“มะเร็งท่อน้ำดี” คร่าชีวิตคนไทยปีละหมื่นราย มูลนิธิฯ ผนึก เซเว่นอีเลฟเว่น และเคาน์เตอร์เซอร์วิส เปิดช่องทางใหม่บริจาคช่วยผู้ป่วยยากไร้ให้เข้าถึงการรักษา

07 Aug 2014
มูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี ร่วมกับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร เซเว่น อีเลฟเว่น (7Eleven) และบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด เปิดช่องทางใหม่ในการบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดี ยากไร้ให้ได้รับการรักษาทั่วถึง พร้อมกระตุ้นให้คนไทยตระหนักถึงภัยร้าย
“มะเร็งท่อน้ำดี” คร่าชีวิตคนไทยปีละหมื่นราย มูลนิธิฯ ผนึก เซเว่นอีเลฟเว่น และเคาน์เตอร์เซอร์วิส เปิดช่องทางใหม่บริจาคช่วยผู้ป่วยยากไร้ให้เข้าถึงการรักษา

วันที่ 4 สิงหาคม 2557 เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา บมจ.ซีพีออลล์ ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย ร่วมกับบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด และมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี ได้จัดงานแถลงข่าวกิจกรรมโครงการ “เซเว่นอีเลฟเว่น และเคาน์เตอร์เซอร์วิส ชวนคนไทยช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อน้ำดี” ณห้อง Victor Club ชั้น 8 อาคาร PARK VENTURES ECOPLEX โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดตัวโครงการระดมทุนให้แก่มูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี โดยเงินที่ได้จะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีที่ยากไร้ ซึ่งท่านสามารถบริจาคเงินตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป ได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสของร้านสะดวกซื้อ 7- Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศซึ่งได้เริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2554

รศ.นพ. ณรงค์ขันตีแก้ว รองประธานมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี และศัลยแพทย์ผ่าตัดมะเร็งท่อน้ำดีรพ.ศรีนครินทร์คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า มะเร็งท่อน้ำดีเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยโดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสาเหตุของมะเร็งชนิดนี้พบว่าเกี่ยวข้องกับการรับประทานปลาน้ำจืดที่มีเกล็ดขาวแบบดิบๆ หรือสุกๆดิบๆ ซึ่งจะทำให้รับประทานตัวอ่อนของพยาธิใบไม้ตับ โดยตัวอ่อนของพยาธิสามารถไซเข้าไปเจริญเติบโตอยู่ในท่อทางเดินน้ำดี และมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 20 ปีและจะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในทางเดินน้ำดี และเกิดเป็นมะเร็งในที่สุด ในปีหนึ่งๆ จะมีผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากกว่า 10,000 รายเสียชีวิตลงจากโรคนี้นอกจากนี้ยังมีประชากรกว่า 6 ล้านคนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสจะกลายเป็นมะเร็งท่อน้ำดี

ผศ.พญ. เนตรเฉลียว สัณฑ์พิทักษ์ ประธานมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดีกล่าวว่า มูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดีได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2555 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพิ่มโอกาสช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเช่นค่าใช้จ่ายในการเดินทางการดูแลสภาพความเป็นอยู่ของผู้ป่วย 2. เป็นทุนสำรองในการให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป ในด้านการป้องกัน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค เพื่อลดการเกิดมะเร็งท่อน้ำดี

3. สนับสนุนทุนการศึกษาการพัฒนาและการวิจัยให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในการวินิจฉัยและการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดี 4. เป็นทุนสำรองในการจัดหาและพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการดูแลรักษาผู้ป่วย 5.จัดกิจกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการดูและประชาชนให้ปลอดภัยจากโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ บมจ.ซีพีออลล์ และบริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด พร้อมด้วยมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี จึงเกิดโครงการความร่วมมือกัน เพื่อที่จะทำให้สังคมและผู้เกี่ยวข้องได้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ ตระหนักถึงภัยอันตราย และได้ทราบถึงความทุกข์ทรมารของผู้ป่วย และญาติที่เจ็บป่วยจากโรคนี้ เพราะโรคนี้มีจำนวนผู้ป่วยที่สูงมากส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และสังคมของประชากรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคนี้เกิดในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งมักเป็นเสาหลักของครอบครัว ดังนั้น ครอบครัวที่มีผู้เจ็บป่วยดังกล่าว จึงมักได้รับผลกระทบมากเป็นทวีคูณในปีหนึ่งๆ มีครอบครัวที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวมากกว่าหมื่นครอบครัว จึงย่อมส่งผลกระทบทั้งกับครอบครัวของผู้ป่วยโดยตรง และต่อสังคมในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจการศึกษา และการพัฒนาด้านอื่นอันอาจส่งผลต่อการถดถอยในการพัฒนาประเทศโดยรวมได้ในที่สุด

