นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันนี้ (16 เม.ย.) ว่า การตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พงศ์พัฒน์ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทีมงานทุกฝ่าย สำหรับผลการเบิกจ่ายเงินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ วันที่ 10 เมษายน 2558 เบิกจ่ายภาพรวมได้ จำนวน 42,014.90 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 90,488.39 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.43 เบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนได้ จำนวน 669.57 ล้านบาทของวงเงินงบประมาณ 6,872.62 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.74
ที่ประชุมได้หารือร่วมกันพร้อมทั้งแจ้งว่ามีปัญหาและอุปสรรคที่ไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ทันภายในวันที่ 31 มี.ค. 58 ซึ่งอยู่ระหว่างการเรียนผู้รับจ้างลงนามในสัญญา จำนวน 20 รายการ วงเงิน 69.99 ล้านบาท อยู่ระหว่างสำนักงบประมาณพิจารณา จำนวน 64 รายการ วงเงิน 819.92 ล้านบาท และอยู่ระหว่างกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน 76 รายการ วงเงิน 2,362.34 ล้านบาท สำหรับโครงการที่มีปัญหาจากการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น โครงการปรับปรุงเครื่องบิน Fokker 50 อยู่ระหว่างการจัดทำของเขตของงาน มีข้อจำกัดคือต้องประสานข้อมูลในการดำเนินการจากต่างประเทศมีวงเงินค่อนข้างสูง การซ่อมบำรุงอากาศยาน อยู่ระหว่างการเสนอหนังสือเพื่อให้คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) พิจารณา โครงการพัฒนางานตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางชีววิทยาและ DNA เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเชียน อยู่ในขั้นตอนร่าง/ประกาศ/ประกวดราคา เนื่องจากมีผู้มีสิทธิที่จะเสนอราคาเพียงรายเดียว ซึ่งในกรณีนี้สามารถเรียกผู้เสนอราคารายเดียวมาเจรจาต่อรองราคาได้ ตามที่กรมบัญชีกลางได้เวียนหนังสือไปแล้ว หลังจากการประชุมร่วมกันแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเร่งดำเนินการและเร่งเบิกจ่ายเงินเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย
นายมนัส แจ่มเวหา กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหา อุปสรรค หรือข้อติดขัดที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แจ้งมานั้น กรมบัญชีกลางได้แนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาในแต่ละเรื่องแล้ว แต่ทั้งนี้ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานอื่นๆ อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายผลการใช้งานในระบบ e-Market และ e-Bidding กับส่วนราชการนำร่องเพิ่มเติม จำนวน 148 แห่ง ซึ่งมีส่วนราชการส่วนกลาง 112 แห่ง เริ่มถือปฏิบัติในวันที่ 16 เม.ย. 58 และอีก 36 แห่ง รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย จะเริ่มใช้งานวันที่ 1 พ.ค. 58 เป็นต้นไป โดยยกเว้นสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ก่อนหน้านี้กรมบัญชีกลางได้ประชาสัมพันธ์การใช้งานระบบดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าผู้ปฏิบัติงานจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการจัดซื้อจัดจ้างรูปแบบใหม่ ซึ่งทั้งสองระบบจะเน้นให้หน่วยงานภาครัฐสามารถจัดหาพัสดุให้สอดคล้องกับรูปแบบ ประเภทสินค้า เงินงบประมาณที่ได้รับ และระยะเวลาที่จัดหา เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ในราคาที่เหมาะสมและทันเวลาที่ต้องการใช้งาน
“การขยายผลการใช้งานทั้งสองระบบนี้ กรมบัญชีกลางได้เริ่มอบรมการใช้งานให้กับหน่วยงานต่างๆ แล้วตั้งแต่ มี.ค.58 และจะทยอยอบรมให้ครบทุกหน่วยงาน นอกจากนี้มีช่องทางที่แนะนำวิธีการใช้งานโดยสามารถดาวน์โหลดคู่มือการปฏิบัติงาน
ผ่านทาง www .gprocurement.go.th ในหัวข้อ ดาวน์โหลดแนะนำ/แนวทางการปฏิบัติงานe-GP ระยะที่ 3 ได้อีกด้วย” นายมนัสกล่าว
                            
                            กทม. เดินหน้าขยายจุดกล้อง CCTV-AI เพิ่มประสิทธิภาพตรวจจับผู้ขับขี่บนทางเท้า
                        
                            ธอส. รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2568
                        
                            เคทีซีสนธิกำลังกองบังคับการปราบปรามฯ เปิดวงเสวนา "รู้ทันภัยไซเบอร์" รับมือความท้าทายยุค AI
                        
                            LINE MAN สานพลัง ฮอนด้า และภาคีฯ จัดอบรมขับขี่ปลอดภัยแก่ไรเดอร์ลุยภารกิจสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนถนน
                        
                            12 จุดบริการทั่วไทย! สอศ.ร่วมกองทัพจัดกิจกรรม จิตอาสาพระราชทาน ซ่อมฟรี-ตัดผม-ฝึกอาชีพ เฉลิมพระชนมพรรษา ร.10
                        
                            ตร.ไซเบอร์ จับมือ มจธ. พัฒนากำลังคนสร้างเครือข่าย Cyber Security พร้อมประกาศผลการแข่งขันปั้นนักรบไซเบอร์รุ่นใหม่ Cyber Warrior Hackathon 2025
                        
                            ทีทีบี ฟินทิป แนะ 5 วิธีรู้ทันภัยไซเบอร์ ใช้แอปยังไงให้เงินปลอดภัย พร้อมทิปเด็ดจาก ttb touch ที่ป้องกันได้ไว ทำได้ทันที
                        
                            ทรูมันนี่ และ ทรู จับมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในแคมเปญ "รีบโอน โจรยิ้ม" เสริมเกราะคนไทยสู้ภัยไซเบอร์ พร้อมสร้างสังคมดิจิทัลที่ยั่งยืน
                        
                            BSRC ต้อนรับคณะตำรวจศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง โชว์ศักยภาพมาตรฐานระดับสากล ของโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา