กระตุ้นคนไทยใส่ใจตรวจวัดระดับวิตามินดี จุดเริ่มต้นการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ลดเสี่ยงโรคกระดูกพรุน หัวใจ มะเร็ง และแก่ก่อนวัย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย คุณจิราพร วงษ์สวรรค์ (ขวาสุด) Head of Account Management จัดงานแถลงข่าว “คุณมี D พอหรือยัง” เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวิตามินดี พร้อมรณรงค์ให้คนไทยหันมาให้ความใส่ใจต่อการดูแลสุขภาพให้ได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน เพราะวิตามินดีมีความสำคัญต่อสุขภาพองค์รวม ช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน นอกจากนั้น ระดับวิตามินดีต่ำยังมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคมะเร็งด้วย โดยได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ (กลาง) และแขกรับเชิญพิเศษคุณกาละแมร์– พัชรศรี เบญจมาศ (ซ้ายสุด) มาร่วมพูดคุย ณ โรงแรม แกรนด์ มิลเลเนียม สุขุมวิท
          นายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ แพทย์ที่ปรึกษาเวชศาสตร์ครอบครัว ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลพญาไท 2กล่าวว่า “จากการศึกษาวิจัยพบว่า คนไทยวัยทำงานมากกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 36.5[i] ขาดวิตามินดี ซึ่งวัดจากระดับวิตามินดีในเลือดที่มีค่าต่ำกว่าปกติ คือ มีระดับวิตามินดีในเลือดต่ำกว่า 20 ng/ml โดยผู้ที่มีระดับวิตามินดีต่ำที่สุด มีวิตามินดีในเลือดเพียง 9.95 ng/ml ทั้งๆ ที่ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนและมีแดดจ้า แต่คนไทยวัยทำงานส่วนใหญ่กลับมีระดับวิตามินดีไม่เพียงพอ โดยเฉพาะคนในเขตกรุงเทพมหานครที่ประชากรถึงร้อยละ 64.6[ii] มีสถิติของการพร่องวิตามินดีหรือมีระดับวิตามินดีที่ไม่เพียงพอที่จะทำให้มีสุขภาพกระดูกและสุขภาพทั่วไปเป็นปกติ เพราะวิตามินดีเป็นวิตามินที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เองเมื่อผิวหนังสัมผัสกับแสงอาทิตย์ที่มีรังสีอัลตราไวโอเลตบี(UVB) แต่ปัจจุบันพฤติกรรมคนเมืองหรือคนวัยทำงาน มักจะหลีกเลี่ยงแสงแดด นั่งทำงานในห้องแอร์นานๆ นิยมออกกำลังกายในที่ร่ม ส่วนสาวๆ ก็กลัวผิวดำ ผิวเสีย จึงทาครีมกันแดดที่มาสารป้องกัน (SPF) ในระดับสูง ซึ่งครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ลดการดูดซึมวิตามินดีถึงร้อยละ 99[iii],4 หรือแม้แต่มลภาวะ ฝุ่นควัน และกระจกใส ก็สามารถกั้นรังสี UVB ให้สัมผัสกับผิวหนังเราน้อยลง จึงทำให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดีได้ไม่เพียงพอ ขณะที่พบว่าประชากรกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วโลกขาดวิตามินดีหรือได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอ[iv]”
          นอกจากการได้รับแสงแดดไม่เพียงพอจะเป็นสาเหตุของการขาดวิตามินดีแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามินดีอีก ได้แก่ ผู้ที่มีผิวคล้ำ, ผู้ที่มีภาวะอ้วนมาก, ผู้ที่ไม่ได้รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินดี, ผู้สูงอายุ (อายุเกิน 50 ปี), สตรีวัยหมดประจำเดือน, ผู้ที่ได้รับยากันชัก หรือยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน, สตรีตั้งครรภ์ หรืออยู่ในภาวะให้นมบุตร, ผู้ที่เป็นโรคระบบลำไส้ทำให้การดูดซึมวิตามินดีลดลง และผู้ป่วยโรคตับหรือไตเรื้อรัง
          “หลายๆ คนอาจยังไม่ทราบถึงคุณประโยชน์ที่สำคัญของวิตามินดี การได้รับวิตามินดีที่เพียงพอจะส่งผลดีต่อสุขภาพตลอดวัฏจักรของชีวิต เริ่มตั้งแต่อยู่ในครรภ์ วิตามินดีช่วยทำให้การเติบโตของทารกในครรภ์เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะครรภ์เป็นพิษหรือภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ และป้องกันการคลอดก่อนกำหนดด้วย[v] แต่หากมารดามีระดับวิตามินดีต่ำขณะตั้งครรภ์ อาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพต่างๆ ของลูกด้วย เช่น ปัญหาด้านโครงกระดูก และเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1[vi] นอกจากนั้น วิตามินดียังมีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ เพราะวิตามินดีช่วยกระตุ้นการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส[vii] มีงานวิจัยสมัยใหม่พบว่าหากขาดวิตามินดี แม้จะได้รับแคลเซียมในปริมาณมาก แต่ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมหรือเก็บแคลเซียมไปซ่อมแซมกระดูกได้ ตรงข้ามกับคนที่มีระดับวิตามินดีอยู่ในเกณฑ์ที่เพียงพอ แม้จะได้รับแคลเซียมในปริมาณน้อยแต่กลับพบว่าสามารถเพิ่มมวลกระดูกได้มากกว่า ซึ่งจากข้อมูลของมูลนิธิโรคกระดูกพรุนสากล (IOF) โรคกระดูกพรุนเป็นโรคที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะพบผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนทั่วโลกกว่า 200 ล้านคน[viii] ในขณะที่ร้อยละ 30 ของสตรีวัยหมดประจำเดือนมักจะเป็นโรคกระดูกพรุน[ix] โดยโรคกระดูกพรุนเป็นโรคที่มักจะไม่แสดงอาการใดๆ ผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุนมักจะรู้ตัวเมื่อกระดูกหักจากอุบัติเหตุแล้ว หรืออาจรู้ได้จากอาการปวดหลังที่เกิดจากกระดูกสันหลังหักหรือทรุดลง” น.พ. สันต์ อธิบายเพิ่มเติม
          นอกจากนั้น วิตามินดียังมีส่วนช่วยในการชะลอวัยของผิวพรรณได้[x] มีการศึกษาพบว่าระดับวิตามินดีต่ำเกี่ยวข้องกับความหย่อนยาน การมีรูขุมขนขยาย และการเกิดซีสต์บนผิวหนัง ดังนั้น วิตามินดีมีส่วนสำคัญในการสร้างผิวหนังและกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรง[xi] และยังมีงานวิจัยที่ชี้ว่า การมีระดับวิตามินดีต่ำส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของเซลล์และทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรคเบาหวานชนิดที่ 1[xii]นอกจากนี้ ระดับวิตามินดีสูงๆ ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง[xiii] และป้องกันผนังหลอดเลือดแข็งตัว[xiv] ที่สำคัญยังมีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าระดับวิตามินดีสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้[xv],[xvi] รวมทั้งมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย[xvii]
          “ดังนั้น จึงอยากรณรงค์ให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของวิตามินดี เริ่มต้นจากการตรวจวัดระดับวิตามินดี เพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองมีระดับวิตามินดีอยู่ในระดับใด เพราะแต่ละบุคคลมีความสามารถในการดูดซึมวิตามินดีได้ในระดับที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ทั้งพฤติกรรมและลักษณะ เช่น คนผิวดำจะสังเคราะห์วิตามินดีได้น้อยกว่าคนผิวขาว หรือโรคที่แต่ละคนเป็นนั้นแตกต่างกัน เป็นต้น และถึงแม้ว่าบางคนจะรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินดี ก็อาจจะมีระดับวิตามินดีไม่เพียงพอได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การประเมินระดับวิตามินดีในเลือดจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพื่อทำให้รู้ว่าคุณมีระดับวิตามินดีอยู่ในเกณฑ์ที่พอเพียงหรือไม่ เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ได้รับแสงแดดมากขึ้นและปรับการรับประทานอาหาร หรือรับการรักษาจากแพทย์เพื่อรับประทานวิตามินดีในขนาดที่เหมาะสมต่อไป” น.พ. สันต์ กล่าวสรุป
          ด้านแขกรับเชิญพิเศษอย่างคุณกาละแมร์ – พัชรศรี เบญจมาศ ซึ่งเป็นไอดอลด้านสุขภาพของสาวๆ หลายคน ได้เผยว่า “เมื่อก่อนคิดว่าตัวเองไม่น่าขาดอะไร เพราะออกกำลังกายตลอด ทานอาหารครบ 5 หมู่ แต่พอตรวจออกมาพบว่ามีระดับวิตามินดีต่ำ คงเป็นเพราะเรากลัวผิวเสีย หลบแดดตลอด ทาครีมกันที่มีค่า SPF สูงๆ ดังนั้น คุณหมอจึงแนะนำให้เราปรับพฤติกรรม อย่างเรายังรักสวยรักงามอยู่ ดังนั้น ครีมกันแดดทาหน้าบริเวณหน้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากเราอยากให้ผิวโดนแดดบ้างเพื่อได้รับวิตามินดี เราอาจจะเลือกไม่ทาครีมกันแดดบริเวณอื่นแทน เช่น แขนหรือขา สัก 2 วันต่อสัปดาห์ และออกไปรับแดดแค่ 5-15 นาที เพียงเท่านี้ เราก็สามารถรับแดดได้ แต่ผิวยังไม่เสียอีกด้วย นอกจากนี้ เราก็ต้องปรับการรับประทานอาหาร ก็เลือกบริโภคอาหารที่อุดมด้วยวิตามินดีเพิ่มขึ้น อย่าง ปลาทูน่า ปลาแซลมอน เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะได้วิตามินดีแล้ว ยังได้คุณประโยชน์อื่นๆ ด้วย”
กระตุ้นคนไทยใส่ใจตรวจวัดระดับวิตามินดี จุดเริ่มต้นการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ลดเสี่ยงโรคกระดูกพรุน หัวใจ มะเร็ง และแก่ก่อนวัย
กระตุ้นคนไทยใส่ใจตรวจวัดระดับวิตามินดี จุดเริ่มต้นการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ลดเสี่ยงโรคกระดูกพรุน หัวใจ มะเร็ง และแก่ก่อนวัย
กระตุ้นคนไทยใส่ใจตรวจวัดระดับวิตามินดี จุดเริ่มต้นการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ลดเสี่ยงโรคกระดูกพรุน หัวใจ มะเร็ง และแก่ก่อนวัย

