สจล. ผนึก ขสมก. เปิดทดสอบเส้นทางนำร่องรถเมล์ไฟฟ้าสาย สจล. – แอร์พอร์ตลิงค์ลาดกระบัง พร้อมเตรียมจับมือนำเทคโนโลยียกระดับระบบขนส่งมวลชนประเทศ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดทดสอบเส้นทางนำร่องรถเมล์ไฟฟ้าสาย สจล. – แอร์พอร์ตลิงค์ลาดกระบัง โดยรถเมล์ดังกล่าวใช้เวลาในการชาร์จไฟฟ้า 4-5 ชั่วโมง วิ่งได้ในระยะทาง 250 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในตัวรถก็ยังมีการออกแบบให้ทันสมัย สะดวกต่อพฤติกรรมในการขับขี่ มีระบบสตาร์ทรถแบบไร้กุญแจ มีทางขึ้น-ลงให้กับรถเข็นผู้พิการ ตลอดจนมีความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ทั้งนี้ หากในอนาคตประเทศไทยมีการนำรถเมล์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในระบบขนส่งมวลชนขึ้นจริง ก็จะสามารถช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลได้ถึง 120 ล้านลิตรต่อปี จากปริมาณรถโดยสารในปัจจุบันที่มีกว่า 3 พันคัน อีกทั้งยังสามารถลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 0.32 ล้านตันต่อปี ทั้งนี้ สจล. และ ขสมก. ยังได้ลงนามร่วมมือพัฒนาระบบส่งมวลชนของกรุงเทพมหานคร อาทิ การสนับสนุนด้านวิชาการด้านวิศวกรรม การส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาให้เกิดนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ในอนาคต พร้อมตั้งเป้าผลสัมฤทธิ์จากความร่วมมือในเชิงรูปธรรม ผ่านการใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีสนับสนุนระบบขนส่งมวลชน อาทิ ระบบ การบริหารจัดการขนส่งมวลชน ระบบจีพีเอสควบคุมการเดินรถ ระบบชาร์จพลังงานสำหรับรถเมล์ไฟฟ้า เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน สจล. กำลังศึกษาค้นคว้าในการพัฒนารถเมล์ไฟฟ้าขึ้นใช้เองในอนาคตเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด “รากฐานนวัตกรรมสร้างชาติ: The Nation of Innovation” ในการเป็นสถาบันการศึกษาเพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศไทย 
          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กรุงเทพฯ หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8111 หรือเข้าไปที่ www.kmitl.ac.th 

          ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รักษาการแทนอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ในแต่ละวันมีผู้ใช้บริการรถเมล์ราว 5 ล้านคนหรือ ประมาณกว่า 80 % ของยอดผู้ใช้บริการระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ โดยปัจจุบันมีรถเมล์ให้บริการจำนวนกว่า 3,000 คัน ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นระบบขนส่งมวลชนหลักที่ประชาชนใช้ในการสัญจรมากที่สุด อย่างไรก็ตาม รถเมล์ส่วนใหญ่นั้นผ่านการใช้งานมานาน 18 - 20 ปี สภาพรถจึงเก่าและทรุดโทรม 

