ทีเส็บชู Thailand MICE Venue Standard

06 Feb 2015
สร้างมาตรฐานสถานที่จัดประชุมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์อาเซียน

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บเปิดเกมรุกรับศักราชใหม่ เร่งเครื่องพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ไทยรองรับตลาดที่กำลังเติบโต ส่งเสริมบทบาทผู้นำอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาค พร้อมผลักดันสถานประกอบการไมซ์ไทยยกระดับคุณภาพให้ได้มาตรฐานริเริ่มโครงการ Thailand MICE Venue Standard ขึ้นเป็นประเทศแรกในอาเซียน ล่าสุดประเทศสมาชิกอาเซียนยอมรับใช้เป็นแนวทางพัฒนามาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ของภูมิภาค เดินหน้าจัดงานมอบตราสัญลักษณ์ให้กับสถานประกอบการไมซ์ไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเป็นครั้งแรก 42 แห่ง ทั่วประเทศ

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองผู้อำนวยการสายงานบริหารและสนับสนุนกลยุทธ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยเนื่องในงานพิธีมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standard) และงานสัมมนา “MICE Standard day 2015 ว่า “ทีเส็บตระหนักดีว่าคุณภาพสินค้าและบริการถือเป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมตลาด เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศไทยก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อีกทั้งอุตสาหกรรมไมซ์ถือเป็นธุรกิจใหม่ที่มีกำลังขยายตัวอย่างมากทั้งด้านปริมาณและรายได้ เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งประเทศไทยและอาเซียน

“ทีเส็บเห็นถึงความจำเป็นว่าควรมีเครื่องมือวัดมาตรฐานคุณภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเฉพาะในส่วนของสถานที่สำหรับการจัดงานไมซ์ เพื่อเป็นกรอบในการยกระดับมาตรฐานและเอื้อให้ผู้ประกอบการไมซ์ทั้งในไทยและอาเซียนมีหลักยึดในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจอย่างเป็นระบบทั้งด้านการลงทุน การบริหารจัดการและการส่งเสริมตลาด จึงได้ริเริ่มพัฒนามาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นประเทศแรกในกลุ่มประเทศอาเซียนเมื่อปี 2556 พร้อมกับเชิญชวนผู้ประกอบการไมซ์ไทยให้นำเอามาตรฐานนี้มาปรับใช้ ขณะเดียวกันได้ดำเนินการผลักดันมาตรฐานสถานที่จัดงานของไทยเข้าสู่การพิจารณาของประเทศสมาชิกอาเซียนในการประชุมพิเศษครั้งที่ 1 ว่าด้วยมาตรฐานห้องประชุมอาเซียน 1st Special Meeting on ASEAN MICE Venue Standard (AMVS) Category: Meeting Room ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เพื่อใช้เป็นแนวทางพัฒนามาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ของภูมิภาค และได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากประเทศสมาชิกที่จะใช้มาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ไทยเป็นต้นแบบในการพัฒนามาตรฐานของอาเซียนทั้งภูมิภาค”

นายจิรุตถ์ กล่าวต่อไปว่า ทีเส็บ ได้ดำเนินยุทธศาสตร์ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ควบคู่กันไปทั้งภายในประเทศและในกลุ่มอาเซียน เพื่อให้ทั้งประเทศไทยและอาเซียนเป็นจุดหมายปลายทางหลักของการจัดงานไมซ์ในลักษณะของการส่งเสริมธุรกิจอย่างเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน โดยประเทศไทยยังคงบทบาทผู้นำของอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคนี้

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ทีเส็บ ได้ดำเนินการเชิงรุกสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไมซ์ไทยใน 3 กลุ่มหลักที่มีห้องประชุม ประกอบด้วย กลุ่มศูนย์ประชุม กลุ่มโรงแรมหรือรีสอร์ท และกลุ่มหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมการตรวจประเมินมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ไทยใน 6 พื้นที่เป้าหมาย คือ เมืองไมซ์ซิตี้ทั้ง 5 แห่ง (กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และขอนแก่น) และหาดใหญ่ โดยมีผู้ประกอบการไมซ์สนใจเข้าร่วมรับการประเมินเป็นจำนวนกว่า 80 ราย ปัจจุบันมีสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานได้รับมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ทั้งสิ้น 42 แห่ง แบ่งเป็นกลุ่มศูนย์ประชุม 3 แห่ง กลุ่มโรงแรมหรือรีสอร์ท 34 แห่ง และกลุ่มหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 5 แห่ง รวมเป็นจำนวนห้องประชุม 114 ห้อง อาทิ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, Central World, Miracle Grand, ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีหาดใหญ่ และ SCB Training Center พัทยา เป็นต้น

“การรับมอบตราสัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นการการันตีถึงคุณภาพมาตรฐานของห้องประชุม อีกทั้งสถานประกอบการทั้ง 42 แห่งนี้ จะปรากฏอยู่ในรายชื่อสถานประกอบการไมซ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน (Approved list) และจะได้รับการประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลกในฐานะสถานที่จัดงานไมซ์ที่ได้มาตรฐานสากลด้วย ทั้งนี้ ทีเส็บตั้งเป้าหมายว่าในปี 2558 จะผลักดันให้มีสถานประกอบการไมซ์ไทยเข้าร่วมโครงการพัฒนาและประเมินมาตรฐานสถานที่จัดงานทั้งสิ้น 120 แห่ง โดยยังคงเน้นเมืองไมซ์ซิตี้เป็นหลัก และพื้นที่ที่มีศักยภาพ เช่น หัวหิน ราชบุรี กาญจนบุรี และนครราชสีมา เป็นต้น” นายจิรุตถ์ กล่าว

ทั้งนี้ ขั้นตอนการประเมิน ทีเส็บได้พิจารณาจากองค์ประกอบใน 3 ด้าน คือ 1) ด้านกายภาพ 2) ด้านเทคโนโลยี 3) ด้านบริการ ขณะที่ตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก คะแนนและเกณฑ์การประเมินของมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย แยกตามกลุ่มการประเมินของศูนย์ประชุม โรงแรมหรือรีสอร์ท และกลุ่มหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยหลักเกณฑ์การประเมินนั้น ทีเส็บได้ดำเนินการตามคู่มือการประเมินมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (ประเภทห้องประชุม) ซึ่งจัดทำขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่มีบทบาทเกี่ยวกับกิจกรรมการจัดประชุมและการท่องเที่ยว ได้แก่ สมาคมโรงแรมไทย สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ และนักวิชาการจากคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล

สำหรับการพัฒนาต่อยอดโครงการ Thailand MICE Venue Standard ในอนาคตนั้น นายจิรุตถ์ เปิดเผยว่า ทีเส็บทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลในการพัฒนาแผนแม่บท 5 ปี (2558-2562) มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย ขณะเดียวกันจะเร่งดำเนินการพัฒนาผู้ประกอบการไมซ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานควบคู่กันไปด้วยในหลายๆ ด้าน เช่น องค์ความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการศูนย์ประชุม (Venue Management Course) โดยความร่วมมือกับ TEA และ TICA รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ออกไปให้ความรู้แก่หน่วยงานที่ยังไม่ได้ผ่านการประเมินเพื่อเร่งการพัฒนาและโน้มนำเข้าสู่โครงการตรวจประเมินรับรองมาตรฐานต่อไป

การดำเนินงานส่งเสริมมาตรฐาน Thailand MICE Venue Standard นั้น ทีเส็บ ได้ดำเนินกลยุทธ์ขับเคลื่อนพร้อมกับการผลักดัน Asean MICE Venue Standard เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ของอาเซียนให้มีมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งในการประชุมพิเศษครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2557 สมาชิกประเทศอาเซียนที่เข้าร่วมประชุมต่างเห็นพ้องต้องกันในการนำมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทยเป็นต้นแบบพัฒนามาตรฐานสถานที่จัดงานของอาเซียนต่อไป และเสนอให้ประเทศไทยจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ หรือ ASEAN MICE Venue Standard Workshop เพื่อสร้างความเข้าใจในอุตสาหกรรมไมซ์ของอาเซียนให้ตรงกันอีกครั้งในวันที่ 30-31 มีนาคมนี้

“ทีเส็บ มุ่งหวังว่าการมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย หรือ Thailand MICE Venue Standard ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ จะช่วยสร้างความตื่นตัวให้แก่ผู้ประกอบการไมซ์ไทยในการพัฒนาศักยภาพตนเอง และสร้างความมั่นใจแก่ผู้จัดงานไมซ์ทั้งในและต่างประเทศในการดึงงานไมซ์มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในอนาคตเมื่อมาตรฐานนี้ได้รับการพัฒนายกระดับเป็นมาตรฐานของอาเซียน ผู้ที่เริ่มพัฒนาก่อนโดยมีความพร้อมกว่าย่อมมีความได้เปรียบมากกว่าในแง่ของการตลาดและการแข่งขัน” นายจิรุตถ์กล่าวสรุป