ดีลอยท์แนะไทยใช้จุดแข็งต่อยอดเศรษฐกิจดึงดูดเม็ดเงินลงทุน หวังก้าวสู่ผู้นำบนเวทีอาเซียน - ยกระดับสู่ประเทศที่มีรายได้สูง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          “ดีลอยท์” มองเศรษฐกิจโลกปีหน้าโตต่อเนื่อง 4.0% ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามใกล้ชิด“อาเซียน” แนวโน้มเติบโตดีตามเศรษฐกิจโลก-รับเปิดเออีซี แนะไทยใช้จุดแข็งต่อยอดใน 4 ด้านสำคัญ ศูนย์กลางธุรกิจ-เพิ่มความสะดวกในการทำธุรกิจ-ลงทุนสู่ศูนย์กลางขนส่งอาเซียน-เป็นฐานลงทุนสู่ประเทศอื่น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของประเทศดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติ หวังดันไทยขยับสู่ประเทศเศรษฐกิจที่มีรายได้สูงก้าวเป็นผู้นำในเวทีอาเซียน
          นายสุภศักดิ์ กฤษณามระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีลอยท์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปี 2558 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกมีโอกาสเติบโต 4.0% จากในปี 2557 ที่คาดว่าจะโตประมาณ 3.0% โดยเศรษฐกิจหลักของโลกยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงการ ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแต่ก็เป็นการเติบโตท่ามกลางความเสี่ยงที่ยังต้องเฝ้าจับตาดูใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ เช่น รัสเซียกับยุโรป หรือจีนกับสหรัฐ เป็นต้น ภาวะโลกร้อนที่จะส่งผลต่อผลผลิตการเกษตรและการใช้พลังงานโลก ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจซ้ำซ้อนของประเทศในสภาพยุโรป เนื่องจากภาวะหนี้สินภาคเอกชนและรัฐบาลที่อยู่ในระดับสูง และอัตราการว่างงานที่สูงในหลายประเทศ
          อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของอาเซียนยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยในปีหน้าโดยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 5.6% จากปี 2557 ที่ 4.8% โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่อยู่ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วย ไทย กัมพูชา เมียนม่าร์ ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ จะลงทุนเพื่อพัฒนาโครงข่ายการขนส่งระหว่างประเทศและลดต้นทุนด้านการขนส่งลง เพื่อเข้าสู่การจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในช่วงปลายปี 2558 นี้
          “จากการสำรวจของ World Economic Forum 2557-2558 ขีดความสามารถในการแข่งขันของ 144 ประเทศนั้น ไทยอยู่อันดับที่ 31 และหากเทียบกับกลุ่ม ASEAN-5 แล้ว ไทยอยู่ตรงกลางโดยตามหลังสิงคโปร์(อันดับ 2) และมาเลเซีย (อันดับ 20)
แต่นำหน้าอินโดนีเซีย (อันดับ 34) และฟิลิปปินส์ (อันดับ 52) ซึ่งหากไทยไม่ปรับปรุงและต่อยอดเพื่อให้ไทยหลุดออกจากกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง อาจจะถูกอินโดนีเซียที่กำลังเร่งพัฒนาแซงหน้าขึ้นไปในอนาคตอันใกล้ได้เช่นกัน”
          นายสุภศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า การที่ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่ดีจะดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติ ทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตต่อเนื่องและยกระดับความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้นโดยไทยสามารถดึงเอาศักยภาพของทรัพยากรมาใช้ประโยชน์และต่อยอดได้ใน 4ด้านที่สำคัญ ได้แก่ 1) การเป็นศูนย์กลางของหลายธุรกิจ เช่น ยานยนต์ การท่องเที่ยว การบิน นอกจากการที่ AEC ร่วมมือกับประเทศเศรษฐกิจชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อเนื่องไปในอนาคต ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ (AEC+6) จะช่วยทำให้การค้าและการลงทุนขยายตัวอย่างต่อเนื่องอีกมาก 2) การเพิ่มความสะดวกสบายในการลงทุนทำธุรกิจ ปัจจุบันไทยถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 18 จากทั้งหมด 189 ประเทศที่ World Bank Group ได้ทำการสำรวจ หากเปรียบเทียบกับกลุ่ม ASEAN แล้ว
อันดับของไทยตามหลังเพียงสิงคโปร์ (อันดับ 1) และมาเลเซีย (อันดับ 6) โดยด้านที่ควรปรับปรุงจากการ สำรวจ ได้แก่ การแก้ไขปัญหากรณีล้มละลาย การเสียภาษี การขอสินเชื่อ และการจดทะเบียนตั้งกิจการ 3) การลงทุนในระบบขนส่งเพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมและขนส่งในภูมิภาคอาเซียน และเป็นศูนย์กลาง ของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพราะที่ตั้งของไทยมีความได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์อยู่แล้ว ทั้งการขนส่งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเกื้อหนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว และ 4) การใช้ไทยเป็นฐานเพื่อการลงทุนขยายธุรกิจไปยังกลุ่ม CLMV ซึ่งประกอบด้วยกัมพูชา ลาว เมียนม่าร์ และเวียดนาม
          “บริษัทข้ามชาติหลายแห่งที่ใช้บริการของดีลอยท์ได้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานเพื่อต่อยอดธุรกิจไปยังกลุ่มCLMV ที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ให้ผลประโยชน์ทั้งในด้านภาษีและด้านอื่นๆ อาทิ มาตรการสนับสนุนการจัดตั้งสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค (Regional Operating Headquarter : ROH) เป็นต้น”
          นายสุภศักดิ์ กล่าวเสริมว่า นอกจากด้านของโอกาสแล้วในด้านของอุปสรรคที่จะมากระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยก็มีเช่นกัน
ที่สำคัญได้แก่ การกีดกันทางการค้า (Trade Barriers) แม้ว่าสมาชิกอาเซียนจะทยอยปรับลดภาษีศุลกากรจนเหลือ 0-5% ตามแผนการรวมตัวเป็น AEC ก็ตามแต่สมาชิกทุกประเทศยังคงใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers- NTBs) กับสินค้าที่ส่งออกมาจากประเทศสมาชิกเพื่อปกป้องผู้ประกอบการภายในประเทศของตัวเอง ไม่เพียงเท่านี้ยังมีการแข่งขันจากต่างประเทศที่รุนแรงมากขึ้น เช่น เกาหลีใต้ จีน และอินเดีย เป็นต้น ทั้งในอุตสาหกรรมการผลิตและบริการจนบางอุตสาหกรรม เช่น สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อาหาร ผู้ประกอบการไทยต้องย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ต้นทุนถูกกว่าหรือมีตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ดึงดูดใจให้ลงทุน
          “อีกอุปสรรคที่สำคัญ คือระดับความแตกต่างของปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิก AEC อาทิ อัตราการรู้หนังสือ รายได้ต่อหัวประชากร อัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของประชากร และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นอุปสรรคสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความสำเร็จในการรวมกลุ่ม AEC”
 
 
 

ข่าวสุภศักดิ์ กฤษณามระ+เศรษฐกิจโลกวันนี้

ฉลองครบรอบ 80 ปี ดีลอยท์ ประเทศไทย

ดีลอยท์ ประเทศไทยได้รับเกียรติจาก นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา (กลาง) ผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวคำอวยพรในงานฉลองครบรอบ 80 ปี โดยมี ศ.เติมศักดิ์ กฤษณามระ (ที่ 3 จากซ้าย) มร. ดะนีโล อัลคันธารา (ซ้ายสุด) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีลอยท์ เซาท์อีสต์ เอเชีย ศ.ดร.สมฤกษ์ กฤษณามระ (ที่ 3 จากขวา) ประธาน ดีลอยท์ ประเทศไทย นายสุภศักดิ์ กฤษณามระ (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ นายศมกฤต กฤษณามระ (ที่ 2 จากขวา) พาร์ทเนอร์ และนายชวาลา เทียนประเสริฐกิจ (ขวาสุด) พาร์ท

ดีลอยท์ (ประเทศไทย) เผยผลการสำรวจ "ดัชนีค... ดีลอยท์เผย ประเทศไทยมีอันดับความก้าวหน้าทางสังคมอยู่ในอันดับที่ 62 ของโลก คะแนนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะด้านความปลอดภัยส่วนบุคคล — ดีลอยท์ (ประเทศไทย)...

