สมศ. เผยใช้เวลาประเมินเฉลี่ย 5 ชั่วโมงต่อปี ไม่กระทบเวลาสอนครู ย้ำประเมินงานปกติที่ครูทำ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สมศ.ชี้ประเทศไทยขาดหน่วยงานวิจัยเพื่อการพัฒนาการศึกษาอย่างมีคุณภาพพร้อมเสนอตัวอย่างงานวิจัยที่พัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย
 
           สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เผยในปี 2558 ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนามาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา 4 มาตรฐาน ได้แก่ ผลการจัดการศึกษา การจัดการศึกษาโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การบริหารจัดการ และการประกันคุณภาพภายใน ตามกฎหมายปัจจุบัน สมศ. ทำหน้าที่การประเมินคุณภาพและมาตรฐานดังกล่าวโดยใช้เวลาในการประเมินสูงสุดเพียง 3 วัน ใน 5 ปี หรือเฉลี่ยประมาณ 5 ชั่วโมงต่อปีเท่านั้น พร้อมแนะนำ 5 วิธีสู่การเป็นครูในบริบทของประชาคมอาเซียนอันจะสอดคล้องกับ 4 มาตรฐานดังกล่าว อาทิ การพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพหรือคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามมาตรฐานการศึกษา การจัดการเรียนการสอนที่ผู้เรียนเป็นสำคัญ การบริหารจัดการการเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วมและเป็นระบบ การร่วมกันวางแผนและร่วมกันปรับปรุง การใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาการตนเอง ตลอดจนเสนอแนะให้มีการจัดตั้งหน่วยงานวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพ สะท้อนความเป็นจริงของปัญหาระบบการศึกษาต่างๆ สามารถนำผลจากการวิจัยไปใช้พัฒนาระบบการศึกษาได้จริง อาทิ การนำผลการประเมินไปใช้จริงในสถานศึกษา รวมทั้งการวิเคราะห์เปรียบเทียบมาตรฐานการศึกษาในสถานศึกษาในอาเซียน ฯลฯ ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนครูอาจารย์ทุกระดับชั้นกว่า 660,000 คน จำนวนสถานศึกษาทุกประเภท 61,516 แห่ง และจำนวนนักเรียน นักศึกษาทุกระดับชั้นกว่า 13 ล้านคน ซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ให้เป็นบุคลากรที่มีสมรรถนะและทักษะที่สามารถแข่งขันได้กับทุกประเทศในภูมิภาค
          ศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. กล่าวว่า ในปี 2558 ประเทศไทยมีจำนวนครูอาจารย์ทุกระดับชั้นกว่า 660,000 คน จำนวนสถานศึกษาทุกประเภท 38,010 แห่ง และจำนวนนักเรียน นักศึกษาทุกระดับชั้นกว่า 13 ล้านคน โดยสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนบุคลากรทางการศึกษาจำนวนมากดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนามาตรฐานการศึกษาโดยตัวแปรสำคัญในการสร้างมาตรฐานการศึกษาคือสถานศึกษาและคณาจารย์ โดยที่ผ่านมา กฎหมายกำหนดให้มีหน่วยงานอิสระภายนอกทำการประเมินมาตรฐานการศึกษา ได้แก่ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. ทำหน้าที่ในการสะท้อนคุณภาพของสถานศึกษา โดยประเมินผ่าน ผู้เรียน ครู และผู้บริหาร ฯลฯ ให้เห็นภาพรวมคุณภาพการจัดการศึกษาทั้ง 4 มาตรฐานตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ ผลการจัดการศึกษา การจัดการศึกษาโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การบริหารจัดการ และการประกันคุณภาพภายใน ซึ่งใช้เวลาในการประเมินสูงสุดเพียง 3 วัน ในทุกๆ 5 ปี หรือเฉลี่ยประมาณ 5 ชั่วโมงต่อปี โดยกระบวนการประเมินของ สมศ. ในวันที่1 จะเริ่มจากการชี้แจงวัตถุประสงค์ของการประเมิน หลังจากนั้นตลอดทั้ง 3 วัน จะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสังเกต สัมภาษณ์ และตรวจสอบข้อมูลจากเอกสารหลักฐานและระบบสารสนเทศ ในวันสุดท้ายเป็นการรายงานผลประเมินด้วยวาจาโดยบอกจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาของสถานศึกษา ให้ข้อเสนอแนะ และชี้ทิศทางการพัฒนาสถานศึกษาต่อบุคลากรในสถานศึกษานั้นๆ
          ศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ กล่าวต่อว่า จากการประเมินดังกล่าว สมศ. ตระหนักถึงความแตกต่างของความพร้อมของสถานศึกษา โดยต้องยอมรับข้อเท็จจริงที่สถานศึกษาบางแห่งยังขาดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาภายใน แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อการสร้างความพร้อมในระยะยาวของระบบการศึกษาไทย สถานศึกษาโดยเฉพาะคณาจารย์ ต้องให้ความสำคัญในการสร้างมาตรฐานของสถานศึกษาในทุกมิติ ซึ่งจะสะท้อนถึงศักยภาพของลูกศิษย์ อันจะส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ สมศ. จึงแนะนำ 5 วิธีสู่การเป็นครูในบริบทของประชาคมอาเซียน ดังนี้
          การพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพหรือคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามมาตรฐานการศึกษา อันได้แก่ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดเป็นระบบ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
          การจัดการเรียนการสอนที่ผู้เรียนเป็นสำคัญ
          การบริหารจัดการการเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วมและเป็นระบบ 
          การร่วมกันวางแผนและร่วมกันปรับปรุง ร่วมกันปฏิบัติตามแผนร่วมกันตรวจสอบประเมินผล โดยใช้ผลจากการประเมินมาปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
          การใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาการตนเอง การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้ก้าวทันโลก และนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน
          ตลอดระยะเวลา 14 ปีของการจัดตั้ง สมศ. สถานศึกษาเกิดการรับรู้ ผู้บริหาร ครู เริ่มตื่นตัว มีความเข้าใจการประเมินที่ดีขึ้น ได้สะท้อนผลด้านจุดแข็ง จุดบกพร่อง เสนอแนะทิศทางสู่เป้าหมายการจัดการศึกษา เพื่อสร้างจุดเปลี่ยนเพื่อการพัฒนาให้กับสถานศึกษา โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการสร้างคนคุณภาพเพื่อที่จะเป็นบุคลากรที่มีศักยภาพให้การสร้างการแข่งขันให้กับประเทศไทย เพื่อให้สถานศึกษาได้นำผลการประเมินไปวางแผนพัฒนาให้ดีขึ้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งสถานศึกษา โดยตัวอย่างของสถานศึกษาที่นำผลการประเมินไปปรับปรุงเพื่อการพัฒนา อาทิ โรงเรียนบ้านกลาง จังหวัดชุมพร (สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1) วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กรุงเทพมหานคร เป็นต้น
          ปัจจุบัน “ครูไทย” นอกจากการเตรียมการสอน การพัฒนาระบบการสอน การให้คำปรึกษานักเรียนนักศึกษา การประกันคุณภาพภายใน ฯลฯ อันเป็นหน้าที่พื้นฐาน ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสร้างผลงานให้สอดคล้องกับนโยบายของสถานศึกษาเพื่อให้รางวัลพิเศษอื่นๆ อาทิ การพัฒนา 6 ด้านเพื่อรับรางวัลโรงเรียนพระราชทานของกระทรวงศึกษาธิการ การพัฒนา 63 ตัวชี้วัด เพื่อรางวัลโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ของกระทรวงสาธารณสุข รางวัลโรงเรียนศรีตำบล รางวัลโรงเรียนในฝัน และรางวัลต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม สมศ. เล็งเห็นประโยชน์จากการได้รางวัลดังกล่าว โดยสถานศึกษาต้องประเมินความพร้อมตามบริบทของโรงเรียนและสถานศึกษาตนเองที่มีความสอดคล้องกับรางวัลดังกล่าว มิใช่สร้างเนื้อหาให้สอดคล้องเพียงเพื่อรับการประเมิน ซึ่งจะส่งผลต่อภาระที่เพิ่มภาระให้แก่บุคลากรครู อย่างไรก็ตาม สมศ. มุ่งหวังให้ประเทศไทยมีหน่วยงานวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพ สะท้อนความเป็นจริงของปัญหาระบบการศึกษาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยปัจจุบันประเทศไทยมีแต่งานวิจัยที่ด้อยคุณภาพ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบการศึกษา อันเกิดจากหัวข้อวิจัยไม่เป็นประโยชน์ การหยิบยกกลุ่มตัวอย่างที่ผิดหลักการวิจัย การออกแบบการวิจัย ฯลฯ อันจะชี้นำสังคมไปทางที่ผิด ทั้งนี้งานวิจัยที่ สมศ. มุ่งหมายให้มีเกิดขึ้นได้แก่ การวิจัยการนำผลการประเมินของหน่วยงานประเมินไปใช้จริงในสถานศึกษา การเปรียบเทียบเรื่องการประเมินมาตรฐานการศึกษาในสถานศึกษาในอาเซียน ฯลฯ ศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ กล่าวสรุป
          สำหรับคณาจารย์ นักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือประชาชนทั่วไป สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สํานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือเข้าไปที่ www.onesqa.or.th
 