ข่าวตรวจวัดระดับวิตามินดี+โรคหัวใจและหลอดเลือดวันนี้

โรงพยาบาลพระรามเก้า ตอกย้ำความเชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ เปิดภารกิจ "ดูแลหัวใจคุณ ด้วยหัวใจเรา" พร้อมยกระดับนวัตกรรมการรักษาแบบครบวงจร

นพ.อนุพงษ์ ปริณายก ผู้อำนวยการสถาบันหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลพระรามเก้า นำขณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมเทคโนโลยีการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด "ฆาตกรเงียบ" ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมแพทย์ นพ.ณัฐพล เก้าเอี้ยน อายุรแพทย์โรคหัวใจ และ นพ.สุทัศน์ คันติโต อายุรแพทย์โรคหัวใจ ร่วมให้ข้อมูลและสาธิตขั้นตอนการสวนหัวใจและการตรวจวินิจฉัยผ่านเครื่องมือที่ทันสมัย ในการตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจ พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากล ณ ห้องสวนหัวใจ (Cath Lab) อาคาร A

ปัจจุบันปัญหาการบริโภคโซเดียมเกินความจำเป... ผงปรุงรสจากพืชพื้นบ้าน: นวัตกรรมทางเลือกเพื่อสุขภาพและความยั่งยืนของชุมชน — ปัจจุบันปัญหาการบริโภคโซเดียมเกินความจำเป็นเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ส่งผ...

"โรคลิ้นหัวใจ" นับเป็นปัญหาสำคัญที่สัมพัน... โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติก…ภัยร้ายที่อาจมองข้าม รู้ทันสัญญาณอันตราย! ก่อนสายเกินแก้ — "โรคลิ้นหัวใจ" นับเป็นปัญหาสำคัญที่สัมพันธ์กับสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย ...

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ขอเชิญพย... ขอเชิญชวนพยาบาลและบุคลากรสุขภาพเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ECG Interpretation and Nursing Care — คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ขอเชิญพยาบาลและบ...