ผลกระทบตามที่กล่าวข้างตน เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ มาอย่างยาวนานและยังคงดำเนินต่อไป เพราะยังมีกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับอีกประมาณปีละ 6 ล้านรายที่จะพัฒนาเป็นผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีปีละกว่าหมื่นครายถ้าเราปล่อยกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ไปโดยไม่ได้มีมาตรการอะไร พวกเขาเหล่านั้นก็อาจจะมาพบแพทย์เมื่อเป็นมะเร็งท่อน้ำดีระยะลุกลามแล้วอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการรักษามักได้ผลไม่ดีจึงมีกิจกรรมการติดตามกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ด้วยการตรวจอัลตร้าซาวด์ตับปีละ 1-2 ครั้งซึ่งพบว่าได้ช่วยให้พบผู้ป่วยก่อนที่จะมีอาการและโรคลุกลามหลายเดือนโรคนี้ยิ่งพบผู้ป่วยเร็วเท่าใดโอกาสหายและอยู่รอดได้ก็สูงขึ้นเท่านั้น

ถ้าเราได้ดูแลกลุ่มเสี่ยงอย่างเป็นระบบ และช่วยให้ผู้ป่วยได้เข้ารับการวินิจฉัย รักษาอย่างทันท่วงที เท่าเทียมสะดวกปลอดภัย คุณภาพดีชาวบ้านก็จะได้อานิสงส์เป็นอย่างยิ่ง คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และสังคมก็จะตามมาอย่างแน่นอน

ทางด้าน คุณณรงค์ศักดิ์ ภูมิศรีสะอาด รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่าเนื่องจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ที่เรารู้จักกันในนาม 7-11 ร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชม ได้อยู่คู่กับวิถีชีวิตคนไทยมานาน ได้เล็งเห็นผลกระทบอันมหาศาลของโรคมะเร็งท่อน้ำดีต่อประชาชนและประเทศชาติทั้งในแง่ของคุณภาพชีวิตของประชาชน และในแง่ผลกระทบที่มีต่อคุณภาพของครอบครัวชุมชนสังคมและประเทศชาติในหลายด้านเช่นเศรษฐกิจการศึกษาสังคมประเพณีวัฒนธรรมและเรื่องอื่นๆอีกมากมายที่เกิดขึ้นในวงกว้าง หากปล่อยทิ้งไว้เนิ่นนานออกไปอาจจะทำให้ประเทศชาติเกิดความอ่อนแอและส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาวได้จึงได้ยินดีให้ความร่วมมือและช่วยเหลืออย่างเต็มที่กับทางมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดีในการดำเนินโครงการนี้

นอกจากนี้ คุณวีรเดช อัครผลพานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัดได้กล่าวเชิญชวนทุกท่านร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดี โดยบริจาคไดที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ของร้านสะดวกซื้อ 7- Eleven ทุกสาขากว่า 7,800 สาขาทั่วประเทศซึ่งเริ่มไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2557 และนับเนื่องต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 3 ปีซึ่งเรามีความคาดหวังว่าการจัดกิจกรรมเช่นนี้จะทำให้สังคมหันมาดูแลตัวเองสร้างเสริมภูมิคุ้มกันตัวเองพร้อมๆกับการเยียวยารักษาต่อสู้กับโรคร้ายนี้ร่วมกันไปกับรัฐที่ถึงแม้จะให้การดูแลรักษาอยู่แล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอนั้นให้มีมาตรการป้องกันการวินิจฉัยโรค ตั้งแต่เริ่มแรกย่อมส่งผลให้การรักษาโรคได้ผลดีประชาชนได้มีสุขภาพดีขึ้นและสังคมก็จะดีตามมาและยังหวังว่าจะส่งผลให้สังคมได้สร้างสำนึกแห่งความช่วยเหลือเกื้อกูลเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ดูแลซึ่งกันและกันเกิดความรักความอบอุ่นเป็นสังคมแห่งความสุขสามัคคีซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมและชาติกำลังต้องการในขณะนี้และก็หวังว่าปัญหาของโรคนี้จะบรรเทาเบาบางและหายไปในที่สุด

ขอเชิญทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำมหากุศลในครั้งนี้ “เงินทุกบาทที่ท่านอุทิศช่วยยืดชีวิตผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดี”