โตชิบาตอกย้ำความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          - ลงทุนมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีก 5 ปีข้างหน้า หวังเพิ่มยอดขายเป็น 2 เท่า ในอาเซียน
          - โตชิบามุ่งมั่นสนับสนุนการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ และโซลูชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับอาคารในประเทศไทย

          โตชิบา คอร์ปอเรชั่น บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำจากญี่ปุ่นจัดงานพบปะสื่อมวลชน ที่กรุงเทพฯ วันนี้ โดยมี มร. ฟูมิโอะ โอตานิ ผู้แทนองค์กรประจำภูมิภาคเอเชีย ตอกย้ำความสำคัญ ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจของกลุ่มโตชิบาในอาเซียน

มร. โอตานิ กรรมการผู้จัดการ โตชิบา เอเชีย แปซิฟิค พีทีอี แอลทีดี ซึ่งประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และ ดำรงตำแหน่งรองประธานและผู้แทนองค์กรประจำภูมิภาคเอเชีย โตชิบา คอร์ปอเรชั่น กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “โตชิบาวางแผนจะลงทุนมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในระยะเวลาอีก 5 ปีข้างหน้านี้ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดขายเป็น 2 เท่าในภูมิภาคนี้ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน”
          มร. โอตานิ กล่าวย้ำถึงความสัมพันธ์อันยาวนานของโตชิบาในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตแห่งแรกของโตชิบานอกประเทศญี่ปุ่นโดย บริษัท ไทยโตชิบาอุตสาหกรรม จำกัด เริ่มเปิดดำเนินการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2512 และยังคงดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี
          ในช่วงหลายปีที่ผานมา โตชิบาในประเทศไทยมีส่วนช่วยพัฒนา และ เติบโตควบคู่ไปกับเศรษฐกิจของประเทศไทย จวบจนวันนี้ บริษัทฯ ยังคงมองเห็นโอกาสอีกมากมาย โดยเฉพาะความต้องการในด้านพลังงาน เนื่องจากประเทศไทยกำลังมองหาแนวทางในการลดค่าใช้จ่าย ในการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ และลดการพึ่งพาการใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า ทั้งนี้ โตชิบาได้กำหนด ทิศทางในการพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชั่นต่างๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแสดล้อม เพื่อการผลิตพลังงานไฟฟ้า รวมถึงพลังงานหมุนเวียนที่สามารถนำกลับมาได้อีก อาทิ การผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยโซลาร์เซลล์ โรงไฟฟ้าพลังความร้อน และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังต้องการการพัฒนาระบบขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ และการวางแผนพัฒนาเมืองหลวง เพื่อรองรับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของชุมชนเมืองที่ขยายตัวมากขึ้น ซึ่งโตชิบามีโซลูชั่นที่หลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้
          มร. ฮิโรยูกิ ซาวาดะ ประธาน บริษัท โตชิบา เอเชีย แปซิฟิค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นและการสนับสนุนของโตชิบาในประเทศไทย เพื่อการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2556 และในปีนี้ บริษัทฯ ได้ผนวกธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาในแผนโครงสร้างธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา
          นอกจากนี้ โตชิบา ยังมีโซลูชั่นต่างๆ ที่ช่วยสนับสนุนแนวทางการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพภายในอาคารที่ต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ลิฟต์โดยสาร และระบบแสงไฟภายในอาคาร ทั้งนี้ บริษัท โตชิบา แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดโรงงานแห่งที่สอง ณ สวนอุตสาหกรรมบางกะดี เมื่อปี พ.ศ. 2556 เพื่อผลิตอุปกรณ์เครื่องปรับอากาศภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ขนาดกลาง ซึ่งเป็นฐานการส่งออกเครื่องปรับอากาศโตชิบาไปยังทั่วโลก
          และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้ บริษัท สยาม เอลเลเวเตอร์ แอนด์ เอสเคเลเทอร์ จำกัด ได้ควบรวมกิจการโดยกลุ่มโตชิบา เพื่อดูแลด้านการขายและการบำรุงรักษาลิฟต์โดยสารและบันไดเลื่อนสำหรับลูกค้าโตชิบาในประเทศไทย
          นอกเหนือจากธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคแล้ว โตชิบาตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจด้านการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งเป็นหนึ่งในสามธุรกิจหลักของกลุ่มโตชิบาให้เติบโตยิ่งขึ้น บริษัท โตชิบา เซมิคอนดัคเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นโรงงานผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนเซมิคอนดัคเตอร์เพียงแห่งเดียวนอกประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าโรงงานเดิมได้ประสบอุทกภัยในปี พ.ศ. 2554 โตชิบาตัดสินใจไม่ย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศไทย บริษัทได้ย้ายไปสร้างโรงงานแห่งใหม่ในพื้นที่บริเวณกว้างขวางกว่าโรงงานเดิม 1.4 เท่า
          ในตอนท้าย มร. โอตานิ ได้กล่าวย้ำถึงวิสัยทัศน์ของโตชิบาในการดำเนินธุรกิจบนรากฐาน “ความเจริญเติบโตด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม” และสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จเพื่อให้มีโลกที่คนในทุกหนแห่งสามารถอยู่ในสังคมที่ปลอดภัย มีความมั่นคง และมีความสะดวกสบาย” โตชิบายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงในด้านพลังงาน ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพ และโซลูชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับอาคารในประเทศไทย


ข่าวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม+โตชิบา คอร์ปอเรชั่นวันนี้

บีคอน วีซี ร่วมกับกรมลดโลกร้อนและ GGGI เปิดตัวคู่มือสำหรับสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีสภาพภูมิอากาศ ฉบับแรกของไทย

บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (บีคอน วีซี) บริษัทเงินร่วมทุนของธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (กรมลดโลกร้อน) และสถาบันเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโลก (Global Green Growth Institute หรือ GGGI) เปิดตัวคู่มือสำหรับสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเพื่อสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย (Thailand Climate Tech Startup Guide) ฉบับแรกของประเทศ ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมทุกประเด็นสำคัญ ตั้งแต่แหล่งเงินทุน นวัตกรรม การกำกับดูแลด้านนโยบาย กฎหมาย รวมทั้งข้อเสนอแนะด้านการนำ Climate Tech

ในยุคที่ค่าไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง... รวมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป การติดโซลาร์เซลล์บ้าน — ในยุคที่ค่าไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายครัวเรือนเริ่มมองหาทางเลือกในการประหยัดค่า...

ในยุคที่ปัญหาขยะพลาสติกกลายเป็นวิกฤตระดับ... 5 เหตุผลที่คุณต้องเปลี่ยนมาใช้ฟิล์มถนอมอาหารย่อยสลายได้ — ในยุคที่ปัญหาขยะพลาสติกกลายเป็นวิกฤตระดับโลก หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเลือกใช้ผลิตภัณฑ...