นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายของ บริษัท เอส 11 กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ S11 เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ S11 ในราคาหุ้นละ 5.30 บาท ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ประมาณ 20.38 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้น จากผลกำไรสุทธิของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจ และมีส่วนลดให้กับนักลงทุนกว่าร้อยละ 50 เมื่อเปรียบเทียบกับ PER ของคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน
โดย S11 จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นร้อยละ 13.05 ของทุนชำระแล้วภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แบ่งเป็นการเสนอขายต่อบุคคลทั่วไปประมาณ 52.5 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณบริษัทฯ ประมาณ20 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อนักลงทุนสถาบันประมาณ 7.5 ล้านหุ้น มีบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายในครั้งนี้ พร้อมทั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเปิดให้จองซื้อหุ้น IPO ระหว่างวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ 2558 และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ ได้ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "S11"
“การกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอของ S11 ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม และมีความน่าสนใจอย่างมาก เนื่องจาก S11 เป็นบริษัทที่มีศักยภาพและมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้มาอย่างยาวนาน ในระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อตั้ง บริษัทฯ มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาขายหุ้น IPO ที่ 5.30 บาท/หุ้น มีส่วนลดให้กับนักลงทุนในระดับที่น่าสนใจ จึงมั่นใจว่าหุ้น S11 จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” นายชาญชัย กล่าว
ด้านนายสุรศักดิ์ เข็มทองคำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 11 กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ S11 เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการและขยายธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีศักยภาพทางการเงินแข็งแกร่ง นำมาซึ่งความพร้อมในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้าเพิ่มขึ้น และจากการมีช่องทางการระดมทุน ทำให้เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ ตลอดจนขยายส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่มขึ้นในอนาคต
สำหรับเป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าอัตราการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ในแต่ละปี เมื่อเทียบกับยอดสัญญาปล่อยใหม่ในปีก่อนหน้า และกำหนดเป้าหมายในการรักษาสัดส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อลูกหนี้หลังหักดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ไม่ถือเป็นรายได้ที่ระดับไม่เกินร้อยละ10ในสภาวะปกติและไม่เกินร้อยละ15ในสภาวะไม่ปกติ มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อไปที่ตลาดเดิม เนื่องจากมีช่องทางที่เข้าถึงจำนวนลูกค้าได้อีกมาก แม้การแข่งขันในตลาดจะค่อนข้างรุนแรง แต่ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถมีส่วนแบ่งการตลาดในทุกพื้นที่ที่เข้าไปทำการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงความสามารถในการแข่งขันที่ดี
ทั้งนี้ ในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา (30 กันยายน 2557) สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อในแต่ละพื้นที่ของบริษัทฯ ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70.6 พื้นที่ชลบุรี ร้อยละ 17.30 อยุธยา ร้อยละ 8.65 ฉะเชิงเทรา ร้อยละ 0.98 ระยอง ร้อยละ 1.97 จันทบุรี ร้อยละ 0.48 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความตั้งใจขยายธุรกิจไปยังทุกภูมิภาคของประเทศที่น่าสนใจ เพื่อปล่อยสินเชื่อที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์กับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศให้เพิ่มขึ้น
“ทีมผู้บริหารบริษัทฯ อยู่ในธุรกิจการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มายาวนานกว่า 20 ปี ทำให้เรามีความเข้าใจในการประกอบธุรกิจนี้อย่างลึกซึ้ง ประกอบกับ การมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละส่วนงานที่คอยสนับสนุนภาพรวมธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถทำงานได้อย่างมีระบบและรวดเร็ว พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตขึ้นได้มาก นอกจากนี้ บริษัทฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์มาอย่างยาวนาน และยังมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับตัวแทนจำหน่ายอย่างใกล้ชิด โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ ทำให้เรามีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต” นายสุรศักดิ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของบริษัทฯ นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ มา ในปี 2554 – 2556 มีรายได้รวมเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 75.36 ล้านบาท 400.24 ล้านบาท และ 689.49 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิอยู่ที่ 10.69 ล้านบาท 75.10 ล้านบาท และ 116.31 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนแรก ปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 677.99 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับงวด 9 เดือนของปีก่อน มีรายได้รวม 528.97 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.17 ขณะที่กำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 2557 อยู่ที่ 148 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 106.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.45 และมากกว่ากำไรสุทธิของทั้งปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 116.31 ล้านบาทแล้ว โดยสาเหตุหลักที่รายได้รวมและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาจากการเพิ่มยอดขายของร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อื่น ทำให้ S11 ได้ขยายการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อมากขึ้นด้วย
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ รับรางวัล Top 10 Developers 2025
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ รับรางวัล The Most Powerful Brand in Real Estate 2025
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปลี่ยนขยะใบไม้ให้กลายเป็นดินปลูก ด้วยโครงการ WASTE TO WELL-BEING
แสนสิริ จับมือ 11 แบงก์ชั้นนำ มอบสินเชื่อบ้านรักษ์โลก สนับสนุนประเทศสู่สังคม Net-Zero ยั่งยืน
InnovestX จับมือ LH Fund เปิด IPO "LH GLOBAL ENHANCED FUND"
ถอนเงินไม่ใช้บัตร ได้ง่ายและสะดวกขึ้น ผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็มทั่วประเทศ
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ รับ 4 รางวัลเกียรติยศจาก PropertyGuru Thailand Property Awards 2025
LH Bank จับมือ ไทยไพบูลย์ประกันภัย ออกเงินฝากออมทรัพย์คุ้มครองชีวิต B You Care พร้อมรับความคุ้มครองอุบัติเหตุ 24 ชั่วโมงทั่วโลก สูงสุด 20 เท่าของเงินฝาก วงเงินคุ้มครองสูงสุด 20 ล้านบาท