ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และแนวโน้ม “บ. ราชธานีลิสซิ่ง” ที่ “BBB+/Stable”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูงในธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว รวมถึงการพัฒนาขั้นตอนการปฏิบัติงานและระบบบริหารความเสี่ยงที่ต่อเนื่อง อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงผลประกอบการทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้นและสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งขึ้นหลังจากได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านธุรกิจและการเงินจากผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) อันดับเครดิตของบริษัทยังได้รับการยกระดับเพิ่มขึ้นจากสถานะอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทเนื่องจากปัจจุบันบริษัทเป็นบริษัทลูกที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคารธนชาตภายใต้กฎเกณฑ์การกำกับแบบรวมกลุ่มของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนจากประเด็นกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันที่รุนแรงและคุณภาพสินเชื่อของบริษัทจากการที่ปัจจุบันบริษัทมุ่งเน้นให้สินเชื่อสำหรับรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าประสบการณ์ของผู้บริหาร ตลอดจนประสิทธิภาพการปฏิบัติงานที่ปรับตัวดีขึ้น และการสนับสนุนจากบริษัทแม่จะช่วยให้บริษัทสามารถขยายสินเชื่อในตลาดเป้าหมายได้ นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะสามารถควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ อีกทั้งการสนับสนุนจากบริษัทแม่ยังคาดว่าจะมีอยู่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือในด้านเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจ 
          บริษัทราชธานีลิสซิ่งมีสถานะเป็นบริษัทลูกของธนาคารธนชาตมาตั้งแต่ปี 2553 หลังจากการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) กับธนาคารธนชาตพร้อมทั้งมีการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ปัจจุบันธนาคารธนชาตจัดให้บริษัทเป็นหนึ่งในบริษัทลูกที่อยู่ในกลุ่มควบรวมแบบ Non -Solo Consolidation ตามกฎเกณฑ์การกำกับแบบรวมกลุ่มของ ธปท. แม้ว่าธุรกิจหลักของบริษัทคือธุรกิจสินเชื่อรถยนต์จะทับซ้อนกับธุรกิจของธนาคารธนชาต ทว่าบริษัทและธนาคารก็มีผลิตภัณฑ์และตลาดเป้าหมายที่ต่างกัน ธนาคารธนชาตมีความตั้งใจที่จะให้บริษัทเน้นกลุ่มตลาดที่ธนาคารธนชาตยังเข้าไม่ถึง นอกจากนี้ ธนาคารธนชาตยังได้ให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทในการพัฒนากระบวนการอนุมัติสินเชื่อและการจัดเก็บหนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้วย โดยมีการนำนโยบายการบริหารความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ มาใช้ในบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของธนาคารธนชาต ล่าสุดบริษัทได้เปลี่ยนระบบสารสนเทศสำหรับธุรกิจเช่าซื้อมาใช้ระบบเดียวกับของธนาคารธนชาต และเมื่อเดือนเมษายน 2556 บริษัทยังใช้ระบบบัญชีเดียวกับธนาคารธนชาตด้วย ทั้งนี้ บริษัทยังได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากธนาคารแม่และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. ผ่านการกำกับดูแลจากธนาคารแม่ด้วยเช่นกัน 
          บริษัทมีความคล่องตัวทางการเงินมากขึ้นหลังจากมีสถานะเป็นบริษัทลูกของธนาคารธนชาต บริษัทได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านธุรกิจและการเงินเพิ่มมากขึ้นซึ่งช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันและช่วยสนับสนุนความพยายามในการขยายธุรกิจของบริษัท บริษัทสามารถยกระดับสถานะทางการตลาดได้อย่างต่อเนื่องโดยสะท้อนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อ โดยสินเชื่อรวมมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ระดับ 42% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในปีนี้ทำให้อัตราการเติบโตของสินเชื่อลดลง ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 สินเชื่อรวมของบริษัทอยู่ในระดับ 28,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 4.1% เมื่อเทียบกับสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2556 
          บริษัทได้เน้นการให้บริการสินเชื่อรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์มาตั้งแต่ปี 2549 โดยสินเชื่อในกลุ่มนี้คิดเป็น 68% ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์คงค้างของบริษัท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 บริษัทพยายามชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น การเรียกเก็บเงินดาวน์ที่เพิ่มขึ้น และการให้ชำระเช็คลงวันที่ล่วงหน้า ทั้งนี้ เนื่องจากสินเชื่อสำหรับรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์จัดเป็นสินเชื่อที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ 
          อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมของบริษัทปรับลดลงอย่างต่อเนื่องเกือบทุกปีนับตั้งแต่ปี 2551 ถึงปี 2555 โดยลดลงจาก 4.9% ในปี 2551 เป็น 2.3% ในปี 2555 อย่างไรก็ดี อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 3.6% ในปี 2556 และ 4.4% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 เนื่องจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้น ในช่วงปัจจุบันที่เศรษฐกิจชะลอตัวลง บริษัทจึงต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรและควบคุมคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ 
          บริษัทมีผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2555 และ 2556 โดยในปี 2555 บริษัทมีกำไรสุทธิ 477 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 133% จากปี 2554 ในขณะที่ในปี 2556 บริษัทยังมีกำไรสุทธิ 754 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากปี 2555 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ถัวเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 3.2% ในปี 2556 เพิ่มขึ้นจาก 2.8% ในปี 2555 และ 1.9% ในปี 2554 การปรับตัวดีขึ้นของกำไรสุทธิดังกล่าวเป็นผลมาจากการขยายฐานสินเชื่อจำนวนมาก รวมถึงการประหยัดจากขนาดจากต้นทุนการดำเนินงาน และการมีแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ ประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการประหยัดจากขนาดจากสินเชื่อที่เติบโตขึ้นและจากการสนับสนุนของธนาคารธนชาต อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ลดลงเป็น 13.3% ในปี 2555 จากระดับ 26.7% ในปี 2552 อัตราส่วนดังกล่าวลดลงต่อไปอีกเป็น 10.7% ณ สิ้นปี 2556 ในครี่งแรกปี 2557 บริษัทรายงานผลกำไรสุทธิ 368 ล้านบาท ลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน การปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งทำให้มีการตั้งสำรองเป็นจำนวนมาก 
          การแข่งขันที่รุนแรงเป็นอุปสรรคต่อผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแหล่งเงินทุนที่มั่นคงและต้นทุนต่ำจากธนาคารธนชาตซึ่งเป็นบริษัทแม่ นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินต้นทุนต่ำจากตลาดทุนโดยการออกหุ้นกู้และตั๋วแลกเงินด้วย แหล่งเงินต้นทุนที่ต่ำช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายได้เป็น 4.3% ในปี 2556 เปรียบเทียบกับ 3.3% ในปี 2555 และจาก 2.9% ในปี 2554 จากการเป็นบริษัทลูกของธนาคารธนชาตทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่เพียงพอ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 บริษัทมีเงินกู้ยืมจากธนาคารธนชาตเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ บริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากธนาคารธนชาตเมื่อมีความจำเป็นด้านสภาพคล่อง 
          ฐานทุนของบริษัททรุดลงจากการระดมทุนเชิงรุกโดยการกู้ยืมเพื่อขยายสินเชื่อแม้ว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปี 2552 และมีการเพิ่มทุน 2 ครั้งล่าสุดแล้วก็ตาม อัตราส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมลดลงจาก 31.4% ในปี 2550 เป็น 13.4% ในปี 2553 และ 12.2% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 การปรับโครงสร้างทุนในเดือนพฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมาทำให้ฐานทุนของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นเป็น 17.2% ณ สิ้นปี 2554 บริษัทใช้ความยืดหยุ่นทางการเงินที่มีมากขึ้นในการขยายสินเชื่อในปี 2555 และปี 2556 ส่งผลให้อัตราส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมลดลงเป็น 13.1% ณ สิ้นปี 2555 ถึงแม้ว่าบริษัทจะเสริมฐานทุนในปี 2556 ด้วยการจ่ายหุ้นปันผล กระนั้นอัตราส่วนดังกล่าวก็ยังลดลงเป็น 11.8% ณ สิ้นปี 2556 อันเนื่องมาจากการขยายสินเชื่อในช่วงเวลาดังกล่าว อัตราส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 12.6% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 เนื่องจากสินเชื่อที่เติบโตในอัตราที่ชะลอลง

บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (THANI)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
THANI154A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
THANI164A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB+
THANI16NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB+
THANI176A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB+
THANI17OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB+
THANI185A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
 
 
 

ข่าวธุรกิจสินเชื่อ+ราชธานีลิสซิ่งวันนี้

SGC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 68 ผ่านฉลุย โฟกัสธุรกิจ Lock Phone เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 19-21 พ.ค. 68 นี้

นายพิพิธ พิชัยศรทัต (กลาง) ประธานกรรมการ และ นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร (ขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ผู้นำด้านสินเชื่อและผลิตภัณฑ์ทางการเงินชั้นนำของประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการและทีมผู้บริหารบริษัท จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ในรูปแบบ Hybrid ณ สำนักงานใหญ่ อาคารโทรคมนาคม ในวันที่ 22 เมษายน 2568 โดยมติในที่ประชุมอนุมัติทุกวาระตามที่คณะกรรมการเสนอ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นปี 2568 เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อมือถือ "Lock Phone"

'กรุงศรี ออโต้' ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต... กรุงศรี ออโต้ คว้า 3 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจจากเวที Future Trends Awards 2025 — 'กรุงศรี ออโต้' ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา...

บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มห... SCAP สุดปลื้ม! ฟิทช์จัดอันดับเครดิต 'A-(tha)' สะท้อนฐานะการเงินมั่นคง เพิ่มศักยภาพเข้าถึงแหล่งเงินต้นทุนต่ำ ช่วยเสริมแกร่งกลุ่ม SAWAD — บริษัท ศรีสวัสดิ์ ...

บมจ. เอสจี แคปปิตอล (SGC) เร่งเครื่องธุรก... SGC เดินหน้าขับเคลื่อนแผนธุรกิจปี 68 ชูธุรกิจ Locked Phone ทะยานโต พร้อมเสนอขายหุ้นกู้มีประกันชุดใหม่ อัตราดอกเบี้ย [7.00% - 7.25%] ต่อปี คาดเสนอขายระหว่างวันที่ 6-8 พ.ค.นี้ — บมจ. เอสจี ...

"กรุงศรี ออโต้" ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต... กรุงศรี มอเตอร์ไซค์ เร่งเครื่องแรงครองแชมป์สินเชื่อสองล้อ ดันยอดสินเชื่อโต 10% พร้อมเดินหน้าสร้างโอกาสให้ทุกคนมีรถขับ — "กรุงศรี ออโต้" ผู้นำธุรกิจสินเชื่...

สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียน... สานต่องานใหญ่! "สุธัช เรืองสุทธิภาพ" นั่งเก้าอี้นายกสมาคมสินเชื่อทะเบียนรถ ต่อเนื่องวาระที่ 2 — สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ หรือ VTLA จัดป...

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDL... "เงินติดล้อ" คว้ารางวัล แบรนด์อันดับ 1 ที่ครองใจลูกค้าสินเชื่อทะเบียนรถต่อเนื่องถึง 7 ปี ซ้อน — บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย คุณฐิติเดช...

"กรุงศรี ออโต้" ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต... กรุงศรี ออโต้ ร่วมสร้างอนาคตที่ปลอดภัย สนับสนุนหมวกกันน็อกเด็ก 1,000 ใบ ผนึกรัฐสภา และกรมการขนส่งทางบก — "กรุงศรี ออโต้" ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร...

"กรุงศรี ออโต้" ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต... กรุงศรี ออโต้ ฉลองความสำเร็จ 13 ปีซ้อน คว้า 2 รางวัล จากงาน Thailand's Most Admired Brand 2025 ตอกย้ำแบรนด์ผู้นำตลาดที่ครองใจผู้ใช้รถ — "กรุงศรี ออโต้" ผู...

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เปิด... ธ.เกียรตินาคินภัทร เปิดตัว KKP HOME FLEXI สินเชื่อบ้านทางเลือกใหม่ เปลี่ยนเงินผ่อนบ้าน เป็นวงเงินพร้อมใช้ สูงสุด 2 ล้านบาท — ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด ...