“AECS” คาด SET สัปดาห์นี้ 1,720-1,750 จุด คัดหุ้นปลอดภัย ชู SYNEX , HARN, BAFS , ASK น่าเก็บเข้าพอร์ต

          บล.เออีซี มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวไซต์เวย์ ในกรอบ หลักทรัพย์ เออีซี,7สงครามการค้าแนวโน้มตลาดหุ้นไทย -หลักทรัพย์ เออีซี,75แนวโน้มตลาดหุ้นไทย จุด ปัจจัยภายต่างประเทศเป็นบวก ขณะที่ภาวะในประเทศกดดัน ทั้งเงินบาทแข็งค่า สงครามการค้าฉุดภาคส่งออก พร้อมจัดหุ้นรับมือตลาดผันผวนได้ประโยชน์บาทแข็ง-ได้งานใหม่ต่อเนื่อง-ปันผลดี- SYNEX , HARN , BAFS , ASK คัดอีกกลุ่มคาดกำไรดีเหมาะเล่นสั้นดักทางก่อนประกาศ Qสงครามการค้า/6สงครามการค้า แนะ PSL , KKP , KTB
          บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS ระบุว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทย ในสัปดาห์นี้ (8-หลักทรัพย์ เออีซีสงครามการค้า ก.ค 6สงครามการค้า) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Side-way Up ในกรอบ หลักทรัพย์ เออีซี,7สงครามการค้าแนวโน้มตลาดหุ้นไทย-หลักทรัพย์ เออีซี,75แนวโน้มตลาดหุ้นไทย จุด ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า Sentiment จากต่างประเทศ จะเป็นบวกจากสภาพคล่องในตลาดเงิน ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลัง ECB จีน และ ญี่ปุ่นตั้งเป้าใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย ประกอบในสัปดาห์นี้ หากรายงานการประชุม Fed ในเดือน มิ.ย.(หลักทรัพย์ เออีซีหลักทรัพย์ เออีซี ก.ค.6สงครามการค้า ) รวมถึงถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวล มีมุมมองลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะทำให้ Prob. ที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ในปีนี้มากกว่า สงครามการค้า ครั้งเพิ่มขึ้น (ปัจจุบันอยู่ที่ 44.9%) 
          ขณะเดียวกัน ด้วยภาวะเศรษฐกิจ ในประเทศ ที่แสดงสัญญาณชะลอตัวลง โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่รับผลกระทบจากสงครามการค้า และการใช้จ่ายภาครัฐ ที่เผชิญกับความล้าช้าของงบประมาณ ปี 63 ทำให้คาดปัจจัยดังกล่าว จะเป็นปัจจัยที่กดดัน EPS ของ SET Index ทั้งนี้ ในช่วงสั้นนักลงทุนจะให้ความสนใจกับการประกาศงบการเงินของหุ้นกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศงบ เพื่อเป็น Leading Indicator สำหรับการคาดการณ์แนวโน้มกำไรของหุ้นในกลุ่ม Real Sector ที่จะประกาศต่อไป 
          ดังนั้น ภายใต้ภาวะผันผวนของตลาด ส่งผลให้ฝ่ายวิจัย บล.เออีซี มองกลยุทธ์ลงทุน โดยแนะนำ หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะหุ้นที่นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ที่ได้ประโยชน์ จากต้นทุนสินค้าถูกลง ได้แก่ SYNEX (โดยตั้งเป้าปีนี้ รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า หลักทรัพย์ เออีซี5% นำโดยสินค้าประเภทอุปกรณ์สื่อสารและสินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียล ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง บวกกับมีแผนเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ทั้ง Gaming, Cloud service, Security และ Internet of Things) และ HARN (คาดกำไรปี 6สงครามการค้า เติบโต หลักทรัพย์ เออีซีสงครามการค้า.7% YoYจาก Backlog ณ สิ้น หลักทรัพย์ เออีซีQ6สงครามการค้า อยู่ที่ 5สงครามการค้าแนวโน้มตลาดหุ้นไทย.7 ลบ. และมีโอกาสได้งานต่อเนื่องจากโครงการภาครัฐและเอกชน อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันเทรด ForwardPER ปีนี้ที่ระดับ 8.9สงครามการค้าx)
          และกลุ่ม Defensive Stock ได้แก่ BAFS (กำไรสุทธิช่วง หลักทรัพย์ เออีซีQ6สงครามการค้า เติบโต 7.8%YoY จากปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้น 4.9%YoY ส่วนปี 6สงครามการค้า ตั้งเป้ารายได้โต 8-9%YoY และเป้าปริมาณการเติมน้ำมันโต 4%YoY ตามจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับเริ่มรับรู้รายได้ท่อส่งน้ำมันบางปะอิน - พิจิตร และเตรียมเข้าประมูลโครงการจัดเก็บและเติมน้ำมันในสนามบินอู่ตะเภา) 
          นอกจากนี้ ยังมองหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผล และมีผลเชิงบวกกับกำไรช่วง สงครามการค้าH6สงครามการค้า มีแนวโน้มโตดี โดยแนะนำ ASK (คาดผลดำเนินงานมีโตต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงสงครามการค้าQ6สงครามการค้า หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.)
ขณะเดียวกัน ฝ่ายวิจัย ยังมีมุมมองต่อหุ้น กลุ่มเทรดดิ้ง ที่คาดว่าจะมีการฟื้นตัวจากผลประกอบการไตรมาสสงครามการค้า/สงครามการค้า56สงครามการค้า ได้แก่ หุ้นกลุ่มเรือเทกอง ที่คาดผลประกอบการช่วง สงครามการค้าQ6สงครามการค้า จะฟื้นตัวจากช่วง หลักทรัพย์ เออีซีQ6สงครามการค้า หลัง BDIY Index ในช่วง สงครามการค้าQTD ฟื้นตัวกว่า สงครามการค้า4.7% เทียบกับช่วง หลักทรัพย์ เออีซีQ6สงครามการค้า ซึ่งสูงกว่าการปรับขึ้นของต้นทุนราคาน้ำมันโดย WTI CRUDE FUTURE ช่วง สงครามการค้าQTD เพิ่มขึ้นเพียง 6.5% เทียบกับช่วง หลักทรัพย์ เออีซีQ6สงครามการค้า มองหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ PSL ปัจจุบันเทรด Trailing PBV ที่ระดับ หลักทรัพย์ เออีซีx ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV หลักทรัพย์ เออีซีแนวโน้มตลาดหุ้นไทย ปีย้อนหลังที่ หลักทรัพย์ เออีซี.หลักทรัพย์ เออีซี4x พร้อมทั้ง แนะนำจับตา หุ้นกลุ่มธนาคาร โดยมองว่า เป็นกลุ่มที่ราคาน่าดึงดูด จากปัจจุบันซื้อขายที่ P/BV ต่ำเพียง หลักทรัพย์ เออีซี.แนวโน้มตลาดหุ้นไทย4x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังช่วง 3 ปีที่ หลักทรัพย์ เออีซี.หลักทรัพย์ เออีซี9x อีกทั้งหลังมีการรายงานแบบ ธ.พ.หลักทรัพย์ เออีซี.หลักทรัพย์ เออีซีจึงมองว่าหุ้นในกลุ่มธนาคารที่มีอัตราการเติบโตของเงินให้สินเชื่อโดดเด่นได้แก่ KKP (+หลักทรัพย์ เออีซีแนวโน้มตลาดหุ้นไทย.สงครามการค้า%YoY) และ KTB (+6.6%YoY)
 
