ภายในงานแถลงข่าว ณ อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อักกพล พฤกษะวัน กรรมการผู้จัดการ โรงเรียนการโรงแรมและท่องเที่ยว รีเจ้นท์ ชะอำ กล่าวถึงการก่อตั้งโรงเรียนแห่งใหม่นี้ว่า “เพื่อผลิตบุคลากรคุณภาพป้อนสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพราะในปัจจุบันนี้ยังขาดแคลนแรงงานฝีมือระดับปฏิบัติการจำนวนมาก ฉะนั้น กลุ่มบริษัท เดอะรีเจ้นท์ กรุ๊ป ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและมีประสบการณ์ด้านการโรงแรมมากว่า 30 ปี ถือเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมและตอบสนองความต้องการที่ตรงจุดของวงการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงจะได้เปิด โรงเรียนการโรงแรมและท่องเที่ยว รีเจ้นท์ ชะอำ เพื่อเน้นการสร้างบุคลากรด้านปฏิบัติการ เป็นหลักสูตร 9 เดือน โดยเป็นการเรียนด้านทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติ กับ โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่สุดในชะอำเป็นเวลา 6 เดือน และอีก 3 เดือนจะได้ฝึกงานจริงกับโรงแรมพันธมิตรของเรา เด็กนักเรียนที่นี่จะมีโอกาสได้เติบโตในหน้าที่การงาน ด้วยหลักสูตรที่ได้มาตรฐานสอดคล้องกับอาเซียน มีโอกาสไปทำงานยังต่างประเทศ เมื่อจบแล้วจะมีรายได้สูงไม่แพ้ระดับปริญญาตรี มีอนาคตที่ไกล และในอีก 3 ปีข้างหน้า จะเปิดหลักสูตรนานาชาติ โดยหลักสูตรของเราเป็นหลักสูตรสายวิชาชีพที่ใช้หลัก Competency Base คือเน้นที่สมรรถนะในการปฏิบัติงาน จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถพัฒนาบุคลากร แรงงานฝีมือระดับปฏิบัติการของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เป็นผู้ที่มีความรู้ ทักษะการบริการ และเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ และมีอนาคตที่มั่นคง
เราจะเริ่มรับสมัครตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนเมษายน และเริ่มเรียนในเดือนมิถุนายน โดยการสมัครใช้วุฒิ ม.6 และเมื่อเรียนจบจะได้ประกาศนียบัตรวิชาชีพ โดยในอนาคตสามารถเทียบวุฒิแบบ Competency Base เพื่อสามารถทำงานในต่างประเทศ เริ่มนำร่องรับนักเรียนรุ่นแรก 100 คน แบ่งคลาสเรียนคลาสละไม่เกิน 30 คน ทั้งหมดเปิด 4 หลักสูตร ได้แก่ แผนกบริการส่วนหน้า แผนกการบริการอาหารและเครื่องดื่ม แผนกแม่บ้านโรงแรม และ แผนกการประกอบอาหาร เน้นการเรียนผสมผสานระหว่างวิชาการกับปฏิบัติการ เหมือนหลักสูตรของ (สรท.) สถาบันฝึกอบรมวิชาการโรงแรมและการท่องเที่ยว ของ ททท. แต่ดั้งเดิม เราก็ขอหลักสูตรจาก ททท. แล้วมาปรับให้เข้ากับหลักสูตรมาตรฐานของอาเซียน เราจะมุ่งเน้นการฝึกปฏิบัติ ฉะนั้นเด็กที่เรียนจะเข้มด้านการปฏิบัติ ขณะเดียวกันด้านทฤษฎีก็ต้องแน่นด้วย จบแล้วสามารถทำงานได้จริงทันที เพราะมีโอกาสได้งานสูงมากเนื่องจากขณะนี้ บุคลากรระดับปฏิบัติการที่มีคุณภาพกำลังเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวครับ”
