สถาบันฯสิ่งทอ ตั้งเป้ายกระดับอุตสาหกรรมไทย หวังเป็นศูนย์รวมการออกแบบแฟชั่นสิ่งทอของโลก ปี 2021

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม เผยยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย ตั้งเป้ายกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยสู่การเป็นศูนย์รวมการออกแบบแฟชั่นสิ่งทอในปี 2564 และสร้างแบรนด์ไทยระดับโลก ปี 2573 ผ่านแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรม 3 ระยะ คือ ระยะแรกในปี 2559 จัดตั้งให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคด้านการค้าและการจัดหาสิ่งทอแฟชั่น ระยะที่ 2 จัดตั้งให้ไทยเป็นศูนย์รวมการออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ระดับโลกในปี 2564 และระยะที่ 3 ปี 2573 ผลักดันให้ไทยเป็นผู้นำวัฒนธรรมแฟชั่นและการออกแบบสิ่งทอของโลก 
          ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2713 5492 – 9 ต่อ 739,700 หรือทางเว็บไซต์ www.thaitextile.org/tfs2014 
          นายปราโมทย์ วิทยาสุข ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เป็นศูนย์กลางดำเนินงานส่งเสริม และพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของประเทศไทยทั้งระบบ ดังนั้นการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่นจึงเป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากอุตสาหกรรมสิ่งทอและธุรกิจแฟชั่นไทย ส่งผลต่อการพัฒนาโครงสร้างสู่อุตสาหกรรมใหม่ ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และองค์ความรู้ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และความได้เปรียบในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศด้านอุตสาหกรรม จำเป็นต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับศักยภาพพื้นฐานของประเทศ ตั้งแต่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนอุตสาหกรรมที่ใช้ในการออกแบบและสร้างสรรค์ และก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตสิ่งทอของโลก โดยมีเอเชียเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนสิ่งทอเครื่องนุ่งห่มของโลก และมีอาเซียนเป็นภูมิภาคการผลิตและการบริโภคที่สำคัญในอนาคต อุตสาหกรรมไทยจึงต้องกำหนดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สาขาต่าง ๆ ให้สอดคล้องกัน
          นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่า ได้กำหนดแผนแม่บทในการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยคู่ขนานไปกับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ใน 2 แนวทาง คือ 1. พัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปสู่ชีวภาพเต็มรูปแบบ (Bio-Based) และ 2. พัฒนาสู่เทคโนโลยีขั้นสูงและการสร้างสรรค์ (Hightech & Creative) โดยมีเป้าหมายระยะยาว ปี 2573 คือ มุ่งสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่มีอิทธิพลทางวัฒนธรรมในระดับสากลอย่างยั่งยืน (Sustainability) จากการใช้วัตถุดิบที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงทางชีวภาพ และ สร้างการรับรู้และยอมรับตราสินค้าไทยในระดับโลก 
          ด้าน นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า สำหรับยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสิ่งทอนั้น มีการกำหนดเป็นแผนระยะยาว 15 ปี ตั้งแต่ปี 2559 ถึงปี 2573 เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ โดยแบ่งเป็นเป้าหมาย 3 ระยะ คือ
          ระยะที่ 1 ในปี 2559 จัดตั้งให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคด้านการค้า การจัดหาสิ่งทอแฟชั่น (Sourcing and Trade from Thailand) เป็นการขยายขอบเขตอุตสาหกรรมสู่ผู้ประกอบการระดับภูมิภาค (ASEAN Business) เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าให้เป็นศูนย์กลางการทำธุรกิจของอาเซียน 
          ระยะที่ 2 ปี 2564 จัดตั้งให้ไทยเป็นศูนย์รวมการออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ระดับโลก (Design and Development Solution for International Brands) เนื่องจากมีความพร้อมในด้านสาธารณูปโภคและบุคลากรที่เหมาะสมในการตั้งเป็นสำนักงานใหญ่และสำนักงานภูมิภาค ตลอดจนมีการจัดจำหน่ายสินค้าต่างๆ ผ่านไทยไปยังภูมิภาคเอเชีย อาเซียน และเอเชียใต้
และระยะที่ 3 ปี 2573 ผลักดันให้ไทยเป็นผู้นำวัฒนธรรมแฟชั่น และการออกแบบสิ่งทอของโลก (Global Fashion Culture Influence) โดยการนำทุนวัฒนธรรมร่วมสมัยที่มีความเข้มแข็ง บูรณาการร่วมกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
          อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การพัฒนาบรรลุเป้าหมายโดยสมบูรณ์ จึงมีการกำหนดตำแหน่งการตลาดของอุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่นไทยให้เป็นประเทศคู่ค้าที่ช่วยสร้างผลกำไรด้วยสินค้าและบริการที่ใหม่อยู่เสมอ โดยมีความเสี่ยงทางธุรกิจต่ำ ผ่านแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาทั้ง 4 ด้าน ดังนี้ 
          1. การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้เข้มแข็งและยั่งยืน ยกระดับห่วงโซ่อุปทานสู่การออกแบบด้วยเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ทั้งระบบ อาทิ การพัฒนาผู้ประกอบการ จัดตั้งกองทุนปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีและทักษะ ขยายระบบงานในธุรกิจ ฯลฯ 