ข่าวสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา+คุณภาพการศึกษาไทยวันนี้

สมศ. เปิดโมเดลการประเมิน 4 ประเทศ ยกระดับการประเมินคุณภาพการศึกษาไทยสู่สากล

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เปิดโมเดลการประเมินของ 4 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์ โดยพบว่ากรอบการดำเนินงานในการประเมินคุณภาพการศึกษาของทั้ง 4 ประเทศ ล้วนมีความแตกต่างตามบริบทของประเทศ ทั้งนี้ สมศ. ยังเผยวาระเร่งด่วนในการทำงานของ สมศ. โดยกำลังดำเนินงานวางแผนรูปแบบวิธีการประเมินคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทประเทศไทยและนโยบายการปฏิรูปการศึกษาของรัฐบาล โดยคาดว่ารูปแบบวิธีการประเมินของ สมศ. จะสามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้เร็ว ๆ

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศ... สมศ. จับมือกลุ่มประเทศยุโรป เตรียมนำร่องประเมินคุณภาพ หน่วยประเมิน 6 ชาติอาเซียน ปี 60 — สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน) หรือ...

สมศ. เผย 10 จังหวัดการศึกษาดีเยี่ยม ได้คุณภาพการศึกษาไทย แนะกลยุทธ์ประเมินการศึกษารองรับอาเซียน

ศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เปิดเผย 10 รายชื่อจังหวัดที่มีสถิติคุณภาพการศึกษาไทยอยู่ในระดับดีมาก พร้อม...

สมศ. ประเดิมเปิดรายชื่อ 10 จังหวัดคุณภาพ และสถิติคุณภาพการศึกษาไทย

· สมศ. เผยผลการประเมินคุณภาพเชิงพื้นที่ สู่การยกระดับการศึกษาบูรณาการแผนพัฒนาการศึกษารายจังหวัดรองรับการเปิดเสรีอาเซียน · สมศ. ชี้ปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผลต้องตั้งต้นจากผลประเมินฯ สมศ. พร้อมเตรียมสรุปผลประเมินการศึกษาทั่วประเทศ รอบ 3...

ภาพข่าว: สมศ. จัดประชุมทางวิชาการระดับชาติประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ปรับทิศทาง “ประเมินเพื่อพัฒนา”

ดร. นลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน การประชุมทางวิชาการระดับชาติประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ “การประกันคุณภาพการศึกษาไทยใต้ร่มพระบารมี” ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 12 ปี...

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานรับรองมาตรฐานและป... สมศ. ผนึก สกร. ร่วมประเมินนำร่องตัวชี้วัดประกันคุณภาพภายนอกเขตบางบอน — เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. ลงพื้นที่ทด...

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานรับรองมาตรฐานและป... ศาสตราจารย์ ดร.องอาจ นัยพัฒน์ รับตำแหน่งผู้อำนวยการ สมศ. — เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. ร่วมแสดงความยินดีกับ "ศ...

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศ... เปิดมุมมองการประเมินคุณภาพภายนอกปี 2567 - 2571 ในรูปแบบ "การประเมินเพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา" — สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. เป...