แม้ว่าผลการประมูลจะมีการประกาศต่อสาธารณะแล้วตั้งแต่แรกที่การประมูลสิ้นสุดลง แต่การประชุมของ กทค. ในวันนี้ก็เพื่อการรับรองผลอย่างเป็นทางการ อันจะนำไปสู่การออกใบอนุญาตประกอบกิจการต่อไป ภายใต้เงื่อนไขว่าผู้ชนะการประมูลจะต้องชำระเงินค่าคลื่นความถี่งวดที่ 1 ตามที่กำหนด พร้อมวางหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน (แบงก์การันตี) รับรองการชำระเงินประมูลงวดที่เหลือทั้งหมด ภายใน 90 วัน นับจากวันที่ผู้ชนะการประมูลได้รับหนังสือแจ้งผลการประมูล
สำหรับผู้ชนะการประมูลชุดคลื่นความถี่ชุดแรกคือ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด เสนอราคาสุดท้ายที่ 75,654 ล้านบาท ผู้ชนะการประมูลชุดคลื่นความถี่ชุดที่สองคือ บริษัท ทรู มูฟ เอซ ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด เสนอราคาสุดท้ายที่ 76,298 ล้านบาท ส่วนบริษัทที่ไม่ชนะการประมูลคือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด เสนอราคาสุดท้ายที่ 75,976 ล้านบาท และบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด เสนอราคาสุดท้ายที่ 70,180 ล้านบาท
ในการพิจารณารับรองผลการประชุมของ กทค. นี้ สำนักงาน กสทช. ได้นำส่งบันทึกรายละเอียดข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ของการเสนอราคาหรือการเคาะประมูลของแต่ละบริษัทให้พิจารณาประกอบด้วย ซึ่งโดยภาพรวมไม่พบความผิดปกติใดในด้านพฤติกรรมการเคาะราคา และพบว่า บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด และบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด มีความมุ่งมั่นที่จะชิงสิทธิใช้คลื่นชุดที่สอง ขณะที่บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด มีการเสนอราคาเพื่อต้องการเป็นผู้ชนะในคลื่นชุดที่หนึ่งอย่างชัดเจน