          2. การพัฒนาความสามารถในการตอบสนองตลาดของห่วงโซ่อุปทานที่ขยายสู่ภูมิภาค ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อาทิ การประกาศพื้นที่ Fashion Industry Zone พัฒนาเขตเศรษฐกิจแฟชั่นครบวงจรที่มีศักยภาพในการเชื่อมโยงกับแหล่งผลิตของภูมิภาค ฯลฯ
          3. การพัฒนาตำแหน่งทางการตลาด สร้างเวทีการออกแบบและการค้าระดับโลกในประเทศไทย โดยใช้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการนำการค้าการลงทุน การผลักดันมาตรฐานผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยเป็นมาตรฐานอ้างอิงระดับภูมิภาค บูรณาการทุนวัฒนธรรมร่วมสมัยด้านแฟชั่นและสิ่งทอ กับผลิตภัณฑ์และบริการวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ อาหาร กีฬา ภาพยนตร์ และอื่นๆ ไปยังประเทศในอาเซียน รวมถึงจัดตั้งให้มีงานแสดงสินค้าที่สำคัญของโลกในไทย (World Class Market Place)
          4. การยกระดับโครงสร้างทุนมนุษย์ การพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะหลากหลายด้านความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี ด้วยการยกระดับกระบวนการพัฒนาผู้สอนในสถานประกอบการ บูรณาการองค์ความรู้ที่ทันสมัยระหว่างภาคอุตสาหกรรมกับภาคการศึกษา โดยการส่งเสริมทุนวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรม พัฒนาผู้บริการระดับกลางและการบริหารงานอย่างมืออาชีพ รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมที่ดีแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคลากรในอนาคต โดยการส่งเสริมบุคลากรต้นแบบในอุตสาหกรรมให้เป็นที่ยอมรับ
          นางสุทธินีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถาบันฯ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอด้วยเส้นใยต้นแบบและการออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอเทคนิค แล้วเสร็จพร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เส้นใยธรรมชาติสู่อุตสาหกรรมสิ่งทอเทคนิค” (Technical Textiles) ครั้งแรก โดยที่ได้นำเอาวัตถุดิบเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรที่มีปริมาณมากจำนวน 3 ประเภท อันได้แก่ ใยสับปะรด เปลือกผลตาล และใยหมาก มาต่อยอดเป็นวัตถุดิบเส้นใยคุณภาพในอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยสามารถพัฒนาเส้นใยได้ 4 ชนิด คือ “ใยตาล” ด้วยเส้นใยที่มีรูกลวง สามารถใช้เป็นฉนวนกันความร้อนและเย็นได้ดี อีกทั้งยังสามารถคืนรูปได้ทันทีหลังการใช้งาน “ใยสับปะรดแบบลดทอนคลื่นเลียง” โดยการนำเส้นใยจากใบสับปะรดผสมกับเส้นใยพอลิเอสเทอร์ ด้วยคุณลักษณะเส้นใยที่มีความยาว และละเอียด จึงช่วยดูดซับเสียงได้ดี “ใยสับปะรดแบบใหม่” เป็นเส้นใยที่มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถนำไปใช้ในการผลิตคอมพอ สิทแบบต่าง ๆ และ “ใยหมาก” เป็นเส้นใยที่มีความหนาแน่นต่ำ น้ำหนักเบา ซึมซับน้ำได้ดีและมีรูพรุน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมการเกษตรและยานยนต์ โดยสามารถพัฒนาได้ทั้งหมด 12 ผลิตภัณฑ์ อาทิ ถุงนอนจากเส้นใยตาล เส้นใยสับปะรดสู่การพัฒนาขึ้นรูปเป็นเรือไฟเบอร์ และเส้นใยหมากสู่วัสดุทดแทนโพลีเอสเทอร์ เป็นต้น 
          สำหรับ ผลการประกวดออกแบบสิ่งทอเชิงสร้างสรรค์ หรือ Creative Textiles Award 2014 ที่มุ่งผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ ร่วมกับงานวิจัยการพัฒนาเส้นใยจากวัตถุดิบภาคการเกษตรสู่อุตสาหกรรมสิ่งทอ ภายใต้ “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบภาคการเกษตรด้วยการพัฒนาเส้นใยธรรมชาติสู่อุตสาหกรรมสิ่งทอ” ในแนวคิด Green Textiles และ Innovative Textiles สำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอเชิงสร้างสรรค์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ ผลงาน “ In the Wood ” สร้างสรรค์โดย นายภราดร เกตุรัตน์ ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท ซึ่งผลงานดังกล่าว ได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายธรรรมชาติจากลายไม้ ทั้งนี้ จากผลงานที่นักออกแบบรุ่นใหม่ได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจ ในการผลิตผลงานมาตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าศักยภาพของนักออกแบบไทยสามารถก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ ประกอบกับมีพลังความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด สถาบันฯ สิ่งทอ จึงมีความยินดียิ่งที่จะสนับสนุนและผลักดันให้นักออกแบบไทยสามารถสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบจากนวัตกรรมเส้นใยธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ รวมถึงเปิดพื้นที่ให้นักออกแบบไทยได้แสดงศักยภาพของตนเองได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขีดความความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยในตลาดโลก 
          สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2713 5492 – 9 ต่อ 739,700 หรือ www.thaitextile.org/tfs2014