 

ข่าวแนวโน้มตลาดหุ้นไทย+หลักทรัพย์ เออีซีวันนี้

“AECS” คาด SET สัปดาห์นี้ 1,720-1,750 จุด คัดหุ้นปลอดภัย ชู SYNEX , HARN, BAFS , ASK น่าเก็บเข้าพอร์ต

บล.เออีซี มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวไซต์เวย์ ในกรอบ 1,720 -1,750 จุด ปัจจัยภายต่างประเทศเป็นบวก ขณะที่ภาวะในประเทศกดดัน ทั้งเงินบาทแข็งค่า สงครามการค้าฉุดภาคส่งออก พร้อมจัดหุ้นรับมือตลาดผันผวนได้ประโยชน์บาทแข็ง-ได้งานใหม่ต่อเนื่อง-ปันผลดี- SYNEX , HARN , BAFS , ASK คัดอีกกลุ่มคาดกำไรดีเหมาะเล่นสั้นดักทางก่อนประกาศ Q2/62 แนะ PSL , KKP , KTB บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS ระบุว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทย ในสัปดาห์นี้ (8-12 ก.ค 62) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Side-way Up

บล.เออีซี ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยไตรมาส 3... “AECS” คาดดัชนีหุ้นไทยไตรมาส3 แตะ 1,641 จุด แนะลงทุนหุ้นผลงานเด่น ชู BCH-MONO-PLANB — บล.เออีซี ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยไตรมาส 3/60 ลุ้นแตะ 1,641 จุด แม้เจ...

บล. เออีซี (AECS) มองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไท... “AECS” ลุ้นหุ้นไทยทดสอบ 1,590 จุด แนะลงทุน EA-IRPC-BCP — บล. เออีซี (AECS) มองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย คาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบ 1,590 จุด จากการฟื้นตัวข...

บล. เออีซี (AECS) ประเมินตลาดหุ้นไทยสะท้อ... “AECS” มองหุ้นไทยเด้งรับผลโหวตประชามติ ให้กรอบดัชนี 1,470 - 1,550 จุด - แนะลงทุน EA-IRPC-BCP — บล. เออีซี (AECS) ประเมินตลาดหุ้นไทยสะท้อนปัจจัยบวกหลังการ...

“เออีซี”แนะลงทุนหุ้นไทยในกรอบ 1,495-1,530 จุด ก่อนลงประชามติ แนะลงทุนหุ้นพลังงานและปิโตรเคมีผลงานดี SCC-PTT-IVL

บล. เออีซี (AECS) แนะลงทุนหุ้นไทยในกรอบ 1,495-1,530 จุด ก่อนลงประชามติวันที่ 7 สิงหาคม 2559 พร้อมแนะนำกลยุทธ์ลงทุนหุ้นพลังงานและปิโตรเคมีผลงานดี ชู SCC-PTT-IVL เด่น รองลงมากลุ่มสถาบันการ...