นายชวลิต กล่าวต่อไปว่า ได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งจัดทำรายงานข้อเท็จจริงถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อน รวมถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำ โดยจะนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีให้ทันในการประชุมครั้งหน้าต่อไป นอกจากนี้ ยังต้องเร่งปฏิบัติการฝนหลวงตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะบริเวณเหนือเขื่อน ให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับอยู่แล้วถึง 13 ฐาน
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมชลประทาน เร่งจัดทำแผนที่การเพาะปลูกว่าตรงไหนที่มีการเพาะปลูกไปแล้ว และยังไม่ได้ทำการเพาะปลูก โดยจะขอข้อมูลเพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปสร้างความเข้าใจกับเกษตรกร ขณะเดียวกัน ยังได้พิจารณาในเรื่องของโครงการและการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งหากมีเรื่องของฝนทิ้งช่วง จะมีการส่งเสริมให้ปลูกพืชแบบแห้งสลับเปียกในพื้นที่ที่ทำการเพาะปลูกไปแล้ว และสำหรับพื้นที่อีก 6 ล้านไร่ที่ยังไม่ได้มีการเพาะปลูก จะส่งเสริมให้ปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน เช่น ปุ๋ยพืชสด หรือพืชที่ใช้น้ำน้อย เป็นต้น หากเกษตรกรเกิดข้อสงสัย สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ ซึ่งพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเต็มความสามารถ