EP Study ความหวังใหม่ในการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีสาเหตุจากการลัดวงจรของระบบไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งหมายถึงกระแสไฟฟ้าในหัวใจที่ทำหน้าที่ควบคุมกลไกการเต้นของหัวใจเกิดความผิดปกติ ถือเป็นภัยเงียบที่อาจสร้างปัญหาให้กับผู้ป่วยได้ทุกเวลา แม้ว่าจะมีการดูแลสุขภาพร่างกายเป็นอย่างดี เนื่องจากในบางกรณีไม่มีอาการแสดงขณะแพทย์ทำการตรวจวินิจฉัย ผู้ป่วยหลายรายจึงไม่ทราบว่าตนมีอาการของโรคและไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี วิธีการป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดจึงเป็นการหมั่นสังเกตอาการด้วยตนเอง พร้อมเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางร่วมกับเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ก่อนจะสายเกินไป

          ปัจจุบัน วิทยาการแพทย์สมัยใหม่ ได้ยกระดับการวินิจฉัยและการรักษาอาการหัวใจเต้นผิดปกติให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ด้วยเทคนิคที่เรียกว่าการศึกษาด้านสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ หรือ Electrophysiology Study (EP Study) โดย นพ. กุลวี เนตรมณี อายุรแพทย์โรคหัวใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านสรีรวิทยากระแสไฟฟ้าหัวใจ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อธิบายว่า ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะคือการที่หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ โดยอาจเต้นเร็วหรือช้าเกินไป หรือบางครั้งอาจเต้นแล้วเว้นจังหวะ หัวใจเต้นผิดจังหวะจำแนกได้เป็นหลายชนิด บางชนิดไม่มีอันตราย แต่บางชนิดมีอันตรายถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาทันที เช่น หัวใจห้องล่างเต้นรัว (Ventricular Tachycardia) หรือหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial Fibrillation) อันเป็นชนิดของหัวใจเต้นผิดปกติที่พบบ่อยที่สุดและจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ตรงจุด โดยภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว มักพบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้มีอายุ 75 ปีขึ้นไป นับว่ามีความเสี่ยงมากกว่าคนที่อายุน้อยกว่า 50 ปี ถึง 13 เท่า 

