คุมกำเนิดอย่างปลอดภัย...เมื่อไม่พร้อม ทางออกปัญหาสังคมท้องและแท้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--กนกนรัตน์ แอนด์ เฟรนด์

สถิติจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบสาวไทยวัยรุ่นปีละกว่า 70,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ท้องไม่พร้อม และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 ต่อปี ที่น่าห่วงคือไม่มีความรู้เรื่องเพศและการคุมกำเนิดเพียงพอ ส่งผลต่อเนื่องทั้งด้านสังคมและสุขภาพของแม่ที่ตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม โดยสาเหตุเกิดจากการลืมกินยาคุมกำเนิด ใช้วิธีนับระยะปลอดภัย หลั่งภายนอก หรือไม่คิดว่าจะมีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้สาเหตุที่แท้จริงเกิดจากการไม่ได้รับข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้อง ดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องร่วมกันป้องกันและแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการรณรงค์เรื่องการเคารพเพศตรงข้าม การมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมทางเพศของตนเองทั้งชายและหญิง และการให้ความรู้เรื่องเพศสัมพันธ์ ตลอดจนการคุมกำเนิดที่ปลอดภัย ดร.นพ.เกษมสิษฐ์ แก้วเกียรติคุณ อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวถึงเหตุผลหลายประการที่คุณผู้หญิงยังไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ว่า อันดับต้นๆ คือการขาดความรู้ที่จะคุมกำเนิดที่ปลอดภัย ตามมาด้วยไม่แน่ใจว่าจะเลือกวิธีไหนดี ส่วนใหญ่จะใช้วิธีซื้อยาเม็ดคุมกำเนิดรับประทานเอง ซึ่งอาจรับประทานยาไม่ถูกต้องหรือลืมรับประทานยา ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ บางคนก็อาจมีอาการข้างเคียงจากยาเม็ดคุมกำเนิดจนต้องหยุดยา หรือก็ไม่คุมกำเนิดเลยเพราะไม่มีความรู้ในการคุมกำเนิดโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ทำให้มีปัญหาตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำเพิ่มเติมว่า การคุมกำเนิดแบบชั่วคราวที่เป็นฮอร์โมนมีหลายวิธี ได้แก่ ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด และยาฝังคุมกำเนิด ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน การเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับแต่ละคนขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ระยะเวลาที่ต้องการคุมกำเนิด ภาวะหรือโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามในแต่ละวิธี รวมทั้งอาการข้างเคียงของแต่ละวิธี ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนการเริ่มคุมกำเนิด ด้านปัญหาของการคุมกำเนิด สำหรับยาเม็ดคุมกำเนิดที่นิยมใช้กันเพราะหาซื้อได้ง่าย มีข้อเสียคือต้องรับประทานทุกวันในเวลาเดิม ปัญหาที่พบบ่อยคือลืมรับประทานยา ทำให้ประสิทธิผลของยาลดลง นอกจากนั้นยาเม็ดคุมกำเนิดบางชนิดมีระดับฮอร์โมนสูง ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ เป็นฝ้าได้ สำหรับยาฉีดและยาฝังคุมกำเนิดก็อาจมีปัญหาประจำเดือนผิดปกติ เลือดออกกระปริดกระปรอย หรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ผลข้างเคียงเหล่านี้ทำให้คุณผู้หญิงบางคนไม่มีทางเลือกที่ดีในการคุมกำเนิด ปัจจุบันจึงมีการพัฒนานวัตกรรมการคุมกำเนิดแบบใหม่เพื่อลดปัญหาจากวิธีการคุมกำเนิดแบบเดิม นั้นก็คือการคุมกำเนิดด้วยวงแหวนคุมกำเนิด ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้หญิงยุคนี้ มีลักษณะเป็นวงแหวนพลาสติกนุ่ม ยืดหยุ่นได้ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 5 เซนติเมตร ประกอบด้วยฮอร์โมนเช่นเดียวกับยาเม็ดคุมกำเนิด แต่ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดทันที โดยจะปล่อยฮอร์โมนออกมาในปริมาณต่ำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดทำให้ประสิทธิผลดีกว่ายาเม็ดคุมกำเนิด ผลข้างเคียงน้อยกว่า และประจำเดือนมาสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงทุกคนที่ต้องการความสะดวกในการคุมกำเนิด ต้องการให้รอบประจำเดือนมาปกติ หรือในรายที่มีปัญหาจากการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอหรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากยาฉีดและยาฝังคุมกำเนิด นอกจากนั้นผู้ที่ลืมรับประทานยาคุมกำเนิดบ่อยๆ หรือเวลาการทำงานไม่แน่นอน เช่น ทำงานเป็นกะก็ใช้วงแหวนคุมกำเนิดได้ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาการรับประทานยาคุมกำเนิด สำหรับวิธีใช้วงแหวนคุมกำเนิดง่าย และสะดวก สามารถใส่ด้วยตนเอง โดยสอดเข้าไปในช่องคลอดคล้ายกับการเหน็บยาในช่องคลอด ปล่อยไว้ 3 สัปดาห์ ในระหว่างนี้สามารถมีกิจกรรมทางเพศได้ตามปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ทั้งผู้ใช้และคู่สมรส ไม่ระคายเคือง ไม่ทำให้ตกขาวหรือติดเชื้อในช่องคลอด แต่จะทำให้สภาวะแวดล้อมในช่องคลอดเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดไม่แห้ง การตกขาวติดเชื้อลดลงเมื่อครบ 3 สัปดาห์ก็เอาออก เว้นไป 1 สัปดาห์ จะมีประจำเดือนมาตามปกติ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้มีทางเลือกในการคุมกำเนิดสำหรับผู้หญิงยุคใหม่มากมาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดให้เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน หากไม่แน่ใจว่าวิธีใดเหมาะสม ก็ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือดีที่สุดคือไม่มีเพศสัมพันธ์เมื่อไม่พร้อม ถือเป็นทางออกป้องกันปัญหาสังคม ท้องและ แท้ง ตามมา ดร.นพ.เกษมสิษฐ์ แก้วเกียรติคุณ กล่าวทิ้งท้าย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด (ที่ปรึกษาด้านงานประชาสัมพันธ์) โทร.02-2842662 แฟกซ์. 02-284-2287,2291 www.kanokratpr.com คุณกนกรัตน์ วีรานุวัตติ์ E-mail: [email protected] -นท- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวกระทรวงสาธารณสุข+กระทรวงสาธารณวันนี้

