บริษัทไมด้า ลิสซิ่ง ก่อตั้งในปี 2543 ด้วยทุนจดทะเบียน 90 ล้านบาท โดยในช่วงเริ่มแรก บริษัทเน้นให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้วเป็นหลัก ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วอยู่ที่ 440 ล้านบาท โดยมีบริษัทไมด้า แอสเซ็ท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เป็นผู้ถือหุ้นหลักในสัดส่วน 60% ตลาดหลักของบริษัทคือสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้วที่ผ่านการใช้งานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป โดยมูลค่าสินเชื่อคงค้างของบริษัทค่อนข้างทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 2,500 ล้านบาทมาตั้งแต่ปี 2548 ทั้งนี้ บริษัทมีสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ระดับ 2,465 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557
ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 สินเชื่อคงค้างของบริษัทประกอบด้วยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 99% และสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการเต็นท์รถยนต์มือสอง (หรือสินเชื่อ Floor Plan) อีก 1% อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (สินเชื่อค้างชำระเกิน 90 วัน) ต่อสินเชื่อรวมของบริษัทแกว่งตัวขึ้นลงจาก 3% ในปี 2553 ขึ้นไปเป็น 3.8% ในปี 2554 แล้วลดลงเหลือ 2.3% ในปี 2555 และเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.7% ในปี 2556 จากผลของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปี 2556 ทำให้คุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อของบริษัทลดต่ำลงเมื่อเทียบกับปี 2555 อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2557 โดยเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 4.3% ณ สิ้นเดือนมีนาคม และ 4.6% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ปัจจุบันบริษัทเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นกับการติดตามหนี้สินรวมถึงการปรับนโยบายการให้สินเชื่อและเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อให้มีความเข้มงวดมากขึ้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพสินเชื่อ โดยทริสเรทติ้งจะคอยติดตามผลจากความพยายามดังกล่าวต่อไป
ในปี 2554 และปี 2555 รัฐบาลออกมาตรการคืนภาษีแก่ผู้ซื้อรถยนต์คันแรกซึ่งกลายเป็นปัจจัยกดดันผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการให้เช่าซื้อรถยนต์ซึ่งรวมถึงบริษัทด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวส่งผลทำให้ราคารถยนต์มือสองในตลาดตกต่ำเป็นอย่างมากเพราะผู้บริโภคหันไปซื้อรถยนต์คันแรกแทนเพื่อใช้สิทธิในการขอคืนภาษี
ในปี 2556 ผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัทลดต่ำลง โดยบริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 112 ล้านบาท ลดลง 16% จาก 134 ล้านบาทในปี 2555 การลดลงของกำไรสุทธิส่วนหนึ่งเกิดจากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นถึง 20% โดยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 219 ล้านบาทในปี 2556 จาก 183 ล้านบาทในปี 2555 อีกทั้งบริษัทยังมีผลขาดทุนจากการขายรถยึดที่เพิ่มสูงขึ้นจากการที่ราคารถมือสองตกต่ำลงด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังได้ตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญถึง 37 ล้านบาทในปี 2556 ซึ่งสูงมากกว่ามูลค่าการตั้งสำรองฯ ในปี 2555 ที่ระดับ 14 ล้านบาท ถึง 2 เท่า ในปี 2556 อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ต่อเงินให้สินเชื่อเช่าซื้อรวมเพิ่มเป็น 2.6% จาก 2.1% ในปี 2555 ในขณะที่อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยลดลงเหลือ 4.2% ในปี 2556 จาก 5% ในปี 2555 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องจากการที่กำไรสุทธิลดลงเหลือ 50 ล้านบาทจาก 65 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2556 และอัตราส่วน ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ก็ลดลงเช่นกัน โดยอยู่ที่ระดับ 3.7% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีแล้ว)
นับตั้งแต่ปี 2553 ฐานทุนของบริษัทค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยอัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 53.3% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 จาก 38.6% ในปี 2553 ซึ่งเป็นผลมาจากการทำกำไรอย่างต่อเนื่องของบริษัทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จึงถือได้ว่าบริษัทมีฐานทุนที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่อาจจะไม่เพียงพอต่อการขยายสินเชื่อในอนาคตหากบริษัทไม่ใช้เงินกู้เพิ่มเติม ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2555 บริษัทได้เข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฟื้นฟูสถานะทางการเงินที่ดำเนินการโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติอุทกภัยในช่วงปลายปี 2554 ผลจากการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวทำให้บริษัทได้ประโยชน์จากการขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไปเป็นสิ้นเดือนเมษายน 2561 จากเดิมที่จะสิ้นสุด ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558
การขยายฐานสินเชื่ออย่างมีนัยสำคัญจะเป็นความท้าทายที่สำคัญของบริษัท โดยในขณะนี้บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับคู่แข่ง อีกทั้งยังไม่มีแหล่งเงินทุนที่แน่นอนเหมือนคู่แข่งรายอื่น อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งยังหวังว่าบริษัทจะสามารถดำรงฐานทุนที่ค่อนข้างแข็งแกร่งเอาไว้ได้ ซึ่งฐานทุนที่แข็งแกร่งจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงจากกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการชำระหนี้ที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงในเชิงลบของสภาวะเศรษฐกิจที่สูงเช่นกัน
บริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (ML)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
โฮมโปร-เมกาโฮม จับมือ กฟผ. ส่ง "ของขวัญเบอร์ 5 แทนคำขอบคุณที่รัก(ษ์)กัน" มอบดีลพิเศษเป็นส่วนลดเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ชวนคนไทยช้อปของขวัญรักษ์โลกตลอดปีใหม่นี้
เคอีเอ็กซ์ เปิดตัว "KEX Bulky" เดินเกมปักหมุดมาตรฐานใหม่ในโลจิสติกส์พัสดุขนาดใหญ่ของไทย
เพาเวอร์บาย ผนึก กฟผ. แจกส่วนลด 1,000 บาท ช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ต้อนรับปีใหม่ 2569 ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2568 - 13 มกราคม 2569
ไฮเออร์ แท็กทีม "บอย ปกรณ์" ระเบิดความคึกคัก! พร้อมขนโปรสุดคุ้ม-ยิ้มหล่อกระแทกใจในงาน HomePro Super Expo
CHANG HomePro ลงพื้นที่ตรวจเช็คระบบไฟ-ประปา ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรี! ฟื้นฟูบ้านหลังน้ำลด ภายใต้โครงการ "โฮมโปร-เมกาโฮม ห่วงใย ร่วมใจฟื้นฟูบ้าน" พร้อมชวนคนไทย "ส่งต่อกำลังใจ จากคนไทยสู่แดนใต้"
ไฮเออร์ ประเทศไทย จัดมหกรรมใหญ่คุ้มที่สุดแห่งปี ตอกย้ำผู้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพระดับโลก ในงาน Thaiwatsadu x BnB Home GRAND SALE 2025
เพาเวอร์บาย เดินหน้าจัดงาน "POWER BUY EXPO 2025" ชูโปรแรงทุกหมวดสินค้า ปลุกดีมานด์ผู้บริโภคปลายปี
ไมเดียมอบน้ำดื่ม-นม และส่วนลดในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า 50% พร้อมส่งทีมช่างลงพื้นที่ทำความสะอาด ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ร่วมฟื้นคืนบ้านและเคียงข้างชาวหาดใหญ่
โตชิบาห่วงใย ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ มอบบริการฟรีค่าแรง - ส่วนลดอะไหล่ 50%