โธมัส – พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ ประเภทคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ภายใต้แบรนด์ "แอนิเทค" (anitech) เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบเหมือนกันสำหรับมาตรฐาน มอก. ที่ออกมา เพราะอยู่ตรงกลางระหว่างภาครัฐ และผู้บริโภค แน่นอนในสถานะของผู้ผลิตด้วย มองว่าต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นสินค้าต้องปรับราคาขึ้นให้ได้ตามมาตราฐานของ มอก. แต่ต้องเข้าใจผู้บริโภคถ้าจะซื้อปลั๊กไฟในราคาแพงมากจะเป็นภาระกับผู้บริโภค จึงปรับราคาขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งทำให้กำไรไม่สูง แต่อย่างไรสุดท้ายแล้วเลือกที่จะมองภาพรวมไปถึงอนาคต ตามประกาศมาตรฐาน มอก. ผู้บริโภคต้องได้รับผลประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุด จึงเลือกพัฒนาคุณภาพของสินค้าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้าทำให้ปลั๊กไฟเป็นได้มากกว่าเพียงปลั๊กธรรมดาทั่วไป เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุเพลิงไหม้หรือมีผู้เสียชีวิตจากการใช้ปลั๊กที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. อีกต่อไป
ล่าสุด แอนิเทค (anitech) มุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับมาตราฐานปลั๊ก IOT รุ่นที่ Connect ผ่าน Application และ Cloud Server ด้วย eSIM ซึ่งมีความเสถียรของซอฟแวร์ และฮาร์ดแวร์เป็นปลั๊ก IOT ตัวแรกในประเทศไทยที่ผ่านมาตรฐาน มอก. ในช่วงเดือนกันยายนนี้จะเปิดตัวและวางจำหน่าย โดยประโยชน์ของปลั๊ก IOT ที่จะช่วยสร้างความสะดวกสบายและที่สำคัญคือความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน ปลั๊กสามารถรับคำสั่งให้เปิด - ปิดอุปกรณ์ได้โดยผ่านทางสมาร์ทโฟน ซึ่งมุ่งเน้นออกแบบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์กับเทรนด์ IOT
โดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรับคำสั่งจากสมาร์ทโฟนทำหน้าที่คอยควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทปลั๊กได้ทุกๆ ที่ที่มีอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้บริโภคสามารถจัดการตารางเวลาสำหรับการเปิด - ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้โดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น การตั้งเวลาเปิด - ปิดอุปกรณ์ แบบอัตโนมัติ คอยเตือนความจำว่าเราเปิด - ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนเข้าหรือออกจากบ้านได้ทุกที่ทุกเวลา
โธมัส - พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด เผยต่อว่า ทุกๆ ผลิตภัณฑ์ของ "แอนิเทค" (anitech) สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด เป็นจุดแข็งที่ไม่ซ้ำใคร คือโมเดลธุรกิจแบบบูรณาการในแนวดิ่งที่ครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบเทคโนโลยีหลัก การพัฒนา อย่างต่อเนื่องจนถึงการผลิตสินค้าด้วยตัวเอง แนวทางดังกล่าวช่วยให้บริษัทฯ ได้รับรู้ถึงความคิดเห็นของลูกค้า ซึ่งยิ่งทำให้เรามองเห็นถึงรายละเอียดมากยิ่งขึ้นสำหรับการพัฒนาสินค้า การวางแผนและให้บริการลูกค้าต่อไป
"ที่ผ่านมายอดขายคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ในปี 2560 อยู่ที่ 300 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนชิ้นอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านชิ้น เติบโตจากปี 2559 อยู่ที่ 25% งบประมาณการตลาดปีนี้ (2561) อยู่ที่ 45 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 10% ของรายได้ประมาณการณ์ในปีนี้ โดยงบประมาณในส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นใน เรื่องของการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าในครึ่งปีหลัง บุกตลาดปลั๊ก IOT หรือ Smart plug เป็น Product Highline และตั้งเป้ายอดขายปลายปี 2561 ไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท ซึ่งสามารถผลักดันยอดขายขึ้นมากกว่าปี 2560 ถึง 150 ล้านบาท กินพื้นที่ส่วนแบ่งการตลาดปลั๊กในประเทศไทยอยู่ที่ 30% นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายในการที่จะก้าวเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอันดับ 1 ของไทย และช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% ภายในปี 2563 อีกด้วย" โธมัส - พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี กล่าวสรุป
เปิดประสบการณ์เรียนรู้นอกห้องเรียน DEK การบริหารและการจัดการสมัยใหม่ SBS SPU เข้าศึกษาดูงาน บริษัท สมาร์ทไอดีกรุ๊ป จำกัด
"สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป" แตกไลน์โปรดักส์ "แอนิเทค แล็บพลัส ซีรีส์" ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย แบรนด์แรกของไทย ผ่านการวิจัยและพัฒนา รับประกันความปลอดภัย
“แอนิเทค” (anitech) เปิดตัวปลั๊ก anitech IOT ที่แรกในประเทศไทย เจาะกลุ่มคนรักบ้านอัจฉริยะ ชูนวัตกรรมสุดล้ำ ควบคุมการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน
ภาพข่าว: แมนพาวเวอร์ ผนึก ม.อัสสัมชัญ จัดกิจกรรม “แบ่งฝัน ปันอาชีพ สู่อนาคตบัณฑิตใหม่”
ภาพข่าว: บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ได้รับรางวัล Best Thai Brand
ภาพข่าว: เปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าลาย บาร์บีกอน Anitech X Bar B Gon สุดลิมิเต็ด