Botulinum toxin ชนิด A ทางเลือกรักษาโรคไมเกรน และอาการเคลื่อนไหวผิดปกติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          เมื่อเอ่ยถึงคำว่า Botulinum toxin ชนิด A หรือที่คนไทยเรียกกันจนติดปาก คือ โบท็อกซ์ หลายคนอาจนึกไปถึงแวดวงศัลยกรรมและเสริมความงาม แต่ในปัจจุบันนี้โบท็อกซ์ได้เข้ามามีบทบาทในวงการแพทย์แขนงอื่นมากมาย ซึ่งที่จะกล่าวถึงในวันนี้คือ การใช้โบท็อกซ์ในการรักษาอาการโรคไมเกรน และอาการเคลื่อนไหวผิดปกติ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วย
          นพ.ชาคร จันทร์สกุล อายุรแพทย์สมองและระบบประสาท กล่าวว่า อาการปวดศีรษะเป็นอาการที่มีผู้ป่วยเข้ามาปรึกษาแพทย์เป็นจำนวนมาก เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาการปวดศีรษะที่ผู้ป่วยมาปรึกษาแพทย์บ่อยที่สุดในคลินิกปวดศีรษะ คือ อาการปวดศีรษะไมเกรน สาเหตุเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้สมองมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ หรือเกิดการอักเสบของเส้นเลือด สมอง และเส้นประสาท พบมากในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะในช่วงอายุ 25-55 ปี ผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนมักมีอาการปวดศีรษะข้างเดียว แต่อาการปวดอาจย้ายข้างหรือปวดศีรษะทั่วๆ ทั้ง 2 ข้างก็ได้ อาการปวดศีรษะอาจรุนแรงมากจนทำให้การเรียนหรือการทำงานเสียไป เพราะในขณะที่มีอาการปวดศีรษะ การเคลื่อนไหวหรือกิจวัตรประจำวันต่างๆ มักจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดมากขึ้น นอกจากนี้ยังอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือ มีอาการไม่อยากเห็นแสงจ้าและไม่อยากได้ยินเสียงดังร่วมด้วย
          ปัจจุบันมีวิธีการรักษาโรคไมเกรนที่หลากหลาย ในผู้ป่วยไมเกรนมีอาการปวดศีรษะไมเกรนเรื้อรัง (chronic migraine) ที่ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะอย่างน้อย 14 วันต่อเดือนขึ้นไป การฉีดโบทูลินัมท็อกซิน (botulinum toxin) ชนิด A หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ โบท็อกซ์ (BOTOX) เป็นอีกวิธีหนึ่งที่แพทย์สามารถนำมาใช้รักษาผู้ป่วยได้ นอกจากจะช่วยให้กล้ามเนื้อมีการคลายตัวได้แล้ว ยังเชื่อว่าสารนี้สามารถยับยั้งปลายประสาทที่ส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมองได้ด้วย การฉีดโบ ท็อกซ์จึงสามารถลดความรุนแรงของอาการปวดศีรษะ และลดความถี่ของอาการปวดศีรษะได้เป็นอย่างดีรวมทั้งทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และอาจจะไม่จำเป็นต้องรับประทานยาป้องกันอาการปวดศีรษะเป็นประจำ หรืออาจจะลดขนาดยาลงได้ ในการรักษาแต่ละครั้ง แพทย์จะฉีดที่ใบหน้าบริเวณระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ และบ่า เป็นจำนวน 31 จุด จากการวิจัยพบว่าสามารถลดอาการปวดลงได้ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ การฉีดแต่ละครั้งมีผลอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน และพบผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย
          วิธีการรักษาไมเกรน นอกจากนี้การรักษาด้วยการฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินแล้ว ยังการรักษาอื่นๆร่วมด้วย อาทิ การให้ยาป้องกัน ต้องทานติดต่อกันประมาณ 6 เดือน -1 ปี ยาจะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากรับประทานประมาณ 2 อาทิตย์ การใช้วิตามินหรือเกลือแร่ เช่น แมกนีเซียม 400-600 มิลลิกรัมต่อวัน วิตามินบี 400 มิลลิกรัมต่อวัน โคเอนไซม์คิวเทน 150-300 มิลลิกรัมต่อวัน การใช้ยาฉีดร่วมกันหลายชนิด (Headache Cocktail) เพื่อลดอาการปวดศีรษะและการกลับเป็นซ้ำ หรือการรักษาแบบไม่ใช้ยา อาทิ การฝังเข็ม การทำกายภาพบำบัด การฝึกความผ่อนคลาย และไบโอฟีดแบค (Biofeedback) ให้เรียนรู้ถึงการควบคุมการทำงานของร่างกาย เช่น การหายใจ, อัตราการเต้นของหัวใจ, อุณหภูมิที่ปลายมือ, และการกำหนดจิต เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ในการเลือกรูปแบบการรักษา
          นพ. อภิชาติ พิศาลพงศ์ อายุรแพทย์สมองและระบบประสาท กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากโรคไมเกรนแล้ว โบทูลินัมท็อกซิน สามารถใช้รักษาโรคเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติซึ่งเป็นการรักษาที่มีข้อบ่งชี้มาก่อนการรักษาโรคไมเกรนหรือเพื่อความงาม ซึ่งโรคกลุ่มที่มีอาการบิดเกร็งของกล้ามเนื้อ (dystonia) เช่น โรคหน้ากระตุกครึ่งซีก (Hermifacial spasm) โรคหนังตาสองข้างบีบเกร็ง (blepharospasm) โรคคอบิด (cervical dystoniaหรือ torticollis) กล้ามเนื้อเกร็งจากโรคอัมพฤกษ์อัมพาต(muscle spasticity) ซึ่งสารนี้จะช่วยบรรเทาอาการเกร็งหรือกระตุกของกล้ามเนื้อใบหน้าหรือหนังตา แก้ไขคอที่เอียงผิดปรกติและลดความปวดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อลงได้ โดยที่สารนี้จะไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว โดยไปยับยั้งการปล่อยสาร acetyl choline ที่ปลายประสาทที่ต่อกับกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลง หลังฉีดยาจะไม่ออกฤทธิ์ทันทีต้องใช้เวลา 3-4 วันและจะออกฤทธิ์สูงสุดในสัปดาห์ที่ 2 และส่วนผลของการรักษาจะอยู่ได้นานถึง 2-3 เดือนแล้วค่อยๆหมดฤทธิ์ลง ทำให้มีความจำเป็นต้องกลับมาฉีดสารนี้เป็นระยะทุก 2-3 เดือน เพราะถ้าทิ้งไว้นานอาการจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมนอกจากนี้สารนี้ยังสามารถลดการหลั่งเหงื่อบริเวณฝ่ามือและรักแร้ซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นตัวได้อีกด้วย การออกฤทธิ์ต้องทำด้วยการฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อหรือต่อมเหงื่อส่วนที่มีอาการเท่านั้น การทาสารนี้ที่ผิวหนังยาจะไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้