ข่าวสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ+สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมวันนี้

Kind+ Jugend ASEAN 2025 ร่วมกับ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ชูโครงการ SME ปัง! ตังได้คืน ขยายธุรกิจแม่และเด็กสู่ตลาดโลก

Kind+ Jugend ASEAN 2025 มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติและเทคโนโลยีสำหรับผลิตภัณฑ์แม่และเด็กคุณภาพแห่งภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 3 ร่วมกับ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ในประเทศไทย ได้เข้าร่วมแสดงสินค้าในงานใหญ่ระดับนานาชาติ ภายใต้โครงการ SME ปัง! ตังได้คืน ปี 2 ผ่านระบบ BDS (Business Development Services) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่ต้องการขยายธุรกิจและพัฒนาศักยภาพในตลาดอาเซียนและทั่วโลก พร้อมเสริมสร้างความ

บพข. ร่วมกับ สถาบันสิ่งทอ หนุน บริษัท โกล... บพข.ร่วมกับสถาบันสิ่งทอ หนุนบริษัทโกลแฟ็บจำกัด ผู้ประกอบการ SME พัฒนาชุดดับเพลิงคุณภาพสูงสนับสนุนฮีโร่ผู้กล้าทั่วประเทศ — บพข. ร่วมกับ สถาบันสิ่งทอ หนุน บ...

สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ แนะผู้ประกอบก... สถาบันสิ่งทอแนะผู้ประกอบการสิ่งทอหันปรับคุณภาพวัสดุ เน้นอิงกระแสรักษ์โลก จะอยู่ได้คงทนกว่าแข่งกันด้วยราคา — สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ แนะผู้ประกอบการสิ่...

อุตสาหกรรมเสื้อผ้าไทย ต้องเผชิญกับความท้า... เมื่อ Digital Transformation คือจุดเปลี่ยนของธุรกิจอุตสาหกรรมเสื้อผ้าไทย — อุตสาหกรรมเสื้อผ้าไทย ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากสถานการณ์การระบาดของโคว...

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่... สสว. ชวนเที่ยวงาน "ไทยช้อป SMEs ไทย 2021" BCG Connext ร่วมอุดหนุนสินค้าไทย 20-26 สิงหาคมนี้ ณ เซ็นทรัล พลาซ่า เชียงราย — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง...

กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) โดย สำนักงานเศรษฐ... อก. เร่งดันผู้ประกอบการแปรรูปกัญชงสู่พาณิชย์รองรับ BCG Model — กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) โดย สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ผลักดันผู้ประกอบการแปรรูปกัญช...

สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดย ดร.ชาญชัย... สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และ สมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือมุ่งหวังพัฒนาหัตถกรรมไทยให้เติบโตสู่ตลาดโลก — สถาบันพัฒนาอุตสา...

นางทิพวรรณ พานิชการ ผู้อำนวยการศูนย์วิเคร... สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดห้องทดสอบสิ่งทอต้อนรับคณะผู้บริหารธุรกิจเคมี — นางทิพวรรณ พานิชการ ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์ทดสอบสิ่งทอ สถาบันพัฒนาอุตสาหก...

ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพ... โครงการพัฒนาต้นแบบวัสดุเชิงเทคนิคเพื่อรองรับอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (New S-Curve) — ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เป็นปร...

ก.อุตฯ ปลื้มยกระดับผ้าทออีสาน เผยผลสำเร็จ... ก.อุตฯ ปลื้มยกระดับผ้าทออีสาน เผยผลสำเร็จ “มัดทอใจ”เฟส 2 — ก.อุตฯ ปลื้มยกระดับผ้าทออีสาน เผยผลสำเร็จ “มัดทอใจ”เฟส 2 ดึงอัตลักษณ์มัดหมี่ท้องถิ่น สู่การออกแ...