สมาพันธ์ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดแห่งโลก รณรงค์เรียกร้องให้เพิ่มความสำคัญและมาตราการในการจัดการภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด และเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับไวรัสอีโบลา เนื่องในวันภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดโลก 13 กันยายนนี้

16 Sep 2014
ร่วมกันป้องกันการติดเชื้อและต่อสู้กับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย 800,000 รายต่อปี

ขณะนี้ไวรัสอีโบลากำลังแพร่ระบาดรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทางสมาพันธ์ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดแห่งโลก (Global Sepsis Alliance, GSA) ได้สนับสนุนจุดยืนของมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เรียกร้องให้ประชาคมโลกเร่งให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้โดยด่วน ทั้งนี้ เชื้อไวรัสอีโบลาเป็นหนึ่งในเชื้อโรคหลายร้อยชนิดที่ก่อให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดจนเป็นอันตรายถึงชีวิต

ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดหรือที่มักเรียกกันว่า “โลหิตเป็นพิษ” เป็นภาวะที่พบได้บ่อยจากการติดเชื้อแบบเฉียบพลันแล้วการติดเชื้อมีความรุนแรงมากขึ้น จนเข้าสู่กระแสเลือดทำให้เกิดการตอบสนองที่ผิดปกติของร่างกายต่อการติดเชื้อ นำไปสู่การทำงานที่ล้มเหลวของระบบไหลเวียนโลหิตและอวัยวะต่างๆ ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โรคติดเชื้อเป็นสาเหตุอันดับ 2 ของการเสียชีวิตของผู้ป่วยทั่วโลก โดยพบว่าภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบมากถึง 60% และยังเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้มารดาเสียชีวิต ปัจจุบันภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดกำลังเป็นภัยคุกคามมากขึ้นทั่วโลก โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกาได้รายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในกระแสเลือดในสหรัฐเพิ่มขึ้นจาก 621,000 รายในปี 2543 เป็น 1,141,000 รายในปี 2551 (http://www.cdc.gov/sepsis/basic/qa.html)

ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบไหลเวียนโลหิตและอวัยวะต่างๆล้มเหลว อย่างไรก็ตามเราสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดได้อย่างน้อย 10-15% ด้วยการฉีดวัคซีน การรักษาสุขอนามัย การตรวจพบและให้การรักษาอย่างทันท่วงทีตั้งแต่ระยะเริ่มต้น นอกจากนี้ โรงพยาบาลและสถาบันสุขภาพต่างๆจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันการติดเชื้อในสถานพยาบาล แม้ว่าเกือบ 50% ของการติดเชื้อในกระแสเลือดจะเกิดขึ้นภายนอกโรงพยาบาลก็ตาม ขณะเดียวกันแผนกฉุกเฉิน คลินิกให้บริการต่างๆ และศูนย์การแพทย์ที่ให้การบริการฉุกเฉิน ก็ควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นในการสังเกตอาการ การวินิจฉัย และการรักษาภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด โดยอาการของผู้ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อในกระแสเลือดประกอบด้วย ไข้ หนาวสั่น ความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง หายใจถี่ ความดันโลหิตลดลง และหัวใจเต้นเร็วขึ้น

สมาพันธ์ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดแห่งโลก (GSA) ได้เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกประเมินศักยภาพของระบบสุขภาพในประเทศ เพื่อวางกลยุทธ์และดำเนินมาตราการในการรับมือกับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเพื่อลดผลกระทบจากโรคร้ายนี้ ได้แก่ การจัดทำแผนงานระดับชาติ และสนับสนุนเงินทุนสำหรับการรณรงค์ถึงอันตรายของภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ตลอดจนสนับสนุนการทำวิจัยในระดับเดียวกับการวิจัยโรคเอดส์ ซึ่งที่ผ่านมาทำให้โลกต่อสู้กับโรคเอดส์ได้อย่างประสบความสำเร็จมาแล้ว

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.world-sepsis-day.org

ติดต่อ (International Contact)

ศ.นพ.คอนราด ไรน์ฮาร์ท

อีเมล: [email protected]

โทร. +49-3641-9323101

ติดต่อ (ประเทศไทย)

รศ.นพ.ไชยรัตน์ เพิ่มพิกุล

นพ.รัฐภูมิ ชามพูนท

สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย

(THE THAI SOCIETY OF CRITICAL CARE MEDICINE)

แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี ชั้น 5

ซอยศูนย์วิจัย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปี เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

โทรศัพท์: 02 718 2255 มือถือ: 083 713 4043 แฟกซ์: 02 718 2255

อีเมล: [email protected] [email protected]

แหล่งข่าว: World Sepsis Day Head Office

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit