สสว.สรุปผลงานจับมือกรมราชองครักษ์ สร้างชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืนแดนใต้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           สสว. จับมือกรมราชองครักษ์ สรุปผลงานโครงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ ชี้ 6 ปีที่ผ่านมา เป็นโครงการที่ประสบผลสำเร็จอย่างมาก นอกจากมุ่งเน้นเสริมสร้างอาชีพให้ชาวบ้านแล้ว ยังเน้นการรวมตัวเป็นวิสาหกิจพร้อมสร้างเครือข่าย ยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องในจังหวัดชายแดนใต้ให้ดีขึ้น เพื่อพัฒนาให้กลายเป็น SME ขนาด S ที่เข้มแข็ง 
          นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมพื้นที่ เพื่อเยี่ยมชมผลการดำเนินงานภายใต้โครงการส่งเสริมเครือข่ายวิสาหกกิจชุมชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ 1. ฟาร์มธารโต จังหวัดยะลา และ 2. ตลาดกลางการเกษตรและห้องเย็น จังหวัดปัตตานี ว่า โครงการดังกล่าว เป็นการบูรณาการการทำงานระหว่างสสว.และกรมราชองค์รักษ์ ซึ่งเป็นโครงการที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง และเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน
          ผอ.สสว.กล่าวอีกว่า การดำเนินงานของสสว.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ได้แก่ เทพ จะนะ นาทวี และสะบ้าย้อย นั้น เป็นหนึ่งตัวอย่างการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ อาทิ กรมราชองค์รักษ์ หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมในพื้นที่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เทศบาลเบตง ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่และวิทยาเขตตรัง
          สำหรับวัตถุประสงค์โครงการดังกล่าวคือ มุ่งเน้นการสร้างอาชีพขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ดำเนินงานทุกขั้นตอน รวมทั้งสนับสนุนการรวมกลุ่มกลายเป็นวิสาหกิจชุมชน การสร้างเครือข่ายทั้งในระดับพื้นที่และระดับจังหวัด โดยมีเป้าหมายยกระดับวิสาหกิจชุมนที่มีศักยภาพ เพี่อขยายโอกาสทางการค้า และพัฒนาเป็น OTOP หรือ SME ต่อไป
          "ที่ผ่านมา กลุ่มเป้าหมายเราก็คือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหลังจากที่มีการสร้างงานสร้างอาชีพแล้ว เราได้มีการนำเครื่องจักรและเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ ให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด รวมถึงนำผลิตภัณฑ์วิสาหกิจเหล่านั้น ไปทดลองตลาดนอกพื้นที่ 
          นางสาลินีกล่าวอีกว่า งบประมาณที่ใช้ในโครงการนี้ ตั้งแต่ปี 2552-2558 นั้น รวมแล้วประมาณ 347.3 ล้านบาท โดยเป็นส่วนที่กรมราชองค์รักษ์รับผิดชอบ รวมจำนวน 316.8 ล้านบาทนั้น สร้างประโยชน์มากมายให้กับประชาชนในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฝึกอบรมอาชีพและยกระดับการผลิต มากกว่า 6 หมื่นราย การส่งเสริมการรวมกลุ่ม 246 กลุ่ม การสร้างกลุ่มผู้ผลิตหรือชุมชนผู้ประกอบการใหม่ 6 เครือข่าย รวมถึงจัดทำศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ หรือศูนย์กระจายสินค้า 76 แห่ง ซึ่งถือว่า เป็นผลสำเร็จของโครงการอย่างมาก
          "การดำเนินงานในช่วง 3 ปีหลังตั้งแต่ปี 2556-2558 เรามีโครงการส่งเสริมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน วงเงินปีละ 60 ล้าน รวม 180 ล้านบาทนั้น เป็นโครงการที่สร้างประโยชน์อย่างมาก ทั้งสร้างผู้ประกอบการใหม่ สร้างเครือข่าย สร้างงาน สร้างอาชีพ เป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งกระจายสินค้า สามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ในเรื่องการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนได้มาก"           
          โดยเฉพาะการสร้างตลาดกลางการเกษตรและห้องเย็นที่ปัตตานีนั้น สามารถรองรับสินค้าจากชาวบ้านได้มาก อย่างเครือข่ายการผลิตและแปรรูปทุเรียน ซึ่งสามารถรับเป็นศูนย์กลางการรับซื้อและจำหน่ายได้ถึงวันละ 200 ตัน เท่ากับเป็นการยืดอายุผลผลิตการเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่ ทำให้สินค้ามีราคาดี ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น 
          สำหรับจุดเด่นของแต่ละโครงการ คือ ฟาร์มตัวอย่างที่ธารโต จังหวัดยะลา มีจุดเด่นในเรื่อง การเพาะเห็ด และแปรรูป ฟาร์มตัวอย่างหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ไอร์บือแต ที่นราธิวาส มีจุดเด่นเรื่องเลี้ยงแพะและผลิตนมแพะพาสเจอร์ไรซ์ ตลาดกลางการเกษตรและห้องเย็นที่ปัตตานี เป็นศูนย์กลางการรับซื้อ ขายสินค้าชุมชน 
          "โครงการเหล่านี้ ทำให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้น วิสาหกิจชุมชนก็เข้มแข็งและพร้อมที่จะก้าวไปเป็นโอทอป หรือเอสเอ็มอี ซึ่งความเป็นความตั้งใจของสสว.ที่จะทำให้ชุมชนเหล่านี้มีความเข้มแข็ง และพัฒนาเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศต่อไป ซึ่งในปีนี้ เป็นปีสุดท้ายที่สสว.จะได้รับผิดชอบ จากนั้นจะได้ส่งมอบให้กับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเป็นผู้ดำเนินการต่อไป" นางสาลินีกล่าวในที่สุด

ข่าวสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม+จังหวัดชายแดนใต้วันนี้

เริ่มแล้ว! Kind + Jugend ASEAN 2025 งานแสดงสินค้าสำหรับแม่และเด็กระดับภูมิภาค ดันผู้ประกอบการไทย อาเซียนสู่ตลาดโลก

งานแสดงสินค้านานาชาติ Kind Jugend ASEAN 2025 จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ โดยมีเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสินค้าแม่และเด็กในภูมิภาคอาเซียนสู่ตลาดโลก ภายใต้ความร่วมมือจาก Koelnmesse เยอรมนี และพันธมิตรระดับชาติ อาทิ หอการค้าไทย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ในปีนี้ Kind

สสว. ร่วมกับ มธ. จัดกิจกรรมโรดโชว์ รับสมั... สสว. ร่วมมือ มธ. เฟ้นหาสุดยอด SME แห่งชาติ ครั้งที่ 17 หวังดันเศรษฐกิจขยายตัวกว่า 100 ลบ. — สสว. ร่วมกับ มธ. จัดกิจกรรมโรดโชว์ รับสมัครผู้ประกอบการ MSME 5...

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่... สสว. จัดงาน "ปลดล็อคความสำเร็จ SME" ปี 2568 — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะจัดงานเผยแพร่นโยบาย/โครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการส่ง...

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคา... SME D Bank ลุยโครงการเติมความรู้บัญชีภาษี ปูทางพาเอสเอ็มอีถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำเพียง 3%ต่อปี — นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนา...