นวิธีการทดสอบเพื่อหาจุดบกพร่อง รอยแยก รอยรั่ว การปนเปื้อน ความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อถูกกระทบโดยปัจจัยแวดล้อมและความไม่สมบูรณ์ของ วัสดุอุปกรณ์ ส่วนประกอบหรือโครงสร้างต่าง ๆ โดยที่ทั้งก่อน ขณะปฏิบัติการและภายหลังการทดสอบ จะไม่มีส่วนทำให้ชิ้นงานมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือคุณสมบัติ โดยตัวอย่างของการทดสอบด้วย NDT อาทิเช่น การตรวจสอบและทดสอบระบบความปลอดภัยต่อการใช้งานของอุปกรณ์ ระบบท่อลำเลียง น้ำมัน ก๊าซ สารเคมี ทั้งทางบกและทางทะเลภาชนะรับแรงดันสูง อาทิ เช่น ถังบรรจุก๊าซ NGV (Natural Gas Vehicle) LPG (Liquid Petroleum Gas) หม้อต้มไอน้ำ(Boiler) รวมถึงการตรวจสอบและทดสอบโครงสร้างโลหะเหล็กขนาดใหญ่ ซึ่งกลุ่มลูกค้าโดยส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นกลุ่มลูกค้าภายในประเทศ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตปิโตรเลียม ซึ่งได้แก่ การผลิตและสำรวจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นต้น ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : IR PLUS คุณอิศราภรณ์ วีระคงสุวรรณ (อิ่ม) โทร. 02 – 541 – 4011 ต่อ 321 อีเมลล์ : [email protected] www.irplus.in.th-กภ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวชมเดือน ศตวุฒิ
• ข่าวเกียรตินาคิน
• ข่าวขับเคลื่อน
• ข่าวยั่งยืน
• ข่าวผู้จัด