นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด สะท้อนมุมมองต่อภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2559 ว่า จากการที่ตลาดรับสร้างบ้านมีการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวในปีที่ผ่านมา ซึ่ง แลนดี้ โฮม มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การชะลอตัวที่เกิดจากสภาพเศรษฐกิจในช่วงขาลง แต่เป็นเพราะกระแสเศรษฐกิจส่งผลให้อุปสงค์คุณภาพในตลาดชะลอการสั่งสร้างบ้านทั้งที่มีความพร้อมด้านงบประมาณ ทั้งนี้ จากมาตรการที่ภาครัฐได้อัดฉีดสู่กลไกธุรกิจของประเทศตลอดครึ่งปีหลัง 2558 จะเป็นตัวปลดล็อกปัญหาความไม่เชื่อมั่นดังกล่าว และจะเป็นปัจจัยในการผลักดันให้อุปสงค์คุณภาพกลับเข้าสู่วงจรการตลาดของธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2559 ซึ่งเมื่อธุรกิจโดยรวมเกิดความเคลื่อนไหว ก็จะดึงอุปสงค์ในระดับรองลงมาตัดสินใจสร้างบ้านด้วยเช่นกัน
ด้านปัจจัยที่ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านต้องให้ความสำคัญในปี 2559 นั้น นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร แสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวว่า "ปัจจัยที่ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านต้องคำนึงถึงน่าจะเป็นเรื่องคุณภาพงานก่อสร้างและแรงงานฝีมือ รวมถึงการบริหารจัดการเรื่องต้นทุนการก่อสร้าง และการสร้างความพึงพอใจในการบริการ ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยต่างเป็นผลพวงที่เกิดขึ้นเป็นวงจรเพราะในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างเริ่มเดินหน้าพัฒนาโครงการเมกกะโปรเจคและโครงการที่อยู่อาศัยตลอดจนโครงการด้านคอมเมอร์เชี่ยลต่างๆ จำนวนมาก หลังทุกฝ่ายเริ่มมั่นใจในสถานการณ์โดยรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ตลาดเกิดความต้องการแรงงานทั้งระดับทั่วไปและระดับแรงงานฝีมือเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2559 จะเป็นปีแรกที่เปิด AEC อย่างเต็มรูปแบบ และจะเพิ่มโอกาสในเรื่องการจ้างงานให้แก่แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยมากขึ้นเพราะอัตราค่าจ้างในไทยยังสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ในขณะที่แรงงานฝีมือซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยก็จะมีโอกาสในการรับงานเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ในส่วนนี้อาจทำให้เกิดวิกฤติด้านแรงงานฝีมือ ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านจึงต้องเตรียมรับมือกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งต้องวางแผนการจัดการในเรื่องระยะเวลาการก่อสร้างให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องเริ่มพัฒนาระบบการก่อสร้างที่พึ่งแรงงานฝีมือให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้น หลายบริษัทจึงได้มีการพัฒนาบ้านสำเร็จรูปหรือพัฒนาระบบก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูปเพื่อทดแทนอันถือเป็นเทรนด์ใหม่ของธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยนับแต่นี้ไป และที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนคือการส่งต่องานบางส่วนให้แก่ทีมผู้รับเหมาที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อคงคุณภาพและความรวดเร็วมอบสู่มือผู้บริโภค"
หากพิจารณาถึงการแข่งขันของธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยในปี 2559 นั้น นางสาวภัทรา วิเคราะห์ในประเด็นดังกล่าวว่า "ธุรกิจรับสร้างบ้านจะต้องวางกลยุทธ์เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้างในขณะที่ยังคงมาตรฐานการก่อสร้างไว้ได้อย่างเดิมหรือดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาระบบบริหารจัดการการก่อสร้างก็เป็นเรื่องจำเป็นเพื่อช่วยให้งานก่อสร้างเดินไปได้ตรงตามกำหนดเวลาและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ตลอดจนการขยายไลน์สินค้าให้เกิดขึ้นอย่างครบวงจร"
ทั้งนี้ ในปี 2558 ธุรกิจรับสร้างบ้านมีมูลค่ารวมประมาณ 11,000 บาท โดย แลนดี้ โฮม คาดการณ์ว่าตลาดรวมในปี 2559 นั้น น่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% "ในปีนี้แลนดี้ โฮม มีอัตราการเติบโตในกลุ่มบ้านระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไปอย่างมาก เนื่องจากลูกค้ามีความมั่นใจในความมั่นคงทางการเงินและทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ ตลอดจนพึงพอใจในแบบบ้านที่มีความสวยงามและครบครันด้านฟังก์ชั่น โดยในปี 2558 แลนดี้ โฮม มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5%" นางสาวภัทรากล่าวสรุป
แลนดี้ โฮม ส่งแบบบ้านใหม่ พร้อมมาตรการห่างไกลโควิด กับบริการยกโมเดลบ้านให้ลูกค้าชมถึงที่
ภาพข่าว: แลนดี้ โฮม เปิดกลยุทธ์รับสร้างบ้านปี 2563 มั่นใจโตสวนตลาด ชู Digital Transform หวังเจาะตลาดครองใจทุกเซ็กเมนต์
“แลนดี้ โฮม” ชูแนวคิด Customization For Life “บริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อการอยู่อาศัยที่แท้จริง” เผยแบบบ้านใหม่ ตอบโจทย์กระแสตอบรับคึกคัก
ธุรกิจรับสร้างบ้าน 68 ปีแห่งการประคองตัว ผันผวน แต่ Real Demand ยังแข็งแกร่ง จับจังหวะปี 69 รับมือโจทย์ท้าทาย บุกเจาะตลาดดาวรุ่งต่างจังหวัด
เจาะลึกตลาดรับสร้างบ้าน Q2-Q3 ปี 68 โต 7% ภูมิภาคผลงานเด่น ยอดพุ่ง 81% ชี้แนวโน้ม Q4 เติบโตต่อ
ซีคอน เผยภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านปี 69 โตต่อเนื่อง แม้ต้นทุนผันผวน ชู 4 กลยุทธ์หลัก ดันยอดขาย 'Your Home Series - ปลูกเรือน Series - SEACON ID'
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เดินหน้าทำ CSR ต่อเนื่องในเดือนแห่งการไว้อาลัย
"พฤกษา โฮลดิ้ง" ขยายพอร์ตธุรกิจ ส่ง "IHC" เสริมทัพ ปักธงบุกตลาดก่อสร้าง-รับสร้างบ้านครบวงจร พร้อมเดินหน้าเปิดตัวธุรกิจให้เช่า เสริมแกร่งระยะยาว