รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานการจัดงาน "Thailand Halal Assembly 2015" กล่าวว่า หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงจากการจัดงาน "Thailand Halal Assembly" เมื่อปีก่อน ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย จึงร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการและการแสดงสินค้านานาชาติ ขึ้นอีกครั้งเป็นที่ที่ 2 ในชื่องาน "Thailand Halal Assembly 2015" เพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมและนวัตกรรมฮาลาลเพื่อเศรษฐกิจฮาลาล พร้อมทั้งศักยภาพของกิจการฮาลาลประเทศไทย ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ โดยการประชุมวิชาการและการแสดงสินค้านานาชาติ"Thailand Halal Assembly 2015" จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 ธันวาคม 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นงานด้านกิจการฮาลาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
สืบเนื่องมาจากปัจจุบันตลาดอาหารฮาลาลโลกมีมูลค่ากว่า 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ/ปี ขณะที่ประเทศไทยส่งออกหากเทียบสัดส่วนแล้วไม่ถึง 0.5 % นั่นหมายความว่าเรายังมีโอกาสเติบโตอีกมาก และเมื่อพิจารณาจากตลาดอาหารฮาลาลโลก แม้ตลาดมุสลิมจะมีประมาณ 20% ของตลาดโลก แต่นับจากนี้ไปตลาดฮาลาลจะขยายไปในตลาดที่มิใช่มุสลิมมากขึ้น โดยกล่าวกันว่าอาจขยายไปถึง 89% ของตลาดอาหารโลก หรือครอบคลุมถึงประชากร 6,400 ล้านคนจากประชากรทั้งโลก 7,200 ล้านคน ไม่ใช่จำกัดเฉพาะตลาดมุสลิม 1,800 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าตลาดอาหารฮาลาลในอนาคตจะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยปัจจุบันประเทศไทยส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลมูลค่ากว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐไปยังประเทศสมาชิกโอไอซี อย่างไรก็ตามในจำนวนนี้มีไม่ถึง 10% ที่เป็นสินค้าส่งออกที่ผ่านการรับรองฮาลาล เราจะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการส่งออกมาขอรับรองฮาลาล ซึ่งนั่นคือเป้าหมายหนึ่งที่จะทำให้ฮาลาลไทยเป็นที่หนึ่งในโลกตามที่หวัง เพราะฮาลาลตามหลักการในศาสนาอิสลามมิใช่เป็นของเฉพาะมุสลิม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่า ฮาลาลเป็นของทุกคน จึงสรุปได้ว่า "ฮาลาล" คือเส้นทางใหม่ของธุรกิจ คนในอนาคตจะเลือกบริโภคอาหารที่ดี และปลอดภัย ฮาลาลมีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับตลาดในอนาคต เหตุนี้จึงจำเป็นต้องยกระดับอาหารฮาลาลเพื่อป้อนให้คนทั้งโลกได้บริโภคต่อไป"
การประชุมวิชาการและการแสดงสินค้านานาชาติ "Thailand Halal Assembly 2015" ปีนี้ประกอบด้วยนิทรรศการดิจิตอลวิทยาศาสตร์ฮาลาล, การจับคู่เจรจาทางธุรกิจฮาลาล รูปแบบใหม่, การประชุมองค์กรรับรองฮาลาลนานาชาติ, งานประชุมวิชาการนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์อุตสาหกรรมและธุรกิจ ครั้งที่ 8 (HASIB 8th), การเสวนาในหัวข้อต่างๆ และงานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 200บูท พร้อมไฮไลท์พิเศษ คือ การเปิดตัวฐานข้อมูลวัตถุดิบฮาลาลใช้ชื่อว่า H4E หรือ Halal Number for E Numberเป็นการเพิ่มฐานข้อมูล Halal number เพื่อเป็นช่องทางในการตัดสินใจของผู้ประกอบการที่ต้องการวัตถุดิบฮาลาล โดยปกติในอุตสาหกรรมทั่วไป ส่วนใหญ่จะรู้จัก E number แต่ในกรณีของผลิตภัณฑ์ฮาลาล จะเอา E Number มาใช้โดยตรงไม่ได้ เพราะบางตัวไม่ฮาลาล ต้องปรับปรุงข้อมูลขึ้นใหม่ เพื่อเป็นตัวขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาล ดังนั้นจะต้องหาฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับอุตสาหกรรมฮาลาล โดยเรียกว่า H number หรือ H for E ก็คือ จะต้องเอา H เข้ามาทดแทน E ให้ได้ทั้งหมด
