“ฤดูน้ำแดง” ส่วนมากจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายนของทุกปี จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่น้ำในแม่น้ำลำคลองเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปริมาณฝนจำนวนมากที่ตกหนักชะล้างหน้าดินและพัดพาตะกอนธาตุอาหารต่างๆ ลงสู่แม่น้ำลำคลองทำให้กลายเป็นสีแดง ช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้จะเป็นช่วงที่คุณภาพน้ำมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้สัตว์น้ำผสมพันธุ์และวางไข่ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มปริมาณทรัพยากรสัตว์น้ำให้แก่แหล่งน้ำจืดในธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ช่วงระยะเวลานี้จึงไม่ควรทำการจับสัตว์น้ำเนื่องจากจะส่งผลทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำถูกทำลายเป็นจำนวนมาก
ดร.จุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศห้ามทำการประมงในน่านน้ำจืดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม – 15 กันยายน ของทุกปี เพื่อสงวนพันธุ์สัตว์น้ำจืดที่กำลังมีไข่และวางไข่เลี้ยงลูกไว้ไม่ให้ถูกทำลายเกินสมควร โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ห้ามมิให้ผู้ใดทำการประมงด้วยเครื่องมือประมงที่มีประสิทธิภาพทำลายล้างสูงทำการประมง หรือด้วยวิธีใดๆ ในที่จับสัตว์น้ำจืดในท้องที่ทุกจังหวัดเด็ดขาด โดยยกเว้นทำการประมงในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ สำหรับการทำประมงเพื่อประโยชน์ทางวิชาการ หรือรวบรวมลูกสัตว์น้ำหรือสัตว์น้ำวัยอ่อนเพื่อวัตถุประสงค์ในการเพาะเลี้ยงซึ่งจะต้องได้รับหนังสืออนุญาตจากอธิบดีกรมประมงก่อน ซึ่งในประกาศฉบับนี้ได้ยกเว้นเครื่องมือประมงบางประเภท ได้แก่ เบ็ดทุกชนิด เว้นแต่เบ็ดราว ตะแกรง สวิง ช้อน ยอ และชนาง ซึ่งมีขนาดปากกว้างไม่เกิน 2 เมตร ไซ ตุ้ม อีจู้ ลัน โปง และโทง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพพื้นที่และสภาพภูมิอากาศในบางพื้นที่ของประเทศมีความแตกต่างกัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงประกาศให้บางจังหวัดมีการคุ้มครองปลาน้ำจืดมีไข่ฯ แตกต่างกันออกไป ได้แก่ จ.นครนายก พังงา ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม-31 สิงหาคม / จ.ลำพูน ลำปาง นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน-30 กันยายน / จ.หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน-15 ตุลาคม / จ.นราธิวาส ระหว่างวันที่ 1 กันยายน-31 ธันวาคม / จ.พัทลุง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม-31 มกราคม ทั้งนี้หากมีผู้ฝ่าฝืนตามประกาศดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับการจัดพิธีเปิดงานวันคุ้มครองปลาน้ำจืดมีไข่ฯ หรือฤดูน้ำแดงประจำปี 2558 กรมประมงได้เลือกจัดพิธีเปิดงานที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งแม่น้ำปราจีนบุรีเป็นแม่น้ำที่คงความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์น้ำอยู่มาก จึงถือเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงผู้คนในจังหวัดปราจีนบุรีมาอย่างยาวนานทั้งอุปโภคบริโภคองค์การเกษตรและอุตสาหกรรม ดังนั้น การให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดได้เกิดความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น ซึ่งความรู้ด้านประมงที่กรมประมงได้นำมาจัดแสดง
ในวันนี้ ล้วนแต่จะเป็นพื้นฐานสำคัญให้ประชาชนในพื้นที่ได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรในท้องถิ่นของตนเอง ซึ่งนอกทางกรมประมงจะได้ดำเนินการควบคุม ป้องกัน ตรวจติดตามและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในช่างการประกาศใช้กฏหมายนี้ ทางชุมชนก็จะได้เข้ามามีส่วนด้วยการจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรประมง และอาสาสมัครอนุรักษ์สัตว์น้ำ เพื่อทำหน้าที่อนุรักษ์และเป็นผู้ร่วมเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ร่วมกับของเจ้าหน้าที่กรมประมง
ท้ายนี้ กรมประมงขอความร่วมพี่น้องประชาชน ชาวประมงงดจับปลาน้ำจืดในช่วงมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน เพื่อเปิดโอกาสให้สัตว์น้ำจืดทุกชนิดได้แพร่ขยายพันธุ์ ซึ่งเป็นการอนุรักษ์สัตว์น้ำจืดให้คงความสมบูรณ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนสืบไป
วิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร เปิดรับนักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2569
NPS จัดกิจกรรม "รักษ์พลังงาน สร้างสุขให้ชุมชน" ให้แก่ชุมชนในพื้นที่
NPS จัดโครงการ "อาชีพมั่นคง ชุมชนยั่งยืน" ครั้งที่ 2 เพิ่มทักษะทำขนมไทย สร้างรายได้ให้ชุมชน
วิหาร "อี่ ทง เทียน ไท้" กบินทร์บุรี ชวนศาสนิกชนร่วมพิธีขอพร - เบิกทรัพย์ รับมงคลทั้ง 8 ทิศ ในวันมหามงคลฤกษ์ "โป๊ยเซียนกั้วไห่"
สกพอ. ผนึก ม.ธรรมศาสตร์ เปิดผลการศึกษาขยายพื้นที่ อีอีซี ปลุกพลังคนปราจีนบุรี ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน
ฮอนด้า รวมพลังสร้างพื้นที่สีเขียว ผ่านโครงการ ฮอนด้าปลูก "รักษ์" เพื่อโลก พาพนักงานอาสาสมัครร่วมกับชุมชน กว่า 200 คน ปลูกต้นไม้ 3,000 ต้น คืนความสมบูรณ์ให้ป่าชุมชนบ้านหว้าเอน จังหวัดปราจีนบุรี
"ประกันติดโล่" ร่วมมือ คปภ. ส่งเสริมความรู้ด้านประกันภัย พ.ร.บ. ให้เยาวชนและพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม จ.ปราจีนบุรี
สกพอ. เปิดเวทีรับฟังความเห็นทุกภาคส่วน จังหวัดปราจีนบุรี เพิ่มการมีส่วนร่วมขยายพื้นที่ อีอีซี สร้างโอกาสพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
ททท.สำนักงานนครนายก ชวนเที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน "PRACHINBURI" Night at The Museum ครั้งที่ 3