EPCO ติดปีกบินข้ามทะเลสร้างโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น กำลังการผลิตขนาด 23 MW สัญญาขายไฟยาว 20 ปี

          บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) เดินหน้าสุดฤทธิ์รับปีม้า สยายปีกบินไกลถึงประเทศญี่ปุ่น ตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ในเขตพื้นที่คูริฮาร่า จังหวัดมิยากิประกอบด้วย ขนาด 10 MW (AC) ที่ราคา 40 เยนต่อหน่วยเป็นเวลา 20 ปี และ 13 MW (AC)ที่ราคา 36 เยนต่อหน่วยเป็นเวลา 20 ปี ผู้บริหารชี้เป็นการขยายฐานลงทุนและกระจายความเสี่ยงของธุรกิจไปยังต่างประเทศ ที่สำคัญทำให้ได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอส่งผลดีต่อบริษัทและผถห. พร้อมประกาศเพิ่มทุน 104,958,713 หุ้น ให้ผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วน 5 ต่อ 1 หุ้นละ 3.20 บาท เปิดให้จองซื้อ 19 – 25 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ 
          นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2557 ได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อยคือ บริษัท เอ็ปโก้ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ใช้แหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ และหรือเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน โดย EPCO ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ผ่านบริษัท เอ็ปโก้ กรีน เพาเวอร์พลัส จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและพลังงานทดแทน มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงการพลังงานทั้งในและต่างประเทศ 
          พร้อมกันนี้ยังได้อนุมัติให้ บริษัท เอ็ปโก้ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด เป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ขนาด 23 เมกะวัตต์ ในเขตพื้นที่ คูริฮาร่า จังหวัดมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2557 ซึ่งมีใบอนุญาตขายไฟฟ้าผลิตจากโซล่าร์เซลไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ (AC) ที่ราคา 40 เยนต่อหน่วยเป็นเวลา 20 ปี และ 13 เมกะวัตต์ (AC) ที่ราคา 36 เยนต่อหน่วยเป็นเวลา 20 ปี บนพื้นที่ขนาด 410,172 ตารางเมตร หรือ 256.36 ไร่ โดยมีมูลค่าตามสัญญา 607,500,000 เยน(อัตราแลกเปลี่ยน 0.32 เทียบเท่าเงินบาทโดยประมาณ 194.40 ล้านบาท) ซึ่งรวมที่ดินและใบอนุญาตต่างๆ และมีเงื่อนไขการชำระเงินเป็นงวดตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ถึงวันที่ 17 เมษายน 2557 
          ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนดังกล่าว ก็คือการขยายฐานลงทุนและกระจายความเสี่ยงของธุรกิจไปยังต่างประเทศ ที่สำคัญถือเป็นอีกโครงการที่ก่อให้เกิดรายได้และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอในระยะยาวให้กับบริษัท ซึ่งจะทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
          “การจัดตั้งบริษัทย่อยและลงนามในสัญญาดังกล่าว เป็นไปตามแผนงานของ EPCO ในการขยายลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะโซล่าร์ฟาร์ม (Solar Farm) ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้ขนาดกำลังการผลิตรวมประมาณ 100 เมกะวัตต์ ซึ่งที่ผ่านมาได้เจรจากับบริษัทพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุน และคาดว่าไตรมาส 1/2557 นี้จะได้ข้อสรุปอีก 3 โครงการ ประมาณ 27เมกะวัตต์ และไตรมาส 2/2557 จะได้ข้อสรุปอีก 2 โครงการ ประมาณ 50 เมกะวัตต์ ตลอดจนการลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Energy) อื่นๆ ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้ามากขึ้น นอกเหนือรายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์” นายยุทธ กล่าว 
          นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 104,958,713 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ในสัดส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขาย 3.20 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ปิดสมุดทะเบียนวันที่ 23 มกราคม 2557 กำหนดวันจองซื้อและรับชาระค่าหุ้นวันที่ 19 – 25 กุมภาพันธ์ 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการดำเนินงานของบริษัทฯ และเพื่อขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ของบริษัทฯ ในอนาคต
          ​ทั้งนี้การจัดสรรหุ้นดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2556 ที่อนุมัติการเพิ่มทุนและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ในการเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 644,262,751 บาท เป็น 953,508,751 บาท โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 309,246,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 154,623,000 หุ้น ประชาชนทั่วไปจำนวน 103,082,000 หุ้น และบุคคลในวงจำกัดจำนวน 51,541,000 หุ้น โดยหุ้นสามัญส่วนที่เหลือ 49,664,287 หุ้น จะจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในครั้งถัดไป