"ใครกรนต้องรู้! มจธ. พัฒนา 'หมอนรองคออัจฉริยะ' สั่นเตือนก่อนคุณหยุดหายใจ"

"การกรน" เป็นสัญญาณของภัยเงียบที่ร้ายแรงกว่าที่หลายคนคิด เพราะคือเสียงเตือนของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea OSA) ที่กำลังเป็นปัญหาด้านสุขภาพของคนทั่วโลก โดยเฉพาะเพศชาย อายุ 30 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือผู้ที่มีโครงสร้างทางเดินหายใจแคบ ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลเฉพาะด้านการนอนเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงของ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง และอุบัติเหตุจากการหลับใน ในประเทศไทยเอง งานวิจัยของ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ประชากรไทยมากถึง 10-30%

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธ... สบส. เผยผลสำรวจพฤติกรรมการถูกกลั่นแกล้ง พบเด็กไทยเสี่ยงทำร้ายตัวเองมากกว่า 1 ใน 4 — กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ร่วมเครือข่ายเฝ้าระวัง...

กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหก... ส.อ.ท. ผนึกภาครัฐ-เอกชน-นักวิจัย จัด BIOTEC FTI Forum ดันเทคโนโลยีชีวภาพสร้างอนาคตเศรษฐกิจไทย — กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ...

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข "ชัยชน... สธ. เปิดตัว "Smart Healthcare TTM" ยกระดับการให้บริการแพทย์แผนไทย ด้วยเทคโนโลยี AI — รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข "ชัยชนะ เดชเดโช" เปิดตัว "Smart He...