นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บมจ. เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน ตลท. ภายใต้กลุ่มธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557โดย MTLS และบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถเพื่อการเกษตร สินเชื่อส่วนบุคคลแก่ลูกค้าที่มีประวัติดีและมีการผ่อนชำระสินเชื่อทะเบียนรถกับบริษัทฯ และธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ผ่านสาขาของบริษัท 454 สาขา ทั่วประเทศ และเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ระดับประเทศ
MTLS มีทุนชำระแล้ว 2,120 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,575 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 545 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) 502.5 ล้านหุ้น และต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานบริษัทฯ 42.5 ล้านหุ้น ในราคาเดียวกันที่หุ้นละ 5.50 บาท เมื่อวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2557 มีมูลค่าระดมทุน 2,997.50ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 11,660 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เมืองไทย ลิสซิ่ง (MLTS) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายพื้นที่การให้บริการลูกค้าให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัท โดยจะนำเงินที่ได้ไปขยายการให้สินเชื่อและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจที่เหลือนำไปชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนในอนาคตผ่านเครื่องมือทางการเงินต่างๆ อันจะช่วยให้บริษัทบริหารต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
MTLS มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 รายแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวเพ็ชรอำไพ ประกอบด้วย นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ และนางดาวนภา เพชรอำไพ ถือหุ้นรวม 66.27% นายวศิน เดชกิจวิกรม ถือหุ้น 3.07% และ นายสรชัย เดชกิจวิกรม ถือหุ้น 3.07% ทั้งนี้ การกำหนดราคา IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio ) 22.23 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 ตุลาคม 2556 - 30 กันยายน 2557) หารด้วยจำนวนหุ้นภายหลังการเสนอขายต่อประชาชนในครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.25 บาท และหากเปรียบเทียบค่า P/E Ratio เฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (18 พฤศจิกายน 2556 - 17 พฤศจิกายน 2557) จะเท่ากับ 18.67 เท่า ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 50%ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจของบริษัทฯ ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.muangthaileasing.co.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th
กลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย “สานโอกาสการลงทุน เพื่อคุณ เพื่อธุรกิจ”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. SET Call Center 0 2229 2222
"MGC-ASIA" คว้ารางวัล "ดีเลิศ" ระดับ 5 ดาว จาก CGR ติดกลุ่ม Top Quartile ตอกย้ำธรรมาภิบาลแกร่ง สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ITEL ตอกย้ำผู้นำธรรมาภิบาล คว้า 5 ดาว "ดีเลิศ" 5 ปีต่อเนื่อง
SGP คว้า CGR ระดับ 5 ดาว `ดีเลิศ` ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล
SMPC คว้า Excellent CG Scoring 5 ดาว 6 ปีซ้อน ตอกย้ำมาตรฐานธรรมาภิบาลสูงสุด
STARM คว้า "CGR 5 ดาว" ดีเลิศต่อเนื่องปีที่ 3 ตอกย้ำองค์กรธรรมาภิบาลแข็งแกร่ง
กสิกรไทยประกาศเตรียมซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินกองทุน
WICE คว้า CGR ระดับ "ดีเลิศ" 7 ปีซ้อน ในระดับ "Top Quartile" สะท้อนผลงานธรรมาภิบาลสูงสุด
CPW ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ CGR ประจำปี 2568 ในระดับ "ดีเลิศ"
WP คว้า CGR ระดับ 5 ดาว "ดีเลิศ" ตอกย้ำการกำกับดูแลกิจการที่ดี