บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลัง SET INDEX มีโอกาสทดสอบ 1,760 จุด ปัจจัยหนุนเพียบ ระบุเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และเตรียมพร้อมทะยานตัวหลัง คสช.เร่งกระตุ้นด้วยการดันโครงการเมกะโปรเจกต์ให้ออกมาให้เร็วที่สุด ขณะที่ยุโรป-ญี่ปุ่น เตรียมออกมาตรการ QE กระตุ้นเศรษฐกิจ งานนี้เฟ้นหุ้นเด็ด 3 กลุ่มอุตสาหกรรมให้นักลงทุนได้เลือกช้อป 1.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของผู้บริโภค เช่น CPALL-MALEE-PS-SPALI-VGI 2.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการลงทุนภาครัฐและเอกชน เช่น KTB-CK-EA-GUNKUL และ 3.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว เช่น ERW-MINT-CPN-AOT
นายประพล มิลินทจินดา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ( AEC) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ SET INDEX มีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,760 จุด ซึ่งเป้าหมายดัชนีเทียบเท่าระดับ Forward PER และ PBV ที่ 17 เท่า และ 2.5 เท่าตามลำดับ เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2557 จะขยายตัว 2% และในปี 2558 กลับมาขยายตัวที่ 3.5-4% ซึ่งเป็นระดับการเติบโตระยะกลางของเศรษฐกิจไทย
ขณะที่เสถียรภาพของเศรษฐกิจไทยระยะยาวยังอยู่ในเกณฑ์ดี 3 ประการ คือ 1.การขาดดุลงบประมาณยังอยู่ในระดับต่ำและมีความยืดหยุ่นในการออกนโยบายเพิ่ม 2.ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยยังอยู่ในระดับ +/- 1% ของจีดีพี ซึ่งเอื้อต่อค่าเงินบาทระยะยาว และ 3.สัดส่วนทุนสำรองของประเทศไทยยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นบวกต่อการลงทุน โดยยุโรปและญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มที่จะออกนโยบายเพิ่มปริมาณเงิน (QE) เพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ
“คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ภายหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) และสนับสนุนธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมผลิตและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ พร้อมสนับสนุนการใช้จ่ายและการบริโภคภาคครัวเรือน ซึ่งจะทำให้การลงทุนของภาครัฐ และเอกชน กลับมาเป็นตัวนำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกเหนือจากภาคการส่งออก ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นการบริโภคเริ่มฟื้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมาการลงทุนภาครัฐ เอกชน และการบริโภคภายในประเทศชะลอตัว เนื่องจากไม่มั่นใจทิศทางเศรษฐกิจ จากปัญหาการเมืองและความขัดแย้งในช่วงที่ผ่านมา”
กลยุทธ์การลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังแนะนำเลือกลงทุนใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง คือ 1.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของผู้บริโภค เช่น CPALL-MALEE-PS-SPALI-VGI เป็นต้น 2.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการลงทุนภาครัฐและเอกชน เช่น KTB-CK-EA-GUNKUL เป็นต้น และ 3.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว เช่น ERW-MINT-CPN-AOT เป็นต้น
ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี กล่าวอีกว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทฯเตรียมปรับแผนธุรกิจใหม่ (Business Plan) เพื่อให้สอดคล้องและรองรับกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต รวมถึงช่วยผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทฯเติบโตตามแผนงานที่วางไว้
นายประพล มิลินทจินดา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ( AEC) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ SET INDEX มีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,760 จุด ซึ่งเป้าหมายดัชนีเทียบเท่าระดับ Forward PER และ PBV ที่ 17 เท่า และ 2.5 เท่าตามลำดับ เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2557 จะขยายตัว 2% และในปี 2558 กลับมาขยายตัวที่ 3.5-4% ซึ่งเป็นระดับการเติบโตระยะกลางของเศรษฐกิจไทย