          “ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเกิดได้จากหลายสาเหตุ มีทั้งที่เป็นโดยกำเนิด หรือบางรายอาจมีปัจจัยบางประการที่ส่งผลให้กายภาพของหัวใจเปลี่ยนแปลงไป อาทิ ภาวะหัวใจวาย ที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง หลอดเลือดหัวใจตีบ ความดันโลหิตสูง ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ รวมถึงการสูญเสียเกลือแร่มากเกินไป ก็อาจเป็นสาเหตุให้ระบบไฟฟ้าของหัวใจผิดปกติได้
          “เราสามารถสังเกตอาการของหัวใจเต้นผิดปกติได้หลายวิธี ได้แก่ ภาวะหัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออก มีอาการหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ดังนั้นเมื่อมีอาการดังกล่าวควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์โดยเร็ว ในส่วนของการวินิจฉัย แพทย์จะตรวจดูลักษณะของหัวใจเต้นผิดจังหวะว่ามีอันตรายในระดับใด ด้วยการพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่นในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติแล้วมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอร่วมด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่มีโครงสร้างของหัวใจอยู่ในขั้นปกติทุกอย่าง สองกรณีนี้นับว่าผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อชีวิตไม่เท่ากัน การรักษาจึงมีลำดับขั้นตอนและวิธีการแตกต่างกันไป”
          การตรวจหาสาเหตุและกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับอาการผู้ป่วยแต่ละราย แพทย์จำเป็นต้องมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการบ่งชี้ว่ามีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือผู้มีความเสี่ยงว่าหัวใจอาจหยุดเต้นกะทันหัน ด้วยการตรวจวินิจฉัยจากเทคโนโลยีภาพถ่ายทางการแพทย์ ซอฟต์แวร์ และชิพประมวลผลคอมพิวเตอร์ ร่วมกับความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ของแพทย์ในด้านกลไกการทำงานของหัวใจ อันเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาการศึกษาสรีรวิทยากระแสไฟฟ้าหัวใจ หรือ EP Study
“EP Study คือการศึกษา วินิจฉัย และรักษาความผิดปกติของระบบไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยทีมแพทย์จะติดแผ่นรับสัญญาณไฟฟ้าที่หน้าอกคนไข้เพื่อตรวจดูอัตราและจังหวะการเต้นของหัวใจ จากนั้นจะสอดสายสวนเข้าไปในร่างกาย แล้วเมื่อสายสวนเข้าไปถึงหัวใจจะส่งสัญญาณไฟฟ้ากลับมา แพทย์อาจทดสอบโดยปล่อยกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นหัวใจ เพื่อเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์หรือทำการทดสอบเพิ่มเติมในกรณีที่จำเป็น
          “ข้อมูลเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าหัวใจที่ได้จาก EP Study จะถูกนำมาเชื่อมโยงผ่านซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์แล้วสร้างเป็นภาพสามมิติ เพื่อวินิจฉัยหาตำแหน่งของการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่แม่นยำ แพทย์จึงรักษาที่สาเหตุได้อย่างตรงจุด เพราะภาพกายวิภาคของระบบหัวใจที่สร้างขึ้นผ่านการเชื่อมโยงกระแสไฟฟ้าหัวใจ จะช่วยให้แพทย์มองเห็นกระบวนการเต้นของหัวใจแบบ Real Time ทั้งสามารถหมุนดูภาพได้รอบทิศทาง พร้อมกับบันทึกข้อมูลของกระแสไฟฟ้าหัวใจไปด้วย ดังนั้นเมื่อพบความผิดปกติของกระแสไฟฟ้าหัวใจที่จุดใดจุดหนึ่งก็จะกำกับตำแหน่งไว้ได้ด้วยรหัสสี จากนั้นจึงปล่อยพลังงานความร้อนจากส่วนปลายของสายสวนเพื่อจี้เนื้อเยื่อที่ผิดปกติ ซึ่งสามารถแก้ไขกระแสไฟฟ้าหัวใจให้กลับเป็นปกติได้ทันที”
          EP Study จึงเป็นวิทยาการการแพทย์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการรักษาได้มุ่งไปยังสาเหตุแท้จริงที่ทำให้กระแสไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ ผู้ป่วยจึงหายขาดจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะโดยสิ้นเชิง
          “อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการรักษาด้วยวิธี EP Study จะช่วยให้ผู้ป่วยหายขาดจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น แต่ EP Study ไม่ได้มีผลในการเปลี่ยนปัจจัยด้านอื่นที่ส่งผลต่อโรคหัวใจของผู้ป่วย เพราะหากผู้ป่วยมีปัญหาเริ่มต้นด้วยภาวะความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ หรือมีพังผืดที่หัวใจ ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยจะต้องเผชิญก็ยังคงอยู่ต่อไป ดังนั้น ถึงแม้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการรักษาจนหายจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแล้ว แต่การระมัดระวังดูแลตนเองเพื่อควบคุมปัจจัยอื่น ๆ ที่จะส่งผลต่อหัวใจก็ยังคงต้องปฏิบัติต่อไป
          “พึงระลึกไว้ว่าภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นอาการที่มีความเสี่ยงจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา จึงไม่ควรปล่อยปละละเลย หลายกรณีที่ผู้ป่วยไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง ก็จะสร้างความเสียหายอย่างถาวรให้กับหัวใจ ดังนั้นเมื่อพบว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการบ่งชี้ของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เมื่อนั้นก็ควรพบแพทย์ให้เร็วที่สุด”
          
          ล่าสุด โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดห้องปฏิบัติการสรีรวิทยากระแสไฟฟ้าหัวใจ (Electrophysiology Lab หรือเรียกอย่างสั้นว่า EP Lab) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ด้านหัวใจขั้นสูง สำหรับศึกษา วินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะโดยเฉพาะ นับเป็นการเสริมศักยภาพในการตรวจรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจให้คลอบคลุมในด้านที่สำคัญ ส่งผลให้โรงพยาบาลฯ สามารถรองรับผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะและโรคหัวใจอื่น ๆ ได้เพิ่มมากขึ้น และครอบคลุมในทุกขั้นตอนตั้งแต่การป้องกัน การตรวจวินิจฉัยในระยะเริ่มต้น การรักษา ตลอดจนถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจในสาขาต่าง ๆ พร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์หลายสาขาที่เกี่ยวข้อง
 

ข่าวภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ+โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์วันนี้

บำรุงราษฎร์ รักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

EP Study และ CFAE Ablation : แนวทางใหม่ในการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ถึงแม้ว่าการตรวจสุขภาพประจำปีของคุณจะไม่พบอาการผิดปกติใด ๆ ของระบบการทำงานของหัวใจ อีกทั้งจังหวะการเต้นของหัวใจคุณก็เป็นปกติ นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่เสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเกิดจากกระแสไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ควบคุมกลไกการเต้นของหัวใจเกิดความผิดปกติ ระดับความรุนแรงของอาการมีตั้งแต่ระดับเบาซึ่งอาจไม่ได้ส่งผลร้ายต่อร่างกาย ไปจนถึงระดับรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของความผิดปกติ

‘บำรุงราษฎร์’ จัดอบรมแพทย์สรีรวิทยากระแสไ... บำรุงราษฎร์ อบรม ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ — ‘บำรุงราษฎร์’ จัดอบรมแพทย์สรีรวิทยากระแสไฟฟ้าหัวใจ เพื่อรักษาภาวะ ‘หัวใจเต้นผิดจังหวะ’ จากความสำเร็จของ...

นพ. นำ ตันธุวนิตย์ ผู้อำนวยการด้านบริหารแ... ภาพข่าว: ร่วมเปิดงาน — นพ. นำ ตันธุวนิตย์ ผู้อำนวยการด้านบริหารและผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ แถลงข่าวเปิดห้องปฏิบัติการสรีรวิทยากระแส...

Cryoablation เป็นเทคนิคการรักษาภาวะหัวใจเ... "Cryoablation จี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยบอลลูนเย็น 3 มิติ รักษา "หัวใจเต้นผิดจังหวะ" — Cryoablation เป็นเทคนิคการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ทันสมัยและปลอดภัย โด...

เดือนกันยายนของทุกปี เป็น AF Awareness Mo... เตือน! หัวใจไม่เคยหยุดพัก AF Awareness Month 2023 AF ภาวะหัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว ภัยเงียบที่อาจถึงชีวิต — เดือนกันยายนของทุกปี เป็น AF Awareness Month หรือเด...

สถาบันโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะเท็กซัสแห่งศูนย์การแพทย์เซนต์เดวิด จัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบเชิงซ้อน

เมื่อวันที่ 2-3 มิถุนายน 2565 สถาบันโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะเท็กซัสแห่งศูนย์การแพทย์เซนต์เดวิด (Texas Cardiac Arrhythmia Institute (TCAI) at St. David's Medical Center) ...

สถาบันโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะเท็กซัสแห่งศูนย์การแพทย์เซนต์เดวิด เตรียมจัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบเชิงซ้อน

การประชุมอีพีไลฟ์ ประจำปี 2565 ระยะเวลาสองวัน จะดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้านสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจระดับแนวหน้าจากทั่วโลก ในวันที่ 2-3 มิถุนายน 2565 สถาบันโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ...

Q : อัตราการเต้นของหัวใจปกติเป็นอย่างไร? ... Q & A เรื่องควรรู้... เมื่อหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ — Q : อัตราการเต้นของหัวใจปกติเป็นอย่างไร? A : ในขณะนั่งพักหัวใจจะเต้นประมาณ 60-80 ครั้งต่อนาที ในขณ...

ผู้นำสถาบัน Texas Cardiac Arrhythmia Institute ร่วมการทดลองใช้เทคโนโลยี AI รักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ซับซ้อนเป็นครั้งแรกของโลก

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้นำสถาบัน Texas Cardiac Arrhythmia Institute (TCAI) ณ St. David's Medical Center ได้ทำการทดลองทางคลินิกเพื่อประเมินประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม AI ที่ขับ...