นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่า “มีสมาชิกสมาคมฯ ในหลายจังหวัด ที่ถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเข้าตรวจและจับปรับในคดีขายบุหรี่ติดแสตมป์ยาสูบปลอม โดยบางร้านมีมูลค่าที่ถูกปรับสูงถึง 1.5 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ร้านค้าได้ถูกปรับแสตมป์ยาสูบปลอมจากบุหรี่ราคาถูกที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน สมาชิกสมาคมฯ รวมถึงร้านขายส่ง ร้านโชว์ห่วย และร้านสะดวกซื้อจึงควรรับทราบข่าวและระมัดระวังกรณีดังกล่าว”
การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสูบแสตมป์ปลอม โดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี อาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายได้ดังต่อไปนี้
พ.ร.บ. ยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 24 วรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่ไม่ได้ปิดแสตมป์ โดยมีโทษปรับ 50 เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิด (มาตรา 50)
หากรู้ว่าแสตมป์นั้นเป็นแสตมป์ยาสูบปลอมหรือแสตมป์ใช้แล้วและเจตนาใช้แสตมป์ยาสูบปลอมหรือแสตมป์ใช้แล้วนั้น จะมีความผิดภายใต้พ.ร.บ. ยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 43 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งแสตมป์ยาสูบปลอมหรือใช้แล้วเพื่อขายหรือนำออกใช้โดยรู้ว่าเป็นแสตมป์ยาสูบปลอมหรือใช้แล้ว โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 53)
หากเป็นบุหรี่ปลอมก็จะมีความผิดในเรื่องการใช้เครื่องหมายการค้าปลอม ภายใต้พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 110(1) และมาตรา 108 ซึ่งห้ามมิบุคคลใด จำหน่าย เสนอจำหน่าย หรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมปลอม หรือที่เลียนเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมของบุคคลอื่น โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ปัจจุบันมีการนำเข้าบุหรี่ราคาถูกแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก สมาคมฯ ใคร่ขอเตือนให้ร้านค้าระมัดระวังในการซื้อสินค้าจากแหล่งที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่มีราคาถูกมากอย่างเหลือเชื่อ เพราะอาจเป็นสินค้าที่ติดแสตมป์ยาสูบปลอม ร้านค้าควรซื้อสินค้าจากตัวแทนจำหน่ายที่ไว้ใจได้เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนจับปรับ เนื่องจากโทษปรับนั้นสูงถึง 15 เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบ” นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวสรุป
สำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ 124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง โทร 0 2 718 1886