นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้ใช้โอกาสในการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซม (Asia-Europe Finance Ministers’ Meeting: ASEM FinMM) ครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 ณ นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ชี้แจงถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและนโยบายของรัฐบาลไทยแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจากประเทศสมาชิกอาเซม ทั้งจากฝ่ายยุโรปและเอเชีย รวม 49 ประเทศ ให้เชื่อมั่นในแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ 3 ระยะของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีเป้าหมายในการวางรากฐานทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่แข็งแกร่งและสร้างความปรองดองในชาติ และจะจัดให้มีการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมในปี 2558
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อธิบายถึงสถานการณ์ในประเทศไทยว่า หลังจาก คสช. ได้เข้ามาบริหารประเทศ สถานการณ์ในประเทศได้มีความสงบสุขและมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่น ของนักลงทุนและผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในปัจจุบัน ได้มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2557 ซึ่งถือเป็นการดำเนินการในระยะที่ 2 ของยุทธศาสตร์การบริหารประเทศดังกล่าว โดยได้มีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเตรียมจัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติและคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะดำเนินการปฏิรูปประเทศควบคู่ไปกับการสร้างความปรองดองในระยะยาว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำถึงนโยบายของประเทศที่ยึดมั่นในระบบเศรษฐกิจที่เปิดกว้างและเสรี และมุ่งเน้นการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนอย่างมั่นคงในระยะยาว
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ใช้โอกาสที่เข้าร่วมการประชุมนี้ ซึ่งมีการพิจารณาความร่วมมือระหว่างยุโรปและเอเชียในการเสริมสร้างการเจริญเติบโต ชักจูงให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศสมาชิกอาเซม ตลอดจนสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศให้พิจารณาร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยและของภูมิภาคเอเชีย เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงทางการค้าและการลงทุน และพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในภูมิภาค โดยได้ย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน (Public-Private Partnerships: PPPs) ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการคลังและเสริมสร้างประสิทธิภาพให้มากขึ้น
ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 31 ธันวาคม 2568 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขานรับนโยบายนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) ให้กลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามปกติ เพื่อรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวด นานสูงสุด 1 ปี ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์
Easy Money ร่วมงานมหกรรมการเงิน Money Expo 2025 Bangkok พร้อมสินค้าหลุดจำนำคุณภาพ และกิจกรรมสุดพิเศษ
—
Easy Money ร่วมงานมหกรรมการเงิน Money Expo 2025 Ban...
สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมเปิดงาน MONEY EXPO 2025 BANGKOK
—
ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25...
"รมว.คลัง" เยี่ยมชมบูธกรุงไทย "ALIVE อิสระทางการเงินที่ยั่งยืน" ในงาน Money Expo 2025
—
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ...
SME D Bank เปิดกระหึ่มในงาน 'MONEY EXPO 2025' ยกทัพสินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอีไทย ดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3%ต่อปี
—
นายพิชิต มิทราวงศ์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางแล...
ธนาคารกรุงไทย ร่วมฉลองครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง เคียงข้างไทยในทุกก้าวสำคัญ
—
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียร...
อสังหาฯ คึกคัก! มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 เปิดฉาก ย้ำบทบาทฟันเฟืองเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางมาตรการรัฐปลุกกำลังซื้อต้นปี 2568
—
มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่...
ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิจ ปี 2567 "ระดับดีเด่น" มากสุดเป็นประวัติการณ์
—
ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิจ ปี 2567 "ระดับดีเด่น"...
19 ปีแห่งความภูมิใจ ปตท. คว้า 6 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น มุ่งดำเนินธุรกิจยั่งยืนอย่างสมดุล
—
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค...
บางกอกทูเดย์จัดเสวนา "2568 สัญญาณอันตรายรัฐบาล ในสายตากูรูการเมือง"
—
นายภูวนารถ ณ สงขลา บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ เป็นประธานจัดงานฉลองครบรอบ...