ปัจจุบันคนไทยมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบทำให้หลายคนละเลยความพิถีพิถันเรื่องอาหาร รวมถึงการดูแลสุขภาพของตนเอง อีกทั้งยังอยู่ภายใต้ภาวะกดดัน และความเครียดต่างๆ เป็นผลทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบ สุ่มเสี่ยงกับการเกิดโรคต่างๆ รวมถึงภาวะอาการท้องผูก โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เข้าใจว่าอาการท้องผูกไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต จึงละเลยให้ความสำคัญในการรักษา แต่อาการท้องผูกมีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในรายที่เป็นรุนแรง ซึ่งอาจพบร่วมกับโรคลำไส้แปรปรวน ริดสีดวงทวาร ไปจนถึงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
          รศ.นพ.สมชาย ลีลากุศลวงศ์ รั้งตำแหน่งนายกสมาคมประสาททางเดินอาหาร และการเคลื่อนไหว (ไทย) กล่าวในการเสวนาหัวข้อ “ยาระบาย … สำหรับทุกคนในครอบครัว” ในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของผลิตภัณฑ์“ดูฟาแลค” (Duphalac) ยาระบายสำหรับทุกคนในครอบครัว ขนาดใหม่แบบซอง ถึงอาการและสภาวะของอาการท้องผูกว่า “อาการท้องผูกเป็นปัญหาที่ 1 ใน 4 ของคนไทยต้องพบเจอ โดยอาการท้องผูก เป็นอาการถ่ายอุจจาระที่เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากอุจจาระอยู่ในสภาพที่แห้ง แข็ง เกิดความทรมานในการขับถ่าย หรือขับถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งพบได้ในคนทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่เด็กแรกเกิด ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ โดยสัญญาณของอาการท้องผูกของผู้ป่วยแต่ละกลุ่มจะแตกต่างกันออกไป 3 ประเภท กลุ่มแรกคือท้องผูกในเด็ก โดย 5-10% ของเด็กจะมีปัญหาท้องผูก ซึ่งพ่อแม่ต้องหมั่นสังเกตสัญญาณความถี่ของการอุจจาระที่บ่งบอกว่าลูกท้องผูก คือการขับถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เมื่ออุจจาระแข็ง จะทำให้เจ็บปวดเวลาเบ่งถ่าย หรืออาจมีเลือดติดออกมาด้วย เพราะเกิดแผลที่ผิวหนังบริเวณทวาร พอเจ็บ เด็กก็ยิ่งกลัวการขับถ่าย จึงพยายามกลั้นเอาไว้ แต่นั่นยิ่งทำให้อุจจาระแข็งมากขึ้น กลุ่มที่สองท้องผูกในคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งอันที่จริงเป็นเรื่องปกติ ที่แม่ตั้งครรภ์จะมีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ทั้งเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ลำไส้ทำงานไม่ปกติ ฉะนั้นโอกาสที่แม่ตั้งครรภ์จะท้องผูกก็เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 นอกจากนี้มดลูกของแม่ตั้งครรภ์ก็จะเริ่มโตขึ้นและไปกดหลอดเลือดใหญ่ ทำให้การไหลเวียนของเลือดในส่วนล่างของร่างกายช้าลง แม่ตั้งครรภ์จึงมีปัญหาท้องผูกได้บ่อย และเมื่อพยายามเบ่ง ก็ยิ่งมีโอกาสเกิดริดสีดวงตามมา ส่วนกลุ่มสุดท้ายคือท้องผูกในผู้สูงอายุ ซึ่งผู้สูงอายุมักรับประทานอาหารได้น้อยลง บางคนรับประทานอาหารที่มีกากใยไม่ค่อยได้ ดื่มน้ำน้อยลง มีภาวะของโรคอื่น เช่น โรคเบาหวาน หรือประสาทการรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวในลำไส้น้อยลง รวมถึง กล้ามเนื้อเพื่อการขับถ่ายเสื่อมตามวัย อีกทั้งส่วนใหญ่มักมีการใช้ยาเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจมีผลทำให้ท้องผูกมากขึ้น ซึ่งการเบ่งอุจจาระมากๆ อาจทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียน เป็นลม ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้สูงอายุ”
          การรักษาภาวะอาการท้องผูก
          “บางคนอาจคิดว่าตนเองท้องผูกหากไม่ได้ขับถ่ายอุจจาระออกมาทุกๆวัน อย่างไรก็ตามการขับถ่ายมีความแปรปรวนไม่เหมือนกันในแต่ละคน ในคนไทยปกติจะมีการถ่ายเฉลี่ยจากวันละสามเวลาไปจนถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ การเข้าใจถึงสาเหตุการป้องกัน และการรักษาจะช่วยบรรเทาอาการนี้ลงได้ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ โดยแนวทางรักษานั้นต้องดูตามอาการและสาเหตุของปัญหามีทั้งการรักษาอาการด้วยการใช้ยา เช่น ยาที่ทำให้อุจจาระอ่อนนิ่ม ยาที่กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ยาระบายชนิดสวน ยาระบายชนิดเหน็บ รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวิถีชีวิต อาทิ การดื่มน้ำ กินผักผลไม้ อาหารที่มีกากใยมากๆ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวดีขึ้น การฝึกนิสัยการขับถ่ายเป็นเวลาให้ตัวเอง” รศ.นพ.สมชายกล่าว
          สนับสนุนข้อมูลโดย “ดูฟาแลค” (Duphalac) ยาระบายสำหรับทุกคนในครอบครัว
                    
                                                                                                                                        
                                                                                                                            
                                                                                        
                            
                            ไม่ถ่ายเกิน 3 วันเป็นประจำ อันตรายไหม?
                        
                            การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ สำคัญอย่างไร?
                        
                            รู้เท่าทัน "โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง" ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
                        
                            รพ.เมดพาร์ค ชูแคมเปญใหม่ ชวนประชาชน ตรวจคัดกรองมะเร็งระบบทางอาหาร
                        
                            "ส่องกล้องลำไส้ใหญ่" ใครบ้าง?... ที่ควรตรวจ
                        
                            โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มอบเครื่องส่องกล้องลำไส้ใหญ่ จำนวน 10 ชุด รวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ให้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี
                        
                            "มะเร็งลำไส้ใหญ่" ภัยร้ายที่มักพบเมื่อสาย…แพทย์ รพ.วิมุต ชี้ "ส่องกล้องลำไส้ใหญ่" จำเป็น ย้ำอายุ 45 ปีขึ้นไปควรตรวจคัดกรองแม้ไม่มีอาการ