สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 24 สิงหาคม 2561

           สภาวะตลาดวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,182.90-1,191.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,550 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 18,540 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,510 บาท
          (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.51 น. ของวันที่ 24/08/61)

          แนวโน้มวันที่ 27 สิงหาคม 2561
          นายโรเบิร์ต แคปแลน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 หรือ 4 ครั้งในช่วง 9 – 12 เดือนข้างหน้าเพื่อป้องกันภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป ในขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำที่ 3.9% และคาดการณ์ถึงการเติบโตอันแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจที่ 3% ในปีนี้ ด้านนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ได้แสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกัน เจ้าหน้าที่ผู้กำหนดนโยบายของเฟด เห็นพ้องกันถึงความจำเป็นในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในช่วงเริ่มต้นการประชุมของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง แม้ว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ของสหรัฐไม่พอใจในแผนการปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวก็ตาม ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นจนราคาทองคำอ่อนตัวลง นอกจากนี้ทองคำถูกกดดันจากการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่สิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาโดยปราศจากการบรรลุข้อตกลงสำคัญ นอกจากนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนเพิ่ม เมื่อรัฐบาลอังกฤษได้เปิดเผยรายงาน Brexit with no deal ชุดแรก เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนรับทราบเกี่ยวกับวิธีการวางแผนรับมือกับการถอนตัวจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อตกลง ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลง Brexit ยังกดดันค่าเงินปอนด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลลบต่อราคาทองคำเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ของผลกระทบทางการเมืองสหรัฐจากปัญหาทางกฎหมายของ 2 อดีตที่ปรึกษาของปธน.ทรัมป์ ยังคงเป็นปัจจัยพยุงราคาทองคำไว้ แม้ว่านางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า การที่นายไมเคิล โคเฮน อดีตทนายความของปธน.ทรัมป์ให้การยอมรับสารภาพผิดในคดีอาญาทั้ง 8 คดี ไม่ได้เป็นการบ่งชี้ว่าปธน.ทรัมป์มีความผิดในคดีแต่อย่างใด วายแอลจียังคงแนะนำให้เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway โดยคาดว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,200- 1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้จะเห็นการอ่อนตัวของราคาลง ประเมินแนวรับที่ 1,182-1,171 ดอลลาร์ต่อออนซ์