บมจ. วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ (WINNER) เริ่มซื้อขายใน mai 3 ตุลาคมนี้

02 Oct 2013

กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--ตลท.

บมจ. วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ (WINNER) ผู้นำเข้า ผลิตจัดจำหน่ายวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์อาหาร ครบวงจร เป็นบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ลำดับที่ 11 ของปี เริ่มซื้อขาย 3 ตุลาคมนี้

นางสาวปวีณา ศรีโพธิ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ (WINNER) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 3 ตุลาคม 2556 โดย WINNER ดำเนินธุรกิจนำเข้า ผลิต จัดจำหน่ายวัตถุดิบ ส่วนผสมและเคมีภัณฑ์เพื่อแปรรูปในอุตสาหกรรมอาหารและเบเกอรี่ ภายใต้ตราสินค้าชั้นนำระดับโลกและตราสินค้าของบริษัทเอง นอกจากนี้ยังเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อบริโภค อาทิ ป๊อปคอร์นสำหรับไมโครเวฟ ตรา Pop Secret ธัญพืชแท่ง ตรา Nature Valley และ แป้งเบเกอรี่สำเร็จรูปตรา Betty Crocker โดยมีสินค้าจัดจำหน่ายมากกว่า 500 รายการ

WINNER มีทุนชำระแล้ว 100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 312 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 88 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 25-27 กันยายน 2556 ในราคาหุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 176 ล้านบาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายเจน วองอิสริยะกุล กรรมการผู้จัดการ WINNER เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทได้เข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยบริษัทจะนำเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการและขยายธุรกิจ รวมทั้งลงทุนขยายคลังสินค้าและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมให้บริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ WINNER 3 ลำดับแรกได้แก่ ครอบครัววองอิสริยะกุล ถือหุ้น 50.56% ครอบครัวโรจนวิศาส ถือหุ้น 8.25 % ครอบครัวตัณทนาวิวัฒน์ ถือหุ้น 3.32% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 9.2 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัท 4 ไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 3 ปี 2555 – ไตรมาส 2 ปี 2556) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.22 บาทต่อหุ้น เปรียบเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่มีการประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกับบริษัท (ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม - 16 กันยายน 2556) เท่ากับ 18.8 เท่า บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองต่างๆ ทั้งหมด

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.winnergroup.co.th และที่เว็บไซต์ www.mai.or.th

-กภ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net