ศัลยแพทย์ไทย ชี้ไขมันตัวเองคือ “ฟิลเลอร์”ที่ดีที่สุด!! เผยพัฒนาเทคนิคปลูกถ่ายไขมัน ช่วยแก้ใบหน้าผิดรูปจาก “ซิลิโคนเหลว”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--One-Nine Media

ข่าวแพทยสภาเตรียมประกาศยกเลิกใช้ซิลิเหลวในวงการศัลยกรรม !!! เนื่องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมออกมาชี้ถึงผลของ “ซิลิโคนเหลว” ว่ามีโอกาสเกิดผลกระทบสูง ตั้งแต่เกิดอาการผื่น บวมแดง อักเสบ จนถึงขั้นทำลายเนื้อเยื่อและเซลล์ระดับรุนแรงนั้น เป็นข่าวที่ทำให้สาวๆ และผู้ที่เคยไปใช้บริการฉีดสารเติมเต็มต่างๆ หรือที่เรียกกันว่า “ฟิลเลอร์” นั้นไม่ว่าจะที่จมูก คาง หน้าผาก แก้มหรืออวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็ตาม กำลังเริ่มเครียดและอาจวิตกกังวลกับเจ้าสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไป เพราะไม่รู้ว่าจะกลายเป็นระเบิดเวลาที่รอวันประทุหรือไม่นั่นเอง!!! นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมและนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย แนะนำว่า สำหรับผู้ที่ฉีด ไปแล้ว แต่ยังไม่มีอาการใดๆ ปรากฏขึ้น ก็ไม่ต้องวิตกกังวล เพราะบางรายฉีดไปแล้วไม่มีอาการผิดปกติก็มี แต่สำหรับผู้ที่มีอาการต่างๆ เกิดขึ้นแล้วค่อยไปปรึกษาแพทย์เพื่อให้ตรวจดูอาการให้แน่ชัดต่อไป สำหรับการฉีดซิลิโคนเหลวเป็นที่นิยมมากเมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากกลุ่มหมอเถื่อนนำมาใช้และเริ่มเผยแพร่มากขึ้น เพราะระยะแรกที่ฉีดจะดูสวยงามมาก และราคาไม่แพง จากผลวิจัยนายแพทย์ชลธิศ ได้ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช ติดตามผู้ฉีดซิลิโคนเหลว จำนวน 45 รายตั้งแต่ปี 2539-2544 แบ่งเป็นหญิง 43 ราย ชาย 2 ราย อายุระหว่าง19-60 ปี โดยพบว่า ในช่วง 1-6 เดือนแรกหลังการฉีด ดูสวย ต่อมา 1 ปีแรก จะดูสวยขึ้น แต่หลังจากนั้นช่วง 3-5 ปีจะเริ่มมีปฏิกิริยาขึ้น เช่น คลำพบก้อนเนื้อ เป็นผื่นแดง เหมือนมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก และทำให้ผิวขรุขระเหมือนผิวมะระ บางรายอวัยวะเริ่มผิดรูป เพราะเนื้อเยื่อและเซลล์ถูกทำลายจึงเกิดอาการบวมและอักเสบ นอกจากนี้ สารซิลิโคนเหลวจะค่อยๆ ไหลมากองรวมกัน ทำให้มีการห้อยย้อย แข็งตึง และมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของผิวหนังบริเวณที่ฉีด นอกจากศึกษาผลจากการฉีดซิลิโคนเหลวแล้ว นายแพทย์ชลธิศ ยังได้คิดค้นวิธีการรักษาเพื่อแก้ไขใบหน้าที่ผิดรูป โดยการนำไขมันจากบริเวณหน้าท้องของผู้ป่วยเองมาปลูกถ่ายเพื่อเสริมสร้าง เซลล์ให้เกิดขึ้นใหม่ทดแทนเซลล์ที่ถูกทำลายไป จนประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลกและเป็นอีกหนึ่งผลงานจากการคิดค้นวิจัยที่ยังไม่มีแพทย์ประเทศใดสามารถทำได้ในปัจจุบัน สำหรับการฉีดซิลิโคนเหลวที่พบมากคือบริเวณ จมูก คาง แก้ม และหน้าผาก ตามลำดับ แต่การแก้ไขสามารถทำได้เฉพาะบริเวณที่อยู่จุดกลางของใบหน้า ได้แก่ จมูก และคางเท่านั้น เพราะไม่มีเส้นประสาท แต่ด้านข้างอย่างบริเวณขมับ และ แก้ม แก้ได้ลำบากเพราะอาจทำให้ปากเบี้ยวได้ ส่วนขั้นตอนการแก้ไขนั้น นายแพทย์ชลธิศ เปิดเผยว่า เริ่มจากขูดเอาเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายออก ซึ่งจะทำให้ด้านในเกิดโพรง การนำไขมันบริเวณหน้าท้องมาปลูกถ่ายเพื่อเติมเต็มเนื้อเยื่อที่ขูดออกไปจึงเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด หรือกล่าวได้ว่าเป็น “ฟิลเลอร์” ที่ดีที่สุด “ ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ วิจัยพบแล้ว่าใน ไขมันของคนเรามีสเต็มเซลล์แทรกอยู่ เรียกว่า “ Mesenchymal Stem cell” การสกัดเอาไขมันที่มีสเต็มเซลล์มากๆ มาปลูกถ่ายจะทำให้มีเปอร์เซ็นต์ในติดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราจึงเรียกไขมันที่มีสเต็มเซลล์นี้ว่าเป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็น Biological ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เพราะเมื่อนำไปปลูกถ่ายในโพรงที่ขูดเอาเนื้อเยื่อที่เสียไปทิ้ง สเต็มเซลล์จะเข้าไปเสริมสร้างให้เกิดเนื่อเยื่อใหม่ขึ้นมาทดแทนเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายไป ทำให้เสามารถรักษารูปทรงของจมูก และคางไว้ได้ ซึ่งบางคนใส่แค่ครั้งเดียวก็ได้ผล แต่บางคนในส่วนของจมูกหลังทำไปแล้ว 3 เดือนอาจจะต้องแต่งทรงด้วยซิลิโคนบางๆ อีกครั้ง” สุดท้าย นายแพทย์ชลธิศ ย้ำว่า สเต็มเซลล์จากไขมันตัวเอง ผมเรียกว่าเป็น “ฟิลเลอร์”ที่ดีที่สุด เพราะไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม และไม่เป็นอันตรายใด ๆ นอกจากนี้ยังทำให้ดูสวยเป็นธรรมชาติอีกด้วย และสำหรับผู้ที่ยังนิยมฉีดสารต่างๆ เพื่อเติมเต็มอวัยวะส่วนต่างๆ ให้ดูเต่งตึงสวยงามอยู่ล่ะก้อ ให้พึงระหว่างจะสวยก่อนเสีย เพราะสารบางชนิดแม้ยังไม่เกิดผลเสียหาย แต่ก็ไม่มีใครกล้ารับประกันได้ว่าจะไม่เกิดผลใดๆ ตามมาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างแน่นอน. -กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวศัลยแพทย์ไทย+ศัลยแพทย์วันนี้

"ยันฮี" ผนึก "รพ.รามาฯ" ร่วม MOU ส่ง "แพทย์ประจำบ้าน" ฝึกอบรมด้านศัลยกรรมตกแต่ง เพิ่มพูนทักษะศัลยแพทย์ สู่ความเป็นเลิศในระดับสากล

โรงพยาบาลยันฮี จับมือ โรงพยาบาลรามาธิบดี ผลิตศัลยแพทย์ไทยฝีมือดีระหว่างสององค์กร จาก โรงพยาบาลภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) จัดฝึกอบรม "หลักสูตรด้านศัลยกรรมตกแต่ง" ณ ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลยันฮี ให้แก่ แพทย์ประจำบ้าน ชั้นปีที่ 5 สาขาศัลยศาสตร์ตกแต่ง ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่ง มุ่งผลิตศัลยแพทย์ตกแต่งรุ่นใหม่ ที่มีคุณภาพและมาตรฐานที่ครบถ้วน ผลักดันการแพทย์ไทย ให้

สมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ร่... สมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าฯ เดินหน้าพัฒนาฝีมือศัลยแพทย์ไทย — สมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร จังหวัดสกลนคร จัดงานประชุม...

ศัลยแพทย์ไทย โชว์เทคนิค "Modern facelift ... ศัลยแพทย์ไทยโชว์เทคนิค “Modern facelift 7s” ตอบโจทย์คนไม่ยอมแก่ — ศัลยแพทย์ไทย โชว์เทคนิค "Modern facelift 7s" เพื่อการศัลยกรรมดึงหน้า ตอบโจทย์คนไม่ยอมแก่...

ผู้นำด้านศัลยกรรมความงาม "ศูนย์ศัลยกรรมคว... “รพ.บางมด” จัดตั้งคลินิกต้นแบบ ยกระดับวงการศัลยกรรมไทย — ผู้นำด้านศัลยกรรมความงาม "ศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด" จัดตั้งคลินิกต้นแบบ "The Lux Clinic by B...

เมื่อเร็วๆ นี้ นพ.กลวัชร์ เหล่าชัยศรี แพท... ภาพข่าว: ดีอาร์เค บิวตี้ คลินิก สานสัมพันธ์ศัลยกรรมไทยหัวใจเกาหลี — เมื่อเร็วๆ นี้ นพ.กลวัชร์ เหล่าชัยศรี แพทย์ผู้บริหาร ดีอาร์เค บิวตี้ คลินิก (ขวาสุด) ไ...

ข่าวซุบซิบ: ศัลยแพทย์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก!

ต้องยกนิ้วให้กับคุณหมอคนเก่ง แห่งวงการศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย สำหรับนายแพทย์อดุลย์ชัย แสงเสริฐ หรือ หมอเกมส์ สมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย ที่ล่าสุดได้รับเกียรติจากอาเซียน-IPRAS 2014 รัฐสภา และสมาคมศัลยแพทย์พลาสติก (Saps) ของประเทศสิงคโปร์ ให้...

แพทย์ศัลยกรรมความงามไทยจับมือร่วมกันประกาศศักยภาพ

แพทย์ไทยประกาศความพร้อม จัดงาน Masterclass Project : Rhinoplasty ประชุมวิชาการเชิงปฎิบัติการให้กับแพทย์ด้านศัลยกรรมตกแต่งความงามกว่า 200 คน พร้อมสาธิตการผ่าตัดเสริมจมูกด้วยการปลูกถ่ายไขมันในรูปแบบ live Surgery เป็นครั้งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอ...

ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ มั่นใจคอมพิวเตอร์เนวิเกเตอร์ ช่วยผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมมีความแม่นยำสูง

ศัลยแพทย์ไทย เผยการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ด้วยวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมโดยการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เนวิเกเตอร์จะช่วยทำให้การผ่าตัดวางผิวข้อเข่าเทียมมีความแม่นยำสูงขึ้น ระบุหากมีการวางผิวข้อเข่าเทียมคลาด...