นายพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ผู้คิดค้นและพัฒนาสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ไลฟ์สไตล์ ภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง “anitech”, “nobi”, “monovativ” เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาและออกแบบสินค้ากลุ่ม Gaming Gears ที่มี เมาส์ คีย์บอร์ด หูฟัง แผ่นรองเมาส์ และอุปกรณ์เสริม Gaming Gears ที่จำเป็น ภายใต้แบรนด์ใหม่ “Pentagonz” ตั้งเป้าเจาะกลุ่มตลาดของอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเล่นเกมส์โดยเฉพาะ ตอบสนองความต้องการของผู้รักในการเล่นเกมส์ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นที่สูงกว่าอุปกรณ์ต่อพ่วงทั่วๆ ไป และเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเข้าถึงสินค้า Gaming Gears ที่มีมาตรฐานระดับสากลในราคาที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ โดยได้วางจำหน่ายไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับการออกแบบสินค้าทีมออกแบบยังคงเอกลักษณ์ของตนเองที่ถือเป็นจุดแข็ง ที่ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำสินค้านวัตกรรมไลฟ์สไตล์ทันสมัยสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่พัฒนาโดยคนไทยถือเป็นจุดแข็งในการสร้างความแตกต่างด้านนวัตกรรมของสินค้า ทั้งคุณสมบัติ รูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ของสินค้า โดยสินค้า “Pentagonz” เปรียบเสมือนกับอาวุธต่างๆ ของตำนานเทพอสูรในเทพนิยายนักรบไวกิ้ง เป็นที่มาของแบรนด์สินค้า ด้วยเอกลักษณ์ของรูปทรง ที่นำเสนอถึงความแข็งแรง คงทนในการใช้งาน และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ขณะที่ลวดลาย สีสัน และรูปร่างของผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ แสดงถึงความดุดันเข้มแข็ง ส่วนสินค้าในแต่ละชนิดเปรียบเสมือนกับกองทัพที่จะต้องรวบรวม และคัดเลือกนักรบที่เก่งฉกาจ เช่นเดียวกับแบรนด์ Pentagonz ที่ต้องผ่านกระบวนการคิดและสร้างสรรค์ผลงาน คัดสรรผลิตภัณฑ์ และสานต่อด้วยกระบวนการตรวจสอบ ทดสอบคุณภาพสินค้าทุกชิ้นเพื่อให้สินค้ามีมาตรฐานในระดับสากลก่อนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าทุกช่องทางการจัดจำหน่าย
นายพิชเยนทร์ กล่าวว่า “ที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตของสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ไลฟ์สไตล์มาโดยตลอด มาในวันนี้เราได้พัฒนาสินค้า Gaming Gears ที่เป็นการต่อยอดทางความคิดของทีมออกแบบของบริษัท ซึ่งตนเองควบตำแหน่งหัวหน้าทีม Creative และออกแบบเองด้วย ซึ่งทีมการตลาดที่มองเห็นโอกาสในตลาดเกมส์ที่ยังเปิดกว้าง รวมถึงความต้องการอุปกรณ์ Gaming Gears จากผู้เล่มเกมส์จำนวนมาก เห็นได้จากการจัดกิจกรรมแข่งขันเกมส์ต่างๆ ซึ่งผู้เล่นพยายามหาอุปกรณ์ Gaming Gears ให้เหมาะกับรูปแบบเกมส์นั้นเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเล่น ดังนั้น เชื่อว่าสินค้าแบรนด์ Pentagonz ที่มีทั้ง เมาส์ คีย์บอร์ด หูฟัง แผ่นรองเมาส์ และอุปกรณ์เสริม Gaming Gears ที่จำเป็น จะช่วยตอบโจทย์ให้กับเหล่า Gamer ที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพในราคาเหมาะสมที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้”
นอกจากบริษัทจะมีทีม Design และวิศวกรที่เป็นจุดแข็งในการสร้างความแตกต่างด้านนวัตกรรมของสินค้าแล้ว บริการหลังการขายก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด มุ่งเน้นสร้างความแตกต่างด้วยการเป็นผู้นำด้านบริการหลังการขายในบางกลุ่มสินค้าด้วยการรับประกันสินค้านาน 2 ปี และมี Premium Protection วงเงินรับประกัน 100,000 บาท โดยครอบคลุมถึงการนำไปใช้ในต่างประเทศ เช่น พม่า ลาว เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสินค้า และเชื่อว่าบริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด เป็นรายเดียวในอุตสาหกรรมเดียวกันในประเทศที่มีการรับประกันสินค้าในลักษณะนี้
ขณะเดียวกัน บริษัทให้ความสำคัญในเรื่องการตอบสนองทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น การให้คำแนะนำ การเคลมหรือเปลี่ยนสินค้าที่รวดเร็วมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ทั้ง Online/Offline โมเดิร์นเทรด, ตัวแทนจำหน่าย, Chain Store ที่จะช่วยกระจายสินค้าให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย และสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยปัจจุบันสินค้าของบริษัทสามารถเข้าสู่ตลาด AEC แล้วในกลุ่มประเทศ CLMV ที่เป็นเป้าหมายในการทำตลาดต่างประเทศ
เปิดประสบการณ์เรียนรู้นอกห้องเรียน DEK การบริหารและการจัดการสมัยใหม่ SBS SPU เข้าศึกษาดูงาน บริษัท สมาร์ทไอดีกรุ๊ป จำกัด
"สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป" แตกไลน์โปรดักส์ "แอนิเทค แล็บพลัส ซีรีส์" ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย แบรนด์แรกของไทย ผ่านการวิจัยและพัฒนา รับประกันความปลอดภัย
“แอนิเทค” (anitech) เปิดตัวปลั๊ก anitech IOT ที่แรกในประเทศไทย เจาะกลุ่มคนรักบ้านอัจฉริยะ ชูนวัตกรรมสุดล้ำ ควบคุมการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน
“แอนิเทค” (anitech) เปิดตัวที่สุดแห่งนวัตกรรมทางด้านดีไซน์ ผสานนวัตกรรมด้านโชคลาภ เสริมความมั่งมี มั่งคั่ง กับเครื่องใช้ไฟฟ้าลิมิเต็ดอิดิชั่น รุ่น“5 มหามงคล”
ภาพข่าว: แมนพาวเวอร์ ผนึก ม.อัสสัมชัญ จัดกิจกรรม “แบ่งฝัน ปันอาชีพ สู่อนาคตบัณฑิตใหม่”
ภาพข่าว: บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ได้รับรางวัล Best Thai Brand
“แอนิเทค” (anitech) เดินหน้ายกระดับมาตรฐาน มอก. โชว์นวัตกรรมปลั๊กไฟ IOT รายแรกที่ได้รับการรับรองจากภาครัฐ ตั้งเป้ายอดขายปี 61 ทะลุ 450 ล้านบาท พร้อมก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมอันดับ 1 ของไทย