          ทำให้ผู้ใช้บริการไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง มีรถจอดเสียในเส้นทางบ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีการปล่อยควันดำ สร้างมลพิษทางอากาศอันจะส่งผลกระทบต่อมนุษย์ และระบบนิเวศได้ สจล. ในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศได้ตระหนักถึงความสำคัญของระบบคมนาคม และอนาคตของสังคมไทย จึงได้ร่วมมือกับ ขสมก. ในการเปิดทดสอบเส้นทางนำร่องรถเมล์ไฟฟ้า สจล. – แอร์พอร์ตลิงค์ โดยมีเส้นทางการวิ่งภายในสถาบัน จากนั้นมุ่งหน้าไปยังรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์สถานีลาดกระบัง เพื่อทดสอบสมรรถนะ และคุณสมบัติของรถเมล์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นแนวโน้มของโลกเพื่อเป็นอีกทางเลือกของการสัญจรที่ประหยัดพลังงาน ไร้มลพิษ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมด้วยการนำเทคโนโลยีสนับสนุนระบบขนส่งมวลชนของทางสถาบันมาประยุกต์ใช้กับการเดินรถเมล์ไฟฟ้าในสภาพจริง เพื่อให้เห็นถึงประโยชน์ และอุปสรรคในการใช้งานเทคโนโลยี รวมถึงเกิดการสะท้อนถึงความคิดเห็นของผู้ใช้บริการ อันจะเป็นแนวทางในการพัฒนาระบบให้เหมาะสมแก่การใช้งาน และตอบสนองต่อความต้องการประชาชนต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ดี การเปิดทดสอบเส้นทางรถเมล์ไฟฟ้าในครั้งนี้ก็ยังถือเป็นการตอบโจทย์ความตั้งใจในการเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดใช้เส้นทางรถเมล์ไฟฟ้าสำหรับนักศึกษา และบุคลากรอีกด้วย
          โดยภายในตัวรถเมล์ไฟฟ้ามีการออกแบบให้ทันสมัย สะดวกต่อพฤติกรรมในการขับขี่ มีระบบสตาร์ทรถแบบไร้กุญแจ
มีทางขึ้น-ลงให้กับรถเข็นผู้พิการ ตลอดจนมีความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ในการป้องกันน้ำ ความร้อน และการลัดวงจร โดยมีความจุแบตเตอรี่ 324 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ใช้เวลาในการชาร์จไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 5 ชั่วโมง และวิ่งได้ในระยะทาง 250 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งนี้ หากในอนาคตประเทศไทยมีการนำรถเมล์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในระบบขนส่งมวลชนขึ้นจริง ก็จะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการคมนาคม ที่ทุกภาคส่วนจะต้องให้ความสนใจ โดยหากว่ามีการเปลี่ยนจากรถเมล์ปกติมาใช้รถเมล์ไฟฟ้า 3,000 คัน ก็จะสามารถช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลได้ถึง 120 ล้านลิตรต่อปี อีกทั้งยังสามารถลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 0.32 ล้านตันต่อปี โดยที่การเปลี่ยนมาใช้รถเมล์ไฟฟ้า 1 คัน จะเทียบเท่ากับการลดการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ 33 คัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษของรถเมล์ไฟฟ้าคือ ไร้มลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน สจล. กำลังศึกษาค้นคว้าในการพัฒนารถเมล์ไฟฟ้าขึ้นใช้เองในอนาคตเช่นกัน อันสอดคล้องกับแนวคิด “รากฐานนวัตกรรมสร้างชาติ: The Nation of Innovation”
          ในขณะเดียวกัน สจล. ก็ได้ร่วมมือกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวิชาชีพวิศวกรรมระหว่างทั้งสององค์กร โดย สจล. ได้รับความไว้วางใจในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการวิศวกรรมให้
เกิดเป็นรูปธรรม ร่วมด้วยการใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีสนับสนุนระบบขนส่งมวลชน ที่ทางสถาบันคิดค้น และศึกษาวิจัยเอาไว้อย่างหลากหลาย อาทิ ระบบการบริหารจัดการขนส่งมวลชน ระบบจีพีเอสควบคุมการเดินรถ ระบบชาร์จพลังงานสำหรับรถเมล์ไฟฟ้า เป็นต้น อีกทั้งยังดำเนินการด้านการฝึกอบรมพนักงานในเรื่องสำคัญต่างๆ ที่จะช่วยในการพัฒนาทักษะ และความสามารถของบุคลากร ขสมก. เช่น การส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่และให้บริการ การตรวจซ่อมบำรุงรักษาเครื่องยนต์ การตรวจรับและเช็คสภาพรถ การประหยัดพลังงานของรถโดยสาร อันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคม องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และประชาชนผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะต่อไป
          ด้าน นางปราณี ศุกระศร กรรมการบริหารกิจการองค์การ และรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขน­ส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ขสมก. ในฐานะองค์การระดับชาติ ที่ให้บริการด้านการขนส่งรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพบริการที่สะดวก ทันสมัย และปลอดภัย จึงได้ร่วมมือกับ
สจล. ในการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ โดย ขสมก. จะดำเนินการในการเป็นศูนย์เรียนรู้การซ่อมบำรุงรักษารถโดยสาร ให้นักศึกษา สจล. ได้มาฝึกงาน แลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อเป็นประสบการณ์สำหรับการทำงานในอนาคต และเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านคมนาคมของประเทศ ด้วยการลงนามใน “บันทึกความร่วมมือด้านวิชาการ และวิชาชีพวิศวกรรม ระหว่าง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ของการลงนามครอบคลุม 4 เรื่อง ได้แก่ การให้ความร่วมมือด้านความรับผิดชอบทางสังคม (CSR) การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวิชาชีพวิศวกรรมระหว่างทั้งสององค์กร การสนับสนุนด้านวิชาการด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับภารกิจหน้าที่ของ ขสมก. และการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ และนวัตกรรมในอนาคตของรถโดยสาร ขสมก. ที่มีขอบข่ายของความร่วมมือเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 6 ปี นับตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2558 ถึงวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 โดยกิจกรรมการลงนามความร่วมมือดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กรุงเทพฯ หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8111 หรือเข้าไปที่ www.kmitl.ac.th
 

ข่าวสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง+พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังวันนี้

โครงการ Creative Cultural District (CCD)

โครงการ Creative Cultural District (CCD) ได้รับการสนับสนุนและดำเนินงานโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) พร้อมร่วมดำเนินงานโดย คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ "ต้นแบบพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Cultural District CCD)" ที่มุ่งค้นหาอัตลักษณ์ พัฒนากระบวนการเรียนรู้ และสร้างความร่วมมือระหว่างคนในชุมชน ภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา เพื่อยกระดับ

คณะทันตแพทยศาสตร์ อินเตอร์ ของสถาบันเทคโน... คณะทันตแพทยศาสตร์ สจล. เปิดรับรุ่นที่ 5 ปั้นทันตแพทย์อินเตอร์สู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีทันตกรรม — คณะทันตแพทยศาสตร์ อินเตอร์ ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าค...

นายปิยะ เตชากูล (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้... ATP30 รับมอบรถตู้ไฟฟ้า 100% ภายใต้โครงการ EV Smart Transform — นายปิยะ เตชากูล (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP...

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดก... สจล. เปิดระบบสมัครเรียนต่อแบบใหม่ "iFolio" เป็นมหาวิทยาลัยแรกของประเทศ — สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ( สจล. ) จัดกิจกรรม KMITL OPEN HOU...

นายสุวัชชัย วงษ์เจริญสิน ประธานกรรมการ นา... CPL จัดอบรมสัมมนาเสริมแกร่งเพิ่มศักยภาพจาก AI สู่ธุรกิจที่ยั่งยืน — นายสุวัชชัย วงษ์เจริญสิน ประธานกรรมการ นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหา...

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดีส... โตไกมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่อธิการบดี สจล. — รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เข้...