นางสาวอนุสรี กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศเพื่อการเข้าถึงสิทธิ ครั้งที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมสัมมนา จำนวนทั้งสิ้น ๒๐๕ คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด คณะกรรมการสตรีระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ผู้แทนจากหอการค้าจังหวัด ผู้แทนจากองค์กรสาธารณะประโยชน์ และสตรีที่สนใจในการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ รวมถึงสิทธิและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสตรี เพื่อนำความรู้ไปขยายผลในพื้นที่ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพสตรีให้มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ การส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาคระหว่างหญิงและชาย ต้องผลักดันให้เห็นเป็นรูปธรรม มีแนวทางที่ชัดเจน ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดย สค. จึงได้ผลักดันให้เกิดการทำงานที่คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างเพศ โดยขับเคลื่อนให้เกิด "การจัดทำงบประมาณที่มีมุมมองมิติหญิงชาย (Gender Responsive Budgeting : GRB) ผ่านหน่วยงานภาครัฐในระดับกรมและกระทรวง ซึ่งนับเป็นเครื่องมือเชิงนโยบายที่สำคัญ ในการทำงานเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์ร่วมกันของทุกกลุ่มคนในสังคม
นางสาวอนุสรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับเส้นทางการเข้าสู่การเมืองของสตรีและกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น ควรเริ่มต้นจาก
๑) การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเป็นนักการเมืองซึ่งมีความยากแล้วนั้น แต่การเป็นนักการเมืองหญิง ยิ่งมีความยากมากกว่า ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมตัวให้พร้อมทั้งทางด้าน
๑.๑) ศักยภาพ คือ การกระทำที่ทำให้ คนเชื่อมั่นว่าเราทำงานได้
๑.๒) ความรู้ คือ การศึกษาเป็นประการด่านแรก ที่ทำให้คนเชื่อถือ
๑.๓) ความสามารถ คือ สิ่งที่เราเคยทำมาในอดีต สิ่งที่เราทุ่มเทในปัจจุบัน และสิ่งที่เรามีแนวคิดที่จะทำในอนาคต
๑.๔) นักการเมืองต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีประกอบด้วย ความซื่อสัตย์ ไม่โกง มีบุคลิกภาพที่ดีไม่จำเป็นต้องสวย สะอาด สุภาพ และถูกกาลเทศะ
๒) การเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยต้องทำให้มีการพบกันจาก ๒ ฝ่ายทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน
๓) ความคิดที่ว่าการเมืองไม่เกี่ยวกับชีวิตและสังคมของเรา แต่ต้องการการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การติดตามผลการทำงานของรัฐและการเมืองในทุกระดับ และการตรวจสอบ ทั้งนี้ ถ้าอยากเห็นการเมืองที่ดีต้องสนับสุนนคนดี
เข้าสู่การเมือง
๔) คติพจน์ที่นักการเมืองควรยึดถือคือ ต้องอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ ต้องมีความเด็ดขาดในสิ่งที่ถูกต้อง ตามคติที่ว่า "ถ้าจะอ่อนก็อ่อนให้เห็นเป็นเส้นไหม จะได้ไว้ผูกพยัคฆ์ ไว้โยงเฆี่ยน ถ้าจะแข็ง ก็ให้แข็งเช่นวิเชียร จะได้เจียรกระจกได้ดังใจ"
"ตนคาดหวังว่าผู้เข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้ จะได้นำความรู้ที่ได้รับเพื่อไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สำหรับการสร้างเสริม ความเสมอภาคระหว่างหญิงชายในครอบครัว ที่ทำงาน ชุมชน และสังคม และนำไปสู่ความเท่าเทียมกันทางสังคมในระยะยาวต่อไป" นางสาวอนุสรี กล่าวท้าย
พม. จัดงานใหญ่ "วันคนพิการสากล ประจำปี 2568" เชิดชูเกียรติคนพิการต้นแบบ
พม. องค์กรด้านคนพิการ และภาคีเครือข่าย ชวนร่วมงาน "วันคนพิการสากล" 3 ธันวาคม 2568
กทม. เดินหน้า "สุขุมวิทโมเดล" จัดระเบียบผู้ค้า-คนไร้บ้าน-ขอทานต่างด้าว เพิ่มความปลอดภัยประชาชน-นักท่องเที่ยว
พาราไดซ์ พาร์ค จับมือ พม. ชวนช้อปของขวัญแทนใจ เติมเต็มความสุขและส่งต่อการให้ ในงาน "Gift to Give ครั้งที่ 7 มหกรรมของขวัญถูกใจได้บุญ 2025"
หลักสูตรไลฟ์ขายสินค้าออนไลน์ สู่อาชีพสร้างรายได้ คืนความเท่าเทียมผู้พิการ ความสำเร็จจากโครงการ Heart to Heart โดย อำพลฟูดส์ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
หลักสูตรไลฟ์ขายสินค้าออนไลน์ สู่อาชีพสร้างรายได้ คืนความเท่าเทียมผู้พิการ ความสำเร็จจากโครงการ Heart to Heart โดย อำพลฟูดส์ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
"It's Ok to be Artist" ปิดฉากอย่างงดงาม นิทรรศการศิลปะจากศิลปินออทิสติก ถ่ายทอดพลังแห่งความเข้าใจและแรงบันดาลใจสู่สังคม
กระแสตอบรับดี! พม. จัด "Job and Market Fair : มหกรรมสร้างงาน สร้างอาชีพคนพิการ" ประชาชนร่วมงานคึกคัก
เปิดประสบการณ์ศิลปะจากหัวใจ มรภ.บ้านสมเด็จฯ ชมงานนิทรรศการ "It's Ok to be Artist"