ขณะที่เสถียรภาพของเศรษฐกิจไทยระยะยาวยังอยู่ในเกณฑ์ดี 3 ประการ คือ 1.การขาดดุลงบประมาณยังอยู่ในระดับต่ำและมีความยืดหยุ่นในการออกนโยบายเพิ่ม 2.ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยยังอยู่ในระดับ +/- 1% ของจีดีพี ซึ่งเอื้อต่อค่าเงินบาทระยะยาว และ 3.สัดส่วนทุนสำรองของประเทศไทยยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นบวกต่อการลงทุน โดยยุโรปและญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มที่จะออกนโยบายเพิ่มปริมาณเงิน (QE) เพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ
“คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ภายหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) และสนับสนุนธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมผลิตและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ พร้อมสนับสนุนการใช้จ่ายและการบริโภคภาคครัวเรือน ซึ่งจะทำให้การลงทุนของภาครัฐ และเอกชน กลับมาเป็นตัวนำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกเหนือจากภาคการส่งออก ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นการบริโภคเริ่มฟื้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมาการลงทุนภาครัฐ เอกชน และการบริโภคภายในประเทศชะลอตัว เนื่องจากไม่มั่นใจทิศทางเศรษฐกิจ จากปัญหาการเมืองและความขัดแย้งในช่วงที่ผ่านมา”
กลยุทธ์การลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังแนะนำเลือกลงทุนใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง คือ 1.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของผู้บริโภค เช่น CPALL-MALEE-PS-SPALI-VGI เป็นต้น 2.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการลงทุนภาครัฐและเอกชน เช่น KTB-CK-EA-GUNKUL เป็นต้น และ 3.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว เช่น ERW-MINT-CPN-AOT เป็นต้น
ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี กล่าวอีกว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทฯเตรียมปรับแผนธุรกิจใหม่ (Business Plan) เพื่อให้สอดคล้องและรองรับกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต รวมถึงช่วยผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทฯเติบโตตามแผนงานที่วางไว้
“AECS” คาดดัชนีหุ้นไทยไตรมาส3 แตะ 1,641 จุด แนะลงทุนหุ้นผลงานเด่น ชู BCH-MONO-PLANB
“AECS” กังวลราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วง-NPLพุ่งกดดันดัชนี แนะลงทุนหุ้นขนาดเล็ก ชู EA - CBG-LPH-BR-BA-TWPC- ARROW- EPG
“AECS” ลุ้นหุ้นไทยทดสอบ 1,590 จุด แนะลงทุน EA-IRPC-BCP
“AECS” มองหุ้นไทยเด้งรับผลโหวตประชามติ ให้กรอบดัชนี 1,470 - 1,550 จุด - แนะลงทุน EA-IRPC-BCP
“AECS” จับตาลงประชามติร่างธรรมนูญ แนะลงทุนหุ้น Big cap กลุ่มสายการบิน–พลังงานทดแทน-สินเชื่อเช่าซื้อ-อสังหาฯ-เครื่องดื่ม
บล.เออีซี มอง SET เดือน มิ.ย.59 แกว่งขาขึ้น ลุ้นขึ้นไปทดสอบ 1,440 จุด อานิสงส์น้ำมันโลกฟื้น-เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย เชียร์ซื้อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี-โรงพยาบาล-สื่อสาร
บล.เออีซี มอง SET เดือนพ.ค.เสี่ยง “ขาลง” แรงซื้อต่างชาติเริ่มแผ่ว-ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่งสัญญาณร่วง เชียร์ซื้อหุ้น “KTC-LPH-BEM-MAJOR”ช่วงตลาดปรับฐาน
บล. เออีซี ฟันธง! SET เดือนเม.ย.ไปต่อ ชี้ Fund Flow หนุนดัชนีมีโอกาสขึ้นทดสอบจุดสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรกที่ 1,440 จุด ส่งลุยหุ้นกลุ่มโรงกลั่น-ท่องเที่ยว-ค้าปลีก