R&D มจธ.เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์‘แอร์โรคลาส’

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อทุกภาคส่วน ยิ่งอุตสาหกรรมการผลิตถือเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะ “นวัตกรรม” จะทำให้ผู้ประกอบการยืนหยัดและแข่งขันได้ แต่การจะได้มาซึ่งนวัตกรรมนั้น จะเกิดขึ้นไมได้หากขาดความร่วมมือระหว่างนักวิชาการ นักวิจัยหรือผู้เชี่ยวชาญที่จะนำองค์ความรู้ และงานวิจัยเข้าไปพัฒนาเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์กับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สวท.)มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2524 เดิมเรียกว่า ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและพัฒนา สังกัดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีวัตถุประสงค์ให้เป็นศูนย์รวมของอาจารย์และนักวิจัยในการให้บริการวิชาการและงานวิจัยแก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ต่อมาเมื่อปี 2540 ได้เปลี่ยนเป็น สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ สวท.มีฐานะเทียบเท่าคณะ เป็นแหล่งรวมหน่วยงานและโครงการวิจัยต่าง ๆ และมีบทบาทในฐานะแหล่งในการดำเนินการวิจัย การพัฒนา และการวิศวกรรม (Research Development and Engineering) การถ่ายทอดเทคโนโลยีสหวิทยาการ เพื่อสร้างขีดความสามารถของภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาวิชาการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านต่างๆ ผศ.นิธิ บุรณจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวท.)มจธ. กล่าวว่า เนื่องจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มีพันธกิจด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อม ชุมชนและนวัตกรรม ผ่านการถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยี และการประยุกต์ผลงานจากงานวิจัย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในด้านต่างๆ โดยร่วมกับภาคเอกชนในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม และส่งเสริมให้มีการนำสิ่งประดิษฐ์ หรือผลงานวิจัยไปใช้ในเชิงพาณิชย์ สวท.ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างภาคการศึกษาวิจัยและภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมานาน ทำให้นักลงทุนและผู้ประกอบการมีความมั่นใจที่จะนำเอาองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อันจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้เจริญก้าวหน้าต่อไปเช่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้มีการลงนาม MOU กับกลุ่มบริษัทตะวันออกโพลิเมอร์ขึ้นเป็นครั้งที่2พร้อมเปิดตัวโครงการออกแบบและสร้างโรงเรือนปศุสัตว์สำเร็จรูปสำหรับหมู ถือเป็นผลงานความร่วมมือทางด้านบริการวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี ด้านนายเอกวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ผู้บริหาร บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด และบริษัท อีพีจี อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นสมาชิกของกลุ่มบริษัทตะวันออกโพลีเมอร์ฯ ผู้ผลิตส่วนประกอบยานยนต์รายใหญ่ของไทยโดยแอร์โรคลาส(ARK) ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตผลิตภัณฑ์จากยางและพลาสติกมากว่า 50 ปี ล่าสุดบริษัทฯ มีแนวคิดผลิต “แผ่นผนังฟาร์มสำเร็จรูปสำหรับโรงเรือนปศุสัตว์”ขึ้น โดยนำวัสดุจากพลาสติกมาใช้ ถือเป็นการปฏิวัติรูปแบบการก่อสร้างฟาร์มที่มีความทันสมัยและเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของวงการโรงเรือนปศุสัตว์ “ยอมรับว่า แนวคิดดังกล่าวจะเป็นจริงไม่ได้ หากไม่ได้องค์ความรู้ทางวิชาการเข้ามาสนับสนุน ในฐานะผู้ประกอบการมีเพียงความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านวัสดุเท่านั้น แต่การที่ สวท.เข้ามาช่วยทำให้บริษัทมีความมั่นใจและกล้าเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออกสู่ตลาด โดยบริษัทฯ ได้เข้าขอรับความช่วยเหลือจากสวท. ในโครงการศึกษาวัสดุประเภทพลาสติกสำหรับใช้ในโรงเรือนปศุสัตว์ ต่อยอดมาสู่โครงการออกแบบและสร้างโรงเรือนปศุสัตว์สำเร็จรูปสำหรับเลี้ยงหมู โดยใช้วัสดุเป็นลักษณะผนังสำเร็จรูปโรงเรือนดังกล่าวได้ผ่านการทดสอบจากสวท.พบว่า ขณะที่อุณหภูมิภายนอกโรงเรือนอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส แต่อุณหภูมิภายในโรงเรือนที่ได้ทำการติดตั้งแผ่นผนังมีอุณหภูมิเพียง 28 องศาเซลเซียส ส่งผลให้หมูลดความเครียด ช่วยให้กินอาหารได้ดี มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 60% และเพิ่มปริมาณผลผลิตมากขึ้น ทำให้ผู้เลี้ยงมีผลกำไรเพิ่มขึ้น ดังนั้น การที่มีหน่วยงานและผู้เชี่ยวชาญเข้ามายืนยัน จึงช่วยเพิ่มความเชื่อถือ และสร้างความมั่นใจให้กับผลิตภัณฑ์ได้ ทำให้เปิดช่องทางการขยายธุรกิจออกไปสู่อุตสาหกรรมเกษตรปศุสัตว์ และอื่นๆ ต่อไป ” คุณสมบัติพิเศษของผนังดังกล่าว คือ ป้องกันความร้อนและรักษาความเย็น ทำให้ประหยัดพลังงานในการรักษาความเย็นในห้องหรือโรงเรือนได้มากกว่า 50% , มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่ายสามารถรื้อถอนหรือถอดประกอบใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาได้มากกว่า 50% ,ประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างมากกว่า 40% , มีความแข็งแรง ทนต่อสภาพการผุกร่อนจากกรด แอมโมเนียและความชื้นภายในโรงเรือน , ไม่เป็นสนิม ทำให้อายุการใช้งานยาวนานกว่าวัสดุแบบเก่า และด้วยพื้นผิวที่เรียบ ลื่น ทำความสะอาดง่าย จึงไม่เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค และเชื้อรา เหมาะตามหลักสุขอนามัยที่ดี ประกอบกับสีที่ใช้สีขาวทำให้ภายในโรงเรือนมีความสว่างมากขึ้นช่วยให้ประหยัดไฟฟ้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความร่วมมือในโครงการออกแบบและสร้างเครื่องทดสอบการทนต่อสภาวะอุณหภูมิของพื้นปูกระบะรถยนต์ภายใต้อุณหภูมิ -40 องศาฯ ไปจนถึง90 องศาฯ ซึ่งได้ผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ทำให้ปัจจุบัน บริษัทฯ สามารถส่งออกไปยังยุโรปเพิ่มมากขึ้น 20 เท่า จากเดิมผลิตอยู่ที่เดือนละ 30 - 50 ชิ้น เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละกว่า 1,000 ชิ้น และโครงการการออกแบบสร้างอุโมงค์ลมสำหรับทดสอบกังหันลมและทดสอบด้านแอร์โรไดนามิคของรถยนต์ ซึ่งการพัฒนาอุโมงค์ลมนี้ นับเป็นแห่งเดียวของไทยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน นายเอกวัฒน์ กล่าวว่า “ ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบ และได้รับการรับรองผลจากผู้เชี่ยวชาญและมหาวิทยาลัยที่น่าเชื่อถือ จะช่วยยืนยันถึงสิ่งที่ออกแบบและพัฒนาว่า ดีจริงและถูกต้องตามหลักวิชาการ ย่อมทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการยอมรับและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เรื่องนวัตกรรม งานวิจัยและพัฒนา จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย หากเราไม่เห็นความสำคัญและไม่เร่งสร้างให้เกิดขึ้นในวันนี้ จะทำให้ไทยล้าหลัง สุดท้ายเราก็จะกลายเป็นผู้ใช้ไปตลอด ขาดความคิดสร้างสรรค์ และประเทศก็จะไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสิ่งใหม่ๆ ได้ การร่วมมือทางวิชาการระหว่างภาคเอกชนกับมหาวิทยาลัย ย่อมส่งผลดีต่อทุกฝ่ายทั้งเอกชน นักวิชาการ และประเทศ โดยเฉพาะมจธ.ที่นำองค์ความรู้ทางวิชาการและบริการ เข้ามาช่วยเพิ่มความเชื่อถือ และสร้างความมั่นใจให้กับผลิตภัณฑ์เปิดช่องทางการขยายธุรกิจออกไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ ต่อไป “ -กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี+มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าวันนี้

มจธ. สวทช. พร้อมพันธมิตร เดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังสู่ความยั่งยืน ผนึกความร่วมมือระดับโลกผ่านเวที Global Cassava Sustainability Forum 2025

ประเทศไทยตอกย้ำบทบาทผู้นำอุตสาหกรรมมันสำปะหลังระดับโลกในงาน Global Cassava Sustainability Forum 2025 ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ โดยความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) หน่วยงานภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยงานนี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ ผู้แทนจากภาคอุตสาหกรรม และผู้กำหนดนโยบายจากหลากหลายประ

ภายใต้หัวข้อ "Unlock Your Next Level: ทาง... GMI จัดงาน Open House 2025 ครั้งที่ 3 — ภายใต้หัวข้อ "Unlock Your Next Level: ทางลัดสู่การเติบโต เริ่มต้นที่ ป.โท บริหารธุรกิจ" บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการ...

ศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนมูลนิธิโครงการหลว... มจธ.ขอเชิญส่งบทความเข้าร่วมงานประชุมวิชาการความรู้และการวิจัยเพื่อสังคมที่เท่าเทียม : KRIS2025 — ศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนมูลนิธิโครงการหลวงและโครงการตามพร...

นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน อินฟอร์มา มาร์... อินฟอร์มาร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดการประชุมนานาชาติ "Future Move Forum" — นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมลงนามบั...

บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มหาวิท... GMI จัดอบรม ESG Data Analytics & Emerging Technology Leverage Data to Sustainable Growth — บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจ...

สอวช. ร่วมกับ มจธ. เปิดหลักสูตร STIP รุ่น... สอวช. ผนึก มจธ. เปิดหลักสูตร STIP รุ่นที่ 7 มุ่งผลิตนักออกแบบนโยบายตอบโจทย์ประเทศ — สอวช. ร่วมกับ มจธ. เปิดหลักสูตร STIP รุ่นที่ 7 มุ่งผลิตนักออกแบบนโยบาย...