โดย บริษัท แมสคอท คอมมิวนิเคชั่น จำกัด 02-732-6069-70

Botulinum toxin ชนิด A ทางเลือกรักษาโรคไมเกรน และอาการเคลื่อนไหวผิดปกติ
Botulinum toxin ชนิด A ทางเลือกรักษาโรคไมเกรน และอาการเคลื่อนไหวผิดปกติ
Botulinum toxin ชนิด A ทางเลือกรักษาโรคไมเกรน และอาการเคลื่อนไหวผิดปกติ
Botulinum toxin ชนิด A ทางเลือกรักษาโรคไมเกรน และอาการเคลื่อนไหวผิดปกติ
 

ข่าวชาคร จันทร์สกุล+อาการปวดศีรษะวันนี้

ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชน ระวัง โรคเลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมขัง หลังน้ำลด ไม่ควรเดินลุยน้ำ ย่ำดินโคลน พื้นที่ชื้นแฉะด้วยเท้าเปล่า หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน แนะสวมรองเท้าบูททุกครั้ง หากมีไข้เฉียบพลันหลังลุยน้ำ 1-2 สัปดาห์ มีอาการปวดศีรษะ ปวดน่องและกล้ามเนื้อโคนขา อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที โรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) หรือโรคไข้ฉี่หนู เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย "เลปโตสไปร่า" (Leptospira) เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล

ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การเ... หมอเมด vs หมอผ่า: เข้าใจความต่างก่อนเริ่มรักษา — ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การเข้าพบแพทย์เฉพาะทางกลายเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงโรคทาง...

"โรคความดันโลหิตสูง" โรคยอดฮิตในผู้สูงอาย... โรคความดันโลหิตสูงในมุมมองของแพทย์แผนจีน โดย คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว — "โรคความดันโลหิตสูง" โรคยอดฮิตในผู้สูงอายุ หากมองในทางแพทย์แผนปัจจุบัน สาเหตุข...

ปวดศีรษะไมเกรน เป็นอาการปวดศีรษะที่ไม่มีโ... รู้ทัน.. ปวดศีรษะไมเกรน — ปวดศีรษะไมเกรน เป็นอาการปวดศีรษะที่ไม่มีโครงสร้างในสมองผิดปกติ (ปวดศีรษะแบบปฐมภูมิ) อาการปวดอาจเป็นๆ หายๆ หรือเป็นเรื้อรัง ...

หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินโรคปวดศีรษะไมเกรน ... ยาพุ่งเป้ารักษาไมเกรน (Targeted Therapy for Migraine) — หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินโรคปวดศีรษะไมเกรน หรืออาจจะเคยมีอาการปวดศีรษะกันมาบ้าง แต่ไม่ได้รู้จักจริง ...

โรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) เป็นภ... Heat Stroke โรคลมร้อน อันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่ป้องกัน — โรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) เป็นภาวะวิกฤตที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนภ...

ปวดศีรษะ หรือ "โถวเฟิง" (??) "โถว" (?) คื... อาการปวดศีรษะ ในมุมมองของแพทย์จีน โดย คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว — ปวดศีรษะ หรือ "โถวเฟิง" (??) "โถว" (?) คือ ศีรษะ "เฟิง"(?)หมายถึง ลม เนื่องจากเกิดขึ้...

นพ.นิวัติ อินทรวิเชียร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ... ภาพข่าว: รพ.กรุงเทพเปิดบ้านศูนย์สมอง Brain Power สมองฟิตชีวิตเฟิร์ม — นพ.นิวัติ อินทรวิเชียร ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นประธานใน “งานแถลงข่าวเ...

โรคเอแอลเอส สู่ปรากฏการณ์กล้า ท้า ราดน้ำแ... โรคเอแอลเอส สู่ปรากฏการณ์กล้า ท้า ราดน้ำแข็ง Ice Bucket Challenge — โรคเอแอลเอส สู่ปรากฏการณ์กล้า ท้า ราดน้ำแข็ง Ice Bucket Challenge นพ. ชาคร จันทร์สกุล ...