TNDT ย้ำปัญหาศรษฐกิจชะลอตัวไม่กระทบธุรกิจ มั่นใจปี 57 โตตามเป้า หลัง 9 เดือนกำไรพุ่งกว่า 20%

          “ชมเดือน ศตวุฒิ” กรรมการผู้จัดการ TNDT มั่นใจธุรกิจหลักยังแข็งแกร่ง ฝ่าปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ดันผลประกอบการปี 57 โตต่อเนื่องได้แน่ หลัง 9 เดือนแรกทำกำไรพุ่งทะลุ 70 ลบ. เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 58.51 ลบ. 
          นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT ผู้นำในธุรกิจให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing - NDT) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2557 ว่า ยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี 
          โดยคาดว่าจะผลักดันทั้งรายได้และกำไรให้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ซึ่งจะเห็นได้จากผลประกอบการในงวด 9 เดือนที่ผ่านมาสามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 70.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.32 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.05 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 58.51 ล้านบาท และถือว่าใกล้เคียงกับผลประกอบการในปี 2556 ทั้งปีที่มีกำไรสุทธิ 86.15 ล้านบาท สะท้อนผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย
          “มั่นใจว่าปี 57 TNDT ยังเติบโตต่อเนื่องได้แบบสวนกระแสเศรษฐกิจ เพราะดูจากผลประกอบการ งวด 9 เดือน เราเข้ามาใกล้เคียงกำไรที่ทำได้ในปีก่อนมาก ถึงแม้ว่าไตรมาสที่ 3 ปีนี้กำไรจะต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย เพราะเป็นช่วงของการขยายธุรกิจหลักและลงทุนในธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งทางผู้บริหารทุกคนมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตไปด้วยกันทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างผลประกอบการของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว” นางสาวชมเดือน กล่าว
          ทั้งนี้ TNDT แจ้งผลประกอบการประจำงวด 9 เดือนปี 2557 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 ว่าบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 346.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 262.375 ล้านบาท และใกล้เคียงกับปี 2556 ทั้งปีที่ทำได้ 374.59 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 70.83 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.71 บาท เพิ่มขึ้น 12.32 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.05 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 58.51 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.59 บาท ส่วนในงวดไตรมาสที่ 3/2557 (กรกฎาคม – กันยายน) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 20.70 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 26.49 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงของการขยายธุรกิจหลักและลงทุนในธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น