ภายในงานยังได้รับฟังการแชร์ประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพ โดย ประชุม ตันติประเสริฐสุข ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอำบีช รีสอร์ท ก้าวถึงการเลือกเส้นทางเข้าสู่วงการโรงแรมว่า “ที่เลือกเรียนวิชาการโรงแรมเพราะว่าเป็นธุรกิจที่มีการขยายเติบโตเร็ว การท่องเที่ยวจะเป็นการเรียนทั้งศาสตร์และศิลป์ทำให้รู้สึกสนใจที่จะเข้ามาเรียนตรงนี้ หลักสูตรของโรงเรียน เปรียบไปแล้วเหมือนขึ้นทางด่วน เรียนเร็ว จบการศึกษาแล้วทำงานได้จริง ไม่ต้องสอนใหม่ สำหรับวงการนี้เราต้องการบุคลากรที่มีใจรักในการบริการและมีทัศนคติที่ดีในการทำงาน มีความอดทน มีบุคลิกภาพดี ยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาต้อนรับแขก อัธยาศัยไมตรีดีเป็นสิ่งที่สำคัญ”
ด้าน เชฟหนุ่มอินดี้วัย 32 ปี เชฟอิ๊ก บรรณ บริบูรณ์ ดีกรีการันตีความสามารถในการปรุงอาหารจากมหาวิทยาลัยเจมส์คุก ประเทศออสเตรเลีย เผยว่า“ผมว่าการเรียนทำอาหารสิ่งที่จะต้องควบคู่กันไปอย่างขาดไม่ได้คือ ทฤษฎีและการปฎิบัติ โดยการเรียนรู้ ทฤษฎีในห้องเรียนเป็นเสมือนความรู้ที่จะเป็นพื้นฐานให้แก่เรา ส่วนการปฎิบัติเป็นเหมือนประสบการณ์ที่จะมาเติมเต็มความรู้ของเรา หลายๆ อย่างจะเรียนอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีการปฎิบัติด้วย ข้อดีของการได้ปฎิบัติคือ จะทำให้เราได้รู้ว่ามีความรู้อะไรบ้างที่เราต้องนำไปใช้ในสถานการณ์จริง ผมว่าโรงเรียนนี้จะสนับสนุน และเปิดโอกาสให้เราได้ทั้งเรียนรู้และปฎิบัติจริง”
ส่วน สมชาย อ่อนรักษา ผู้บริหารงานแผนกแม่บ้าน โรงแรมคราวน์ พลาซ่า กรุงเทพฯ ลุมพินีพาร์ค เผยว่า “ที่มาเรียนสายการโรงแรมเพราะเรามีความคิดว่าเรียนจบแล้วเราอยากมีงานทำเลย และพอได้มาเรียนก็ตรงกับสิ่งที่เราตั้งเป้าไว้ คือพอเรียนจบ เราอยู่ในสถานประกอบการเราก็ได้งานทำเลย และรู้สึกเรียนมาถูกทาง ตรงกับสิ่งที่เราชอบ เรารัก และแน่นอนว่ามีประโยชน์ ถ้าประโยชน์กับตัวเองคือสามารถที่จะดูแลดำรงเลี้ยงชีพตัวเอง ส่วนประโยชน์ต่อประเทศชาติคือ เราเป็นเหมือนฟันเฟืองหนึ่งหรือเครื่องจักรตัวเล็กๆ ที่ได้มีส่วนช่วยหารายได้ให้กับประเทศชาติ สำหรับผู้ที่จะทำงานแม่บ้านถ้าในสมัยก่อนส่วนมากจะเป็นผู้หญิง ผู้ชายแทบจะไม่มีเลย แต่เมื่อธุรกิจอุตสาหกรรมการโรงแรมและการท่องเที่ยวเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ชายก็หันมาสนใจในสายอาชีพนี้มากขึ้น จนปัจจุบันจะเห็นว่าอาชีพแม่บ้านนั้น จะมีทั้งผู้ชายผู้หญิงคือมีศักยภาพเท่าเทียมกันสามารถทำได้ทุกอย่างเหมือนกันหมด ซึ่งอาชีพแม่บ้าน หลักใหญ่ที่เราเน้นย้ำ คือเรื่องของความละเอียดอ่อน และความสะอาดจึงเป็นด่านแรกที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าผู้มาใช้บริการ”
อักกพล พฤกษะวัน กล่าวปิดท้ายว่า “การท่องเที่ยวไทยจะเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาค ปัจจัยที่สำคัญคือ บุคลากรที่มีประสิทธิภาพ รักและเข้าใจงานบริการ”
เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจอายุระหว่าง 17-26 ปี ในเดือนมีนาคม 2557 เป็นต้นไป เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในอนาคตกับ โรงเรียนการโรงแรมและท่องเที่ยว รีเจ้นท์ ชะอำ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-255-2821-4 / 032-451-240-9 และเว็บไซต์ www.rhsschool.com