คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)ซึ่งประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย
วันนี้ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ได้ให้เกียรติ ร่วมแลกเปลี่ยนและรับฟังความเห็นกับ กกร. โดยได้ให้ความเห็นว่าหลักการร่างรัฐธรรมนูญ สมควรจะวางกรอบในลักษณะกว้างๆ ไม่ควรกำหนดหลักเกณฑ์ที่เป็นรายละเอียด เพื่อให้กฎหมายแม่บทฉบับดังกล่าวเป็นกฎหมายที่ใช้ครอบคลุมและรับรองกฎหมายลูกอื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคต โดยได้มีการนำเสนอสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญใน 4 กรอบคือ 1)สร้างพลเมืองให้เป็นใหญ่ เพื่อขยายและยกระดับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน 2) การเมืองใสสะอาดและสมดุล เพื่อปรับสมดุลอำนาจ,ตรวจสอบและถ่วงดุล 3) หนุนสังคมที่เป็นธรรม และ4) นำชาติสู่สันติสุข
โดย กกร. จะมีการจัดสัมมนาและหารือร่วมกับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญอีกครั้งหนึ่งภายในเดือน พฤษภาคม 2558 เพื่อสะท้อนมุมมองของภาคธุรกิจ ให้กับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญ มีผลบังคับใช้อย่างเป็นธรรม และส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยรวม
นอกจากนี้ กกร. ได้มีการประชุมสรุปภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนมีนาคม พบว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอยู่ในภาวะเปราะบาง โดยการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนแผ่วลง แม้มีปัจจัยบวกจากการเบิกจ่ายภาครัฐคืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบลงทุน และภาคการท่องเที่ยวยังคงรักษาโมเมนตัมเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่ภาคส่งออกยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม
ทั้งนี้ กกร.ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ส่งออกอย่างใกล้ชิด จากความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าเป็นไปในเชิงลบมากขึ้น โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้ง นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มเติม ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงติดต่อกันสองครั้ง และล่าสุด มาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยลดแรงกดดันต่อทิศทางค่าของเงินบาทได้มากน้อยเพียงใด
ในประเด็นการเพิ่มความช่วยเหลือให้กับธุรกิจ SME ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ ทาง กกร. ได้มีการหารือร่วมกันถึงมาตรการระยะสั้น (1-2 ปี) ด้วยการขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อของ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มาอยู่ที่ร้อยละ 30 จากประมาณร้อยละ 18 เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน
โดยเรื่องดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. ซึ่งทาง กกร. จะติดตามการดำเนินงานในเรื่องนี้ต่อไป
กกร. ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลเรื่อง Ease of doing business ที่อยู่ภายใต้คณะกรรมการ Competitiveness ของ กกร. เพื่อส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันของภาคเอกชน โดย กกร. จะทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) เพื่อสนับสนุนผลักดันโครงการต่างๆที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาคเอกชนและประชาชน ในการขับเคลื่อนประเทศต่อไป
สกสว. ปิดฉากความสำเร็จ "TRIUP FAIR 2024"
สกสว. จับมือ สภาอุตฯ สภาหอฯ ผนึกกำลังภาคีภาครัฐ-เอกชน จัดงาน TRIUP FAIR 2024 รวมพลังขับเคลื่อนการใช้ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างเศรษฐกิจให้ประเทศ
ที่เดียวครบ!! สกสว.ร่วมเครือข่าย ววน. เตรียมจัดงานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์วิจัย และนวัตกรรมที่พร้อมใช้ใหญ่ที่สุดแห่งปี!! "TRIUP FAIR 2024"
สกสว. ผนึกกำลังภาคีรัฐ-เอกชนจัดงาน TRIUP FAIR 2024 นำศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน พาประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ภูมิธรรมเปิดตัวคลังความรู้ "พาณิชย์คิดค้าอย่างยั่งยืน"มุ่งพาผู้ประกอบการไทยปรับตัวรับมือกติกาการค้าโลกใหม่ สนับสนุนเป้าหมาย SDGs
ZUPPORTS จัดงานเสวนา Navigating Global Trade and Logistics 2024
"วิโรจน์ AWS" คว้า สุดยอด CEO รุ่น SMEs ปี 2566 สาขาธุรกิจภาคบริการในงาน "Thailand CEO ECONMASS Awards 2023"
EXIM BANK สภาหอฯ ส.อ.ท. สรท. และ มธ. เข้าพบปะหารือเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย สนับสนุนเครือข่ายธุรกิจไทย-ซาอุดีอาระเบียในหลักสูตร TOP X รุ่นที่ 2
EXIM BANK จับมือพันธมิตรนำผู้นำรุ่นใหม่ขับเคลื่อนการส่งออกไทย "TOP X" รุ่น 2 ศึกษาดูงานนวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการชั้นนำของไทย