สภาวะตลาดวันที่ 11 ธันวาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,066.30-1,072.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,300 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ15 อยู่ที่ 18,360 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,400 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.08 น.ของวันที่ 11/12/15)
แนวโน้มวันที่ 14 ธันวาคม 2558
ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตรากลางของค่าเงินหยวนไว้ที่ 6.4358 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นค่ากลางที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2011 โดยปรับลดลงถึง 0.2% จากค่ากลางของเมื่อวันก่อนหน้าและเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปีครึ่ง ซึ่งส่งผลในเชิงลบต่อแรงซื้อทองคำจากจีน เนื่องจากนักลงทุนชาวจีนจำเป็นต้องใช้เงินหยวนเพิ่มมากขึ้นในการซื้อทองคำเมื่อเงินหยวนอ่อนค่าลง ขณะที่ความความกังวลเพิ่มขึ้นเมื่อมีคำถามเพิ่มขึ้นว่าจีนจะปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงมากเพียงใด หลังจาก หยวนมีแนวโน้มร่วง 0.8% ในสัปดาห์นี้ซึ่งจะเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุด นับตั้งแต่ธนาคารกลางจีนปรับลดค่าเงินหยวนลงเกือบ 2% เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2015 ซึ่งสร้างความ ประหลาดใจต่อตลาดการเงินทั่วโลก ประกอบ นักลงทุนในตลาดทองคำเพิ่มความระมัดระวัง เมื่อสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นบ่งชี้ว่า มีโอกาส 85% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 15-16 ธันวาคม โพลล์รอยเตอร์ บ่งชี้ว่าโบรกเกอร์ 17 รายจากทั้งหมด 18 ราย ที่ติดต่อกับเฟด คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จำเป็นต้องตัดสินใจในการประชุม ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีหรือไม่ หลังจากเฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 หรือเป็นเวลานาน 7 ปีแล้ว ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการส่งสัญญาณว่าเฟดจะต้องตัดสินใจเรื่องวิธีการในการรับประกันต่อตลาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในอนาคตด้วย โดยแนะนำว่าหากราคาดีดตัวขึ้นไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมาอาจเห็นการปรับตัวลงของราคาทองคำ โดยประเมินแนวรับที่ 1,063 หรือ 1,053 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาสามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินว่าจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,086 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำหากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,080-1,086 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,063 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,063 หรือ 1,053 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,045 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,063 (18,100บาท) 1,053 (17,930บาท) 1,045 (17,800บาท)
แนวต้าน 1,080 (18,400บาท) 1,086 (18,500บาท) 1,098 (18,700บาท)
GOLD FUTURES (GFZ15)
แนวรับ 1,063 (18,270บาท) 1,053 (18,100บาท) 1,045 (17,960บาท)
แนวต้าน 1,080 (18,560บาท) 1,086 (18,660บาท) 1,098 (18,870บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.08 น.ของวันที่ 11/12/15)
แนวโน้มวันที่ 14 ธันวาคม 2558
ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตรากลางของค่าเงินหยวนไว้ที่ 6.4358 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นค่ากลางที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2011 โดยปรับลดลงถึง 0.2% จากค่ากลางของเมื่อวันก่อนหน้าและเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปีครึ่ง ซึ่งส่งผลในเชิงลบต่อแรงซื้อทองคำจากจีน เนื่องจากนักลงทุนชาวจีนจำเป็นต้องใช้เงินหยวนเพิ่มมากขึ้นในการซื้อทองคำเมื่อเงินหยวนอ่อนค่าลง ขณะที่ความความกังวลเพิ่มขึ้นเมื่อมีคำถามเพิ่มขึ้นว่าจีนจะปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงมากเพียงใด หลังจาก หยวนมีแนวโน้มร่วง 0.8% ในสัปดาห์นี้ซึ่งจะเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุด นับตั้งแต่ธนาคารกลางจีนปรับลดค่าเงินหยวนลงเกือบ 2% เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2015 ซึ่งสร้างความ ประหลาดใจต่อตลาดการเงินทั่วโลก ประกอบ นักลงทุนในตลาดทองคำเพิ่มความระมัดระวัง เมื่อสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นบ่งชี้ว่า มีโอกาส 85% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 15-16 ธันวาคม โพลล์รอยเตอร์ บ่งชี้ว่าโบรกเกอร์ 17 รายจากทั้งหมด 18 ราย ที่ติดต่อกับเฟด คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จำเป็นต้องตัดสินใจในการประชุม ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีหรือไม่ หลังจากเฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 หรือเป็นเวลานาน 7 ปีแล้ว ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการส่งสัญญาณว่าเฟดจะต้องตัดสินใจเรื่องวิธีการในการรับประกันต่อตลาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในอนาคตด้วย โดยแนะนำว่าหากราคาดีดตัวขึ้นไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมาอาจเห็นการปรับตัวลงของราคาทองคำ โดยประเมินแนวรับที่ 1,063 หรือ 1,053 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาสามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินว่าจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,086 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำหากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,080-1,086 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,063 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,063 หรือ 1,053 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,045 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,063 (18,100บาท) 1,053 (17,930บาท) 1,045 (17,800บาท)
แนวต้าน 1,080 (18,400บาท) 1,086 (18,500บาท) 1,098 (18,700บาท)
GOLD FUTURES (GFZ15)
แนวรับ 1,063 (18,270บาท) 1,053 (18,100บาท) 1,045 (17,960บาท)
แนวต้าน 1,080 (18,560บาท) 1,086 (18,660บาท) 1,098 (18,870บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148