ญี่ปุ่นชี้การเมืองไม่สงบฉุดบรรยากาศการลงทุน

2 กลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่รับ หนี้เสีย ทุจริต และค่าแรงงานสูงยังเป็นจุดอ่อน เผยเตรียมพร้อมรับ AEC โดยยังมองไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการขยายธุรกิจ นายสุภศักดิ์ กฤษณามระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด (ดีลอยท์ ประเทศไทย) กล่าวว่า จากการ...

“ดีลอยท์” วางยุทธศาสตร์รุก AEC เพิ่มไลน์บริการลูกค้าเบ็ดเสร็จ พร้อมมองหาโอกาสขยายสู่เขมร-ลาว

ดีลอยท์ (ประเทศไทย) โชว์รายได้ปี 56 โตต่อเนื่อง 10%พร้อมเพิ่มไลน์ธุรกิจให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร วางเป้าแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างประเทศ มุ่งเติมความเป็นมืออาชีพแก่พนักงาน ตอกย้ำความเชื่อมั่นให้ลูกค้า และมองหา...

ภาพข่าว: ดีลอยท์แบ่งปันองค์ความรู้ มอบหนังสือแนวทางการสร้างแบรนด์ระดับโลก

นายสุภศักดิ์ กฤษณามระ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด มอบหนังสือ Designing B2B Brands ให้กับนายปารเมศร์ รัชไชยบุญ (ขวา) ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจ...

ดีลอยท์ เปิดเวทีหาดาวเด่น ชวนนักศึกษาไทยแข่งขัน ISBF 2013 โชว์ทักษะทางธุรกิจระดับโลก

ดีลอยท์เตรียมจัดการแข่งขันด้านทักษะทางธุรกิจระดับโลก International Student Business Forum (ISBF) ครั้งแรกในประเทศไทย เปิดโอกาสทองสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีของไทยในสาขาบริหารธุรกิจ หรือในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ...

ภาพข่าว: ดีลอยท์ส่งมอบลานกีฬาเอนกประสงค์ให้โรงเรียนศรีเนรูห์

นายสุภศักดิ์ กฤษณามระ (ที่ 5 แถวกลาง) กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับ สูง บริษัท ดีลอยท์ประเทศไทย ที่ปรึกษาด้านตรวจสอบบัญชี กฎหมายและภาษีอากร ธุรกิจ ความเสี่ยง และที่ปรึกษาด้านการเงิน ร่วมกันส่งมอบลานกีฬาเอนกประสงค์...

ภาพข่าว: ดีลอยท์ จัดสัมมนาด้านความโปร่งใสครั้งที่ 2

นายสุภศักดิ์ กฤษณามระ (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นายทวี ทวีแสงสกุลชัย (ซ้ายสุด) พาร์ทเนอร์ บริการที่ปรึกษาด้านการเงิน บริษัท ดีลอยท์ ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดงานสัมมนาด้านความโปร่งใสครั้งที่ 2 ในหัวข้อ Procurement Integrity Managing...

ภาพข่าว: ดีลอยท์ จัดสัมมนารณรงค์สร้างจิตสำนึกด้านความโปร่งใสในการทำบัญชี

นายสุภศักดิ์ กฤษณามระ (กลาง) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด จัดสัมมนาหัวข้อ Forensic accounting and Whistleblowing (การตรวจสอบการทุจริตทางบัญชี) เพื่อสร้างจิตสำนึกและเชิญชวนให้องค์กรชั้นนำ...