นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยเมืองจันทบุรี ตามแนวทางพระราชดำริฯ และติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้งช่วยเหลือเกษตรกรที่คลองวังโตนด บริเวณทำนบดิน ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ พร้อมปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือเกษตรกร ดูงานการบริหารจัดการของกลุ่มผู้ใช้น้ำคลองวังโตนด พร้อมเปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ที่สนามบินท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ว่า โครงการป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งจังหวัดจันทบุรี คลองบายพาสตามแนวพระราชดำริ ตรงจุดเชื่อมต่อฝายยางกับแม่น้ำจันทบุรี ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2558 จะสามารถป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขตเมืองได้ระดับหนึ่ง อีกทั้งเป็นแหล่งน้ำเพื่อใช้ภาคการเกษตรของเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่คลองพาดผ่าน ขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรี คลองวังโตนด มีเพียงพอกับฤดูแล้งที่เหลือไว้สำหรับขาวสวนสองฝั่งแม่น้ำจะสูบไปใช้ได้ ร่วมกับยังมีปริมาณฝนยังตกอยู่ในบางพื้นที่ ก็คาดการณ์ว่าแนวโน้มสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกในภาพรวมขณะนี้ยังถือว่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานได้เตรียมการในเรื่องสถานีสูบน้ำไฟฟ้า เครื่องสูบน้ำ และรถบรรทุกน้ำไว้ให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะสวนผลไม้ของเกษตรกรที่กำลังอยู่ในช่วงติดดอก ออกผล
          สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก จำวน 2 หน่วย ได้แก่ หน่วยฯระยอง และ หน่วยฯ จันทบุรี เพื่อขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ตราด ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก สระแก้ว และปราจีนบุรี โดยพื้นที่ที่ต้องการฝนจะมีทั้งพืชไร่ ได้แก่ สับปะรด มันสำปะหลัง ลำไย ทุเรียน ลองกอง กล้วยไข่ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ซึ่งสภาพอากาศขณะนี้ได้รับอิทธพลจากลมฝ่ายตะวันออกนำความชื้นจากทะเลเข้าปกคลุมเป็นระยะๆส่งผลให้สามารถวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงได้ในบางพื้นที่ การตกของฝนยังปกคลุมพื้นที่แคบๆ และมีปริมาณไม่มาก
          หลังจากนั้นคณะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เดินทางไปตรวจติดตามงานแก้ปัญหาภัยแล้งช่วยเหลือเกษตรกร ที่สถานีสูบน้ำบ้านพลับพลา ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จันทบุรี ที่มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ซึ่งทดน้ำจากคลองสระบาปกลับไปให้เกษตรกรที่อยู่ในจุดที่คลองไม่ไหลผ่าน
          ด้านนายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยถึง สถานการณ์ภัยแล้งและผลกระทบในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ว่า สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดจันทบุรีปีนี้ จังหวัดได้ประกาศให้ 9 อำเภอ จาก 10 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยแล้ง มีราษฎรได้รับผลกระทบ 52 ตำบล 487 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 56,535 ครัวเรือน 186,025 คน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบ 691,948 ไร่
          ทั้งนี้ ประชาชนและเกษตรสามารถติดตามสถานการณ์น้ำทั่วประเทศประจำวัน และการปฏิบัติการฝนหลวงโดยสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นกรมชลประทาน " WMSC" และแอพพลิเคชั่น "ฝนหลวง" ได้ฟรี
                    
                            
                            "ร้อยเอก ธรรมนัส" ลุยอุตรดิตถ์! เร่งช่วยเกษตรกรพ้นภัย "บัวลอย" สั่งด่วนซ่อมสะพานส่งน้ำ 14+200 คืนไร่นา 5.4 หมื่นไร่
                        
                            "รมช.นเรศ" ลงพื้นที่เวียงป่าเป้า ตรวจแผนฟื้นฟูพื้นที่เกษตรเสียหายจากพายุยางิ
                        
                            "รมว.อรรถกร"นำ กระทรวงเกษตรฯ ผนึกกำลังภาคเอกชน พัฒนา 'จุลสาหร่าย' สู่พลังงานสะอาด-นวัตกรรมอาหารสัตว์ ยกระดับทรัพยากรชีวภาพ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
                        
                            มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น
                        
                            "รมช.อัครา" ลุยพะเยาต่อเนื่อง! มอบนโยบายจัดทำการเกษตรแบบเป็นระบบ
                        
                            กระทรวงเกษตรฯ เปิดประชุม "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา" เตรียมมาตรการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรอย่างเร่งด่วน
                        
                            กระทรวงเกษตรฯ ตั้ง "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา"
                        
                            "รมว.อรรถกร" นำ กระทรวงเกษตรฯ เปิดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ จ.นครศรี ยกระดับบริการถึงมือเกษตรกร หนุนองค์ความรู้ เพิ่มรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ
                        
                            กรมประมง…หนุนเกษตรกรเปลี่ยน "บ่อกุ้งร้าง" เพื่อสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยง "ปูทะเล"