โดยโครงการนี้ เป็นโครงการใหญ่ที่ได้ทำการวิเคราะห์มาตลอดระยะเวลา 10 ปี ซึ่งทางโครงการได้วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์มาแล้วกว่า 8,000 ผลิตภัณฑ์ มีโรงงานเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 554 โรงงาน มีคนงานที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ 150,000 คน เป็นโครงการขนาดใหญ่ ประเทศอื่นยังขาดศักยภาพที่จะทำได้ หากประเทศไทยต้องการเป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล นี่คือบทบาทสำคัญที่เราต้องนำเสนอ
และอีกประโยชน์หนึ่งที่คาดว่าจะได้จากการจัดงานครั้งนี้ และคิดว่าน่าจะเป็นความภาคภูมิใจร่วมกันของมุสลิม คือที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าภาพลักษณ์ของมุสลิมและอิสลามถูกเบี่ยงเบนทางการเมืองจากคนบางกลุ่มกระทั่งกลับกลายเป็นว่าอิสลามและมุสลิมมีปัญหา ซึ่งเมื่อพิจารณาจากเรื่องฮาลาล กลับพบว่าทุกฝ่ายมองฮาลาลในด้านบวก ฮาลาล จึงน่าจะเป็นทางออกของสังคมไทย เป็นแหล่งรายได้สำคัญทางเศรษฐกิจทั้งเรื่องการส่งออกและการท่องเที่ยว อีกทั้งเชื่อว่าฮาลาลจะกลายเป็นทางออกของอีกหลายเรื่องที่กำลังเป็นปัญหา เป็นภาพบวกของสังคมมุสลิม ดังนั้นเราจึงต้องช่วยกันประคับประคองงานด้านฮาลาล ให้มีความเป็นวิชาการที่จับต้องได้มากขึ้น นำเรื่องศาสนาเป็นตัวนำ เอาวิทยาศาสตร์เข้าไปสนับสนุน นี่คือเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของเรา การนำวิทยาศาสตร์ฮาลาลเข้าไปสนับสนุนเพื่อทำให้ฮาลาลเดินอย่างองอาจ ถูกทิศถูกทางมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราจึงมั่นใจว่าระบบงาน H Number จะชูศักดิ์ศรีของมุสลิมไทยในเวทีฮาลาลโลก รศ.ดร.วินัย กล่าวปิดท้าย
                            
                            จุฬาฯ จับมือ NIA ปั้น "ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย" สร้างเวทีบ่มเพาะนวัตกรรมและธุรกิจ Startup จากงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์
                        
                            สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) ร่วมกับ สถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดตัว "Green Social Enterprise Catalog"
                        
                            ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ชวนเปิดโลกเทรนด์และเทคโนโลยีสู่อนาคตที่ยั่งยืน
                        
                            ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดเปิดตัวหนังสือ "กูละเบื่อ" เขียนโดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา
                        
                            คณะจิตวิทยา จุฬาฯ ร่วมกับ TIMS รับสมัครองค์กรร่วมคัดเลือก สุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต "Thai Mind Awards" รุ่นที่ 2
                        
                            ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดเสวนา "รัฐศาสตร์ ในโลกแห่งอำนาจและการเมือง"
                        
                            จุฬาฯ หนึ่งเดียวของไทย ASEAN Top 10 การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย THE World University Rankings 2026
                        
                            จุฬาฯ จับมือศาสตราจารย์ผู้สร้างคอร์สออนไลน์ระดับโลก จุดประกายการเรียนรู้และทักษะแห่งอนาคต สู่ความสำเร็จยั่งยืนในเศรษฐกิจ AI