มรภ.สงขลา วิจัยกล้วยหินกรอบทรงเครื่องรสข้าวยำ เข้ารอบชิง ประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร

29 Jun 2015
นักศึกษาคหกรรมฯ มรภ.สงขลา โชว์ฟอร์มเจ๋ง ส่งผลงาน Boo-Ba-Doo กล้วยหินกรอบทรงเครื่องรสข้าวยำ ติด 1 ใน 15 ทีม ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ โครงการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารปีที่ 7 ชูจุดเด่นผสมผสานพืชผลท้องถิ่นกับอาหารภาคใต้ เอาใจคนรักสุขภาพ

อาจารย์วิภาวรรณ วงศ์สุดาลักษณ์ โปรแกรมวิชาคหกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) และ อาจารย์ฐิติมาพร หนูเนียม ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาทีมสาวสองเล ทะเลสองน้ำ ซึ่งส่งผลิตภัณฑ์กล้วยหินกรอบทรงเครื่องรสข้าวยำ ตั้งชื่อว่า Boo-Ba-Doo เข้าร่วมประกวดในโครงการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร เปิดเผยว่า ตัวแทนนักศึกษาโปรแกรมวิชาคหกรรมศาสตร์ ทีมสาวสองเล ทะเลสองน้ำ ซึ่งมีสมาชิก 6 คน ประกอบด้วย น.ส.กานดา ชูแก้ว น.ส.อารีนา สุหลง น.ส.รุสนา ดำสุด น.ส.อุษา เส็นหล๊ะ น.ส.ธัญญา ดินซุด และ น.ส.สากีนา แล๊ะขาว ส่งผลงานผลิตภัณฑ์กล้วยหินกรอบทรงเครื่องรสข้าวยำ เข้าร่วมประกวดในโครงการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารปีที่ 7 จัดโดยสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหารแห่งประเทศไทย ผลปรากฏว่ากล้วยหินกรอบทรงเครื่องรสข้าวยำ ผ่านรอบคัดเลือกเข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศกับอีก 14ทีม จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ซึ่ง มรภ.สงขลา เป็นมหาวิทยาลัยในภาคใต้เพียงหนึ่งเดียวที่ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้

อาจารย์วิภาวรรณ กล่าวว่า โดยทั่วไปการทำกล้วยหินทอดกรอบต้องผ่านการทอดที่ใช้อุณหภูมิสูง ซึ่งเป็นตัวเร่งให้น้ำมันที่ใช้เสื่อมคุณภาพเร็ว เป็นผลให้ร่างกายของเราเมื่อบริโภคจะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้ ประกอบกับผู้บริโภคให้ความสนใจสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ นักศึกษาในทีมจึงต้องการยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์กล้วยหินทอดกรอบให้พัฒนาขึ้น โดยศึกษาปรับปรุงกระบวนการผลิตกล้วยหินทอดกรอบโดยใช้การอบด้วยไมโครเวฟ (microwave) แทนวิธีการทอด เพื่อลดปริมาณไขมันและลดการเหม็นหืนในผลิตภัณฑ์ สะดวกต่อการบริโภค และเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค โดยได้นำข้าวยำซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้มาประยุกต์เข้าด้วยกัน เพื่อให้มีความเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับกล้วยหิน ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกกันมากใน จ.ยะลา และเป็นผลไม้ที่หาได้ง่าย มีทุกฤดูกาล ปลูกง่าย ราคาไม่แพง ส่วนใหญ่จำหน่ายให้ผู้บริโภคในลักษณะผลสด ซึ่งได้ค่าตอบแทนในราคาต่ำ และบางช่วงที่มีผลผลิตจำนวนมาก ยิ่งทำให้รายได้จากการจำหน่ายน้อยลง อีกทั้งยังมีผลกล้วยที่เหลือจากการจำหน่ายเน่าเสียจำนวนมาก จึงนำมาสู่แนวคิดในการทำวิจัยกล้วยหินกรอบทรงเครื่องรสข้าวยำดังกล่าว