สภาวะตลาดวันที่ 18 ธันวาคม 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,188.98-1,201.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ14 อยู่ที่ 18,810 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,800 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.39 น. ของวันที่ 18/12/14)
แนวโน้มวันที่ 19 ธันวาคม 2557
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับเปลี่ยนคำสัญญาหลังจากการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ในวันที่ 16-17 ธันวาคมที่ผ่านมา เฟดแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐและออกแถลงการณ์ระบุว่า เฟดจะใช้ "ความอดทน" (Patient) ในการตัดสินใจว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ทั้งนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้กล่าวในการแถลงข่าว คำว่า "ความอดทน" ในที่นี้ หมายความว่า FOMC ไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย "ในการประชุมอย่างน้อย 2 ครั้งข้างหน้า" ซึ่งนั่นหมายความว่าเฟดไม่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนเดือนเมษายน 2015 ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญหลายสกุล โดยดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นเข้าใกล้จุดสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปีที่ 89.55 ที่ทำไว้ในวันที่ 8 ธันวาคม เนื่องจากนางเยลเลนส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดจะไม่กังวลกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตราบใดที่สัญญาณทางเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและการคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อในอนาคตในเชิงบวก ทางด้านรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า บริษัทขนาดใหญ่ในย่าน วอลล์สตรีท 13 จาก 19 แห่งคาดว่า เฟดจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน โดยนักลงทุนในตลาดทองคำยังคงจับตาสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นซึ่งส่งผลลบต่อทิศทางราคาทองคำ ทั้งนี้เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา ซึ่งทำให้วายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวได้อีก นอกจากนี้แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,180 หรือ 1,167 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,212 หรือ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,180 (18,350 บาท) 1,167 (18,140บาท) 1,152 (17,910บาท)
แนวต้าน 1,212 (18,850บาท) 1,230 (19,130บาท) 1,245 (19,360บาท)
GOLD FUTURES (GFZ14
แนวรับ 1,180 (18,520 บาท) 1,167 (18,320บาท) 1,152 (18,080บาท)
แนวต้าน 1,212 (19,020บาท) 1,230 (19,300บาท) 1,245 (19,540บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.39 น. ของวันที่ 18/12/14)
แนวโน้มวันที่ 19 ธันวาคม 2557
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับเปลี่ยนคำสัญญาหลังจากการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ในวันที่ 16-17 ธันวาคมที่ผ่านมา เฟดแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐและออกแถลงการณ์ระบุว่า เฟดจะใช้ "ความอดทน" (Patient) ในการตัดสินใจว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ทั้งนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้กล่าวในการแถลงข่าว คำว่า "ความอดทน" ในที่นี้ หมายความว่า FOMC ไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย "ในการประชุมอย่างน้อย 2 ครั้งข้างหน้า" ซึ่งนั่นหมายความว่าเฟดไม่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนเดือนเมษายน 2015 ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญหลายสกุล โดยดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นเข้าใกล้จุดสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปีที่ 89.55 ที่ทำไว้ในวันที่ 8 ธันวาคม เนื่องจากนางเยลเลนส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดจะไม่กังวลกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตราบใดที่สัญญาณทางเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและการคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อในอนาคตในเชิงบวก ทางด้านรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า บริษัทขนาดใหญ่ในย่าน วอลล์สตรีท 13 จาก 19 แห่งคาดว่า เฟดจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน โดยนักลงทุนในตลาดทองคำยังคงจับตาสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นซึ่งส่งผลลบต่อทิศทางราคาทองคำ ทั้งนี้เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา ซึ่งทำให้วายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวได้อีก นอกจากนี้แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,180 หรือ 1,167 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,212 หรือ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,180 (18,350 บาท) 1,167 (18,140บาท) 1,152 (17,910บาท)
แนวต้าน 1,212 (18,850บาท) 1,230 (19,130บาท) 1,245 (19,360บาท)
GOLD FUTURES (GFZ14
แนวรับ 1,180 (18,520 บาท) 1,167 (18,320บาท) 1,152 (18,080บาท)
แนวต้าน 1,212 (19,020บาท) 1,230 (19,300บาท) 1,245 (19,540บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148