ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตธนาคารรัฐ 6 แห่งในประเทศไทย

02 Dec 2014
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตธนาคารรัฐ 6 แห่งได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (BAAC) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (GH BANK) ธนาคารออมสิน (GSB) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IBANK) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK) ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ได้ประกาศยกเลิกอันดับเครดิตสนับสนุนของ BAAC, GH BANK และ GSB เนื่องจากอันดับเครดิตดังกล่าวมิได้มีนัยสำคัญเพียงพอในการติดตามทำการวิเคราะห์อีกต่อไป

สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตทั้งหมดสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ธนาคารรัฐดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย

ธนาคารรัฐทั้ง 6 แห่งนี้มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลในระดับสูงและทั้งหมดถูกจัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติเฉพาะกิจเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ให้ความช่วยเหลือแก่ธนาคารรัฐเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่นการชดเชยทางการเงินจากความเสียหายที่เกิดจากการดำเนินงานที่สนับสนุนนโยบายของภาครัฐ หรือการเพิ่มเงินทุนให้กับธนาคารในกรณีที่มีความจำเป็น

กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดใน EXIM GSB และ GH BANK และถือหุ้นเกือบทั้งหมดใน BAAC และ SME BANK สำหรับ IBANK สัดส่วนการถือหุ้นโดยทางตรงของกระทรวงการคลังในธนาคาร ถูกจำกัดที่ 49% แต่การถือหุ้นใน IBANK โดยธนาคารรัฐอื่น ส่งผลให้รัฐบาลมีสัดส่วนการถือครองหุ้นใน IBANK เกิน 98%

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term IDR) ของ EXIM และ SME BANK อยู่ในระดับเดียวกันกับรัฐบาลไทย อันดับเครดิตภายในประเทศของ BAAC EXIM GH BANK และ SME Bank เป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุด

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ IBANK อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตของรัฐบาล 2 อันดับ สะท้อนถึงระดับการถือหุ้นทางตรงของกระทรวงการคลังในระดับที่ต่ำกว่าธนาคารรัฐอื่น และการระบุถึงการสนับสนุนที่รัฐบาลจะให้กับธนาคารในพระราชบัญญัติจัดตั้งธนาคารที่มีความชัดเจนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารรัฐอื่น

แม้ว่าฟิทช์คาดว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารรัฐเหล่านี้ได้อย่างทันท่วงทีในกรณีที่มีความจำเป็น อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของ BAAC EXIM GH BANK และ GSB ที่ผ่านมาไม่ได้อยู่ในระดับที่มีความจำเป็นที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล อย่างไรก็ตาม SME BANK และ IBANK ได้เผชิญกับผลประกอบการที่ตกต่ำและปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้ แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าผลประกอบการที่อ่อนแอลงของธนาคารทั้งสองแห่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคาร ทั้งนี้รัฐบาลได้มีการเตรียมแผนการเพิ่มทุนให้กับธนาคารทั้งสองแห่งไว้แล้ว

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต -อันดับเครดิตสากลและอันดับเครดิตภายในประเทศ

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (ของ EXIM IBANK และ SME BANK) จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของประเทศไทย แต่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารรัฐเหล่านี้ไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย เนื่องจากรัฐบาลไทยน่าจะยังคงมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ (default risk) ที่ต่ำที่สุดในประเทศ

การปรับตัวลดลงของโอกาสที่ธนาคารแต่ละแห่งจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอาจส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตสากลและอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารนั้น อาทิเช่น การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของสัดส่วนการถือหุ้นของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมาย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจบ่งชี้ถึงการให้ความสนับสนุนของรัฐบาลที่ลดลงและจะส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้นถึงระยะปานกลางรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมด มีดังนี้BAAC - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F1+(tha)’- อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ ‘2’ และยกเลิกอันดับเครดิตEXIM:- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘BBB+’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F2’ - อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ ‘2’- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ ‘BBB+’ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F1+(tha)’GH Bank- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F1+(tha)’- อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ ‘2’ และยกเลิกอันดับเครดิตGSB - อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ ‘2’ และยกเลิกอันดับเครดิตIBANK- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘BBB-’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F3’- อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ ‘2’- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ ‘BBB-’- อันดับเครดิตในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘AA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ- อันดับเครดิตในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F1+(tha)’SME Bank - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘BBB+’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F2’ - อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ ‘2’- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ ‘BBB+’ